ประหยัดจริงหรือ ? เปิดโผข้อดี-ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจซื้อรถ EV | เงินทองของจริง

3,984 ครั้ง

25 ก.ย. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว รถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ราคาน้ำมันมีความผันผวน การเลือกซื้อรถ EV จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหายานพาหนะใหม่ บทความนี้จะแนะนำข้อควรรู้และพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

แนวโน้มของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าในช่วงปี 2567-2569 จะมียอดจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นดังนี้:

- รถยนต์นั่งไฟฟ้า: เฉลี่ยปีละ 270,000 คัน

- รถโดยสารไฟฟ้า: เฉลี่ยปีละ 2,500 คัน

- รถยนต์เชิงพาณิชย์ไฟฟ้า: เฉลี่ยปีละ 1,000 คัน

ปัจจัยที่ส่งเสริมการเติบโตนี้ ได้แก่:

1. มาตรการ EV3.5 (ปี 2567-2570) ที่รัฐบาลให้เงินสนับสนุน 50,000-100,000 บาทต่อคัน

2. แนวโน้มราคารถ EV ที่จะปรับตัวลงเนื่องจากมีรุ่นและแบรนด์ให้เลือกมากขึ้น

3. อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นก่อนการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตตั้งแต่ปี 2569

4. การใช้รถโดยสารไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในภาครัฐและเอกชน

ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

1. ศึกษาข้อมูลและสเปกของรถ

รถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ BEV (Battery Electric Vehicle) ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ทำให้มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และความเร็วสูงสุดของรถ

2. พิจารณาระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่

ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่แตกต่างกันตามรุ่นและวิธีการชาร์จ:

- การชาร์จแบบธรรมดาที่บ้าน (AC): ใช้เวลาประมาณ 12-16 ชั่วโมง

- การชาร์จแบบเร็วจากตู้ EV Charger: ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง

- การชาร์จแบบด่วน (DC Charging): ใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที

3. การติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน

การมี EV Charger ที่บ้านช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเริ่มต้น

4. งบประมาณที่ต้องใช้

นอกจากราคารถแล้ว ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย:

- ค่าประกัน: มักสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปเนื่องจากค่าอะไหล่ที่แพงกว่า

- ภาษีรถยนต์: ปัจจุบันได้รับการลดหย่อน 80% สำหรับรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง น้ำหนักไม่เกิน 1,500 กก.

- ค่าตรวจสภาพและบำรุงรักษา: ขึ้นอยู่กับกำหนดการของแต่ละแบรนด์

- ค่าไฟฟ้า: ควรคำนวณค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นจากการชาร์จที่บ้าน

5. เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ

ควรเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและบริการหลังการขายที่ดี เพื่อความมั่นใจในระยะยาว

ข้อดีของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

1. ประหยัดค่าเชื้อเพลิง: ค่าไฟฟ้าต่อกิโลเมตรถูกกว่าค่าน้ำมันมาก

2. ค่าบำรุงรักษาต่ำ: มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวน้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป

3. สิทธิประโยชน์ทางภาษี: ได้รับการลดหย่อนภาษีในหลายกรณี

4. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ลดการปล่อยมลพิษ

รถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แม้ว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป แต่ด้วยค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ต่ำกว่าและนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้รถ EV เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของตนเองมากที่สุด

พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital