logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ประชาชน แห่ตรวจสอบสิทธิ์-ผูกพร้อมเพย์ รอรับเงินหมื่น | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากเมื่อวาน กระทรวงการคลังแถลงชัดเจนว่า จะโอนเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ทิน โชคกมลกิจ,จีรนันท์ เขตพงศ์,สันติวิธี พรหมบุตร

425 ครั้ง
|
18 ก.ย. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากเมื่อวาน กระทรวงการคลังแถลงชัดเจนว่า จะโอนเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ ในชื่อโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 โดยจะเริ่มโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน วันที่ 25-30 กันยายน ทำให้วันนี้ มีคนมาแห่ตรวจสอบสิทธิ์และผูกบัญชีพร้อมเพย์แน่นธนาคาร
 
แห่ตรวจสอบสิทธิ์-ผูกพร้อมเพย์ รอรับเงินหมื่น
 
บรรยากาศที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาอำเภอเมืองพิจิตร เป็นไปอย่างคึกคัก เพราะมีประชาชนจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ ต่างนำสมุดบัญชีธนาคารพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชน มาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อตรวจสอบสิทธิ์การผูกบัญชีพร้อมเพย์ เพื่อเตรียมรอรับเงิน 10,000 บาท ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ที่รัฐบาลจะโอนเงินให้ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน ระหว่างวันที่ 25-30 กันยายนนี้ ทีมข่าวสอบประชาชนที่มาผูกพร้อมเพย์ว่า ถ้าได้เงิน 10,000 บาท จะนำไปทำอะไร 
 
ขณะที่ นายเจษฎา ขาวฉะอ่อน ผู้จัดการ ธนาคาร ธกส.สาขาอำเภอเมืองพิจิตร ให้ข้อมูลว่า ช่วงนี้จะมีประชาชน ต่างนำสมุดบัญชีธนาคารมาตรวจสอบสิทธิ์ รวมถึงมาผูกบัญชีพร้อมเพย์ เฉลี่ยวันละ 250 ราย บางคนก็มาตรวจสอบสิทธิ์ว่า ผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้แล้วหรือยัง บางส่วนมาเปลี่ยนแปลงการผูกบัญชีพร้อมเพย์จากธนาคารอีกแห่งหนึ่งมาเป็น ธนาคาร ธกส. ส่วนบางคนก่อนหน้านี้ ผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้กับเบอร์โทรศัพท์ จึงต้องมาเปลี่ยนแปลงเป็นการผูกพร้อมเพย์กับบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับเงินสด 10,000 บาท
 
แห่ผูกพร้อมเพย์ รอคิวแน่นธนาคาร
 
ส่วนที่ธนาคาร ธกส.สาขาลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ประชาชนต่างทยอยเดินทางมารอคิว ตั้งแต่ช่วงเช้า มาตรวจสอบสิทธิ์การผูกบัญชีพร้อมเพย์ บางส่วนก็นำโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมาให้เจ้าหน้าที่โหลดแอปฯ ของธนาคาร สอบถามประชาชนหลายรายบอกว่า รู้สึกดีใจที่จะได้เงิน 10,000 บาท พร้อมขอบคุณทางรัฐบาลที่อนุมัติเงินให้ จะนำเงินที่ได้มาไปซื้อข้าวของในครัวเรือน และใช้เงินส่วนนี้อย่างคุ้มค่า
 
เปิดวิธีตวจสอบ-ผูกพร้อมเพย์
 
ย้ำกันอีกครั้งสำหรับการผูกพร้อมเพย์ผ่านหมายเลขบัตรประชาชน เพื่อรับเงินสวัสดิการจากรัฐ สมัครได้ 3 ช่องทาง คือ 1.ติดต่อกับสาขาธนาคารที่มีบัญชี 2.ผ่านตู้เอทีเอ็ม 3.ผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงค์กิ้ง โดยการผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน กรณีทำรายการที่สาขาธนาคาร ต้องเตรียมสมุดบัญชีเงินฝาก และบัตรประชาชนตัวจริง เพื่อทำธุรกรรม ซึ่ง 1 หมายเลขบัตรประชาชน ผูกบัญชีได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น
 
ซึ่งวิธีผูกพร้อมเพย์ ผ่านแอปธนาคาร วันนี้ ยกตัวอย่างธนาคาร ธกส. สามารถสมัครพร้อมเพย์ผ่านแอปฯ ธ.ก.ส. A-Mobile กดเข้าแอปเลือก ตั้งค่า เลือก ตั้งค่าบัญชีพร้อมเพย์ เลือก ลงทะเบียนพร้อมเพย์ เลือกบัญชีที่ต้องการผูกพร้อมเพย์ กดยอมรับ ใส่รหัสผ่าน 6 หลัก ระบบจะแจ้งรายการลงทะเบียนสำเร็จ เลือก ปิด เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
 
ส่วนวิธีตรวจสอบการผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน กรณีไม่แน่ใจว่าบัตรประชาชนผูกกับพร้อมเพย์บัญชีธนาคารไหน ตรวจสอบได้ผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคาร ด้วยการเข้าแอปฯ ของธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ เลือกเมนูบริการ แล้วกดพร้อมเพย์ ระบบจะแสดงข้อมูลการผูกพร้อมเพย์ ว่าผูกกับบัญชีธนาคารไหน โดยย้ำให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ เร่งผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน และสำหรับคนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการหรือบัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ ขอให้ไปต่ออายุบัตร เพื่อรับสิทธิตามโครงการดังกล่าว เพราะหากโอนไม่ผ่านครั้งแรก ทางกระทรวงการคลังจะโอนซ้ำอีก 3 ครั้ง ถ้ายังโอนไม่สำเร็จจะยุติการจ่ายเงิน
 
วราวุธ เผยขยายเวลาขึ้นทะเบียนคนพิการถึง 3 ธ.ค.67
 
ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยข่าวดีว่า ขอฝากถึงพี่น้องคนพิการทุกคนทั่วประเทศว่า วันนี้รัฐบาลได้ขยายเวลาขึ้นทะเบียนให้กับคนพิการทุกคนทั่วประเทศ ไปจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เพื่อจะได้รับสิทธิในการรับเงิน 10,000 บาท จึงฝากไปถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หรือที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นคนพิการ ขอให้เร่งมาขึ้นทะเบียน ออกบัตรประจำตัวคนพิการ เพื่อรักษาสิทธิในการรับเงิน 10,000 บาท
 
ซึ่งขณะนี้ กระทรวง พม. ได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ในการขึ้นทะเบียนออกบัตรประจำตัวคนพิการ ให้มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยคนพิการสามารถไปที่โรงพยาบาลศูนย์ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขึ้นทะเบียนออกบัตรประจำตัวคนพิการได้ เป็นวันสต็อปเซอร์วิส
 
ทั้งนี้รัฐจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาท ให้กับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการประมาณ 2.15 ล้านราย ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการที่ได้รับข้อมูลจาก อปท. กทม. และเมืองพัทยา หรือ บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของคนพิการ ส่วนคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการที่หมดอายุ จะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และแจ้งยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางทราบ จึงจะได้รับสิทธิ
 
ทั้งนี้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ เริ่มตรวจสอบสิทธิ์รับเงิน ตั้งแต่ 24 กันยายน 2567 ผ่านช่องทาง เว็บไซต์โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 เว็บไซต์ โครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม แอปพลิเคชัน รัฐจ่าย และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบอัตโนมัติ โทร. 0-2109-2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ 
 
ประเสริฐ ยันพัฒนาแอปฯ ทางรัฐ ใช้เป็นช่องทางจ่ายเงิน
 
ส่วนความคืบหน้าการแจกเงินในเฟส 2 กับผู้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ซึ่งเมื่อวาน ทางกระทรวงการคลัง ก็ยืนยันว่า จะแจกเงินให้กับประชาชนในเฟส 2 ต่อไป แต่ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่า จะโอนเงินช่วงไหนและจะจ่ายในรูปแบบดิจิทัล 100 หรือไม่
 
แต่เรื่องความคืบหน้าแอปฯ ทางรัฐ มีความคืบหน้า วันนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยืนยันว่า ปัจจุบันแอปฯนี้ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลมุ่งหวังให้แอปฯ นี้เป็นซูเปอร์แอปที่จะเป็นแอปฯ หลักรองรับการให้บริการต่าง ๆ ที่ภาครัฐจะให้บริการกับประชาชนอย่างครอบคลุมในเรื่องอื่น ๆ ไม่ได้ใช้เป็นครั้งคราวแต่ใช้ต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีในอนาคตก็จะใช้แอปฯ นี้ด้วย โดยจะพัฒนาให้แอปฯ สามารถรองรับการจ่ายเงินให้กับประชาชนได้ อย่างไรก็ตามขึ้นกับการตัดสินใจของกระทรวงการคลังอีกครั้ง
 
สรวงศ์ เล็งฟื้น คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน
 
ส่วนโครงการเก่า ๆ ยอดฮิตทั้ง คนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกันในสมัย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่มีมาแล้วถึง 5 เฟส ก็มีแนวคิดจะฟื้นกลับใช้อีกครั้ง นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ต้องการผลักดัน กระตุ้นความต้องการให้คนเที่ยวไทยได้จริงเงินสดในระบบจะหมุนเวียนได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นสนับสนุนเรื่องการเดินทาง ที่พัก คล้าย ๆ โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน หรือ คนละครึ่ง แต่ควรทำทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือโรงแรม 2 ดาว ก็มีสิทธิที่จะได้ใช้โปรโมชันนี้ ซึ่งหลังจากมีแนวคิดนี้ ทางผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออกมาขานรับว่า เบื้องต้น ททท. มีความพร้อม สามารถดำเนินการได้ทันที
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง