หนุ่มร้อง ! แฟนสาวถูกตำรวจขับรถชนเสียชีวิต แล้วหลบหนี | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

733 ครั้ง

17 ก.ย. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มร้องขอความเป็นธรรม หลังแฟนสาวถูกตำรวจขับรถชนจนเสียชีวิตแล้วหลบหนี แถมพบพิรุธคล้ายมีการช่วยเหลือตำรวจที่ก่อเหตุ

หนุ่มรายนี้โพสต์เรื่องผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า แฟนผมถูกตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ชนแล้วหนี เรื่องเกิดเมื่อช่วงเกือบ 22.00 น. วันที่ 11 กันยายน แฟนผมถูกตำรวจชน และมีแผ่นป้ายทะเบียนรถของตำรวจนายดังกล่าว ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

ต่อมาช่วงเที่ยงคืน วันที่ 12 กันยายน ผมเดินทางมาที่ สภ.บ้านเป็ด เพื่อลงบันทึกประจำวัน ก่อนจะมีเพจเฟซบุ๊กของมูลนิธิแห่งหนึ่งในพื้นที่ ลงรายละเอียดของอุบัติเหตุครั้งนี้ไว้ แต่ข้อมูลไม่ตรงกับความจริง ระบุว่ารถจักรยานยนต์ล้มเอง และเสียชีวิต ก่อนมีคนมาคอมเมนต์ว่าเป็นเหตุชนแล้วหนี ทางเพจจึงมีการแก้ไขโพสต์ แต่ต่อมาทางเพจได้แก้ไขกลับไปเป็นรถจักรยานยนต์ล้มเอง และเสียชีวิตเหมือนตอนแรก และได้ลบคอมเมนต์สำคัญไป ทั้งยังปิดคอมเมนต์สำหรับโพสต์นี้ ต่อมาทางร้อยเวรได้โทรมาหาผมว่าทราบตัวคู่กรณีแล้ว แต่บอกแค่ชื่อ ไม่บอกนามสกุล

เช้าวันที่ 13 กันยายน ผมเข้าไปที่ สภ. บ้านเป็ด เพื่อขอบันทึกประจำวัน แต่บันทึกประจำวันระบุว่าแฟนผมขับรถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน และเสียชีวิต ซึ่งไม่มีการระบุใด ๆ เกี่ยวกับรถชนแล้วหนี ลงบันทึกแบบนี้มันได้เหรอ?

วันที่ 16 กันยายน 2567 ผมเข้าไปที่ สภ.บ้านเป็ด เพื่อถามเรื่องการชดเชยเยียวยา และได้คุยกับตำรวจคู่กรณี จนทราบว่าก่อนเกิดเหตุขับรถออกจากโรงพัก และชนแฟนผมตอน 22.00 น. และไม่ได้เป่าแอลกอฮอล์ทันที แต่มาเป่าช่วง 15.00 น. ของอีกวันหลังเกิดเหตุ

ต่อมาในบันทึกประจำวันที่มาคุยในเรื่องค่าเสียหาย ตำรวจเจ้าของคดีไม่ยอมลงข้อมูลว่า คู่กรณีหลบหนี ตอนนี้ผมกลัวแฟนไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมคิดว่า สภ.นี้แปลก เหมือนจะพยายามช่วยพวกเดียวกัน วอนสื่อต่าง ๆ ช่วยผมทีครับ

ล่าสุด นายบอย เจ้าของโพสต์ และแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้ยังติดใจเรื่องบันทึกประจำวัน ตั้งแต่วันที่แจ้งความว่าตำรวจที่ก่อเหตุมีพฤติการณ์หลบหนี แต่ทางพนักงานสอบสวนไม่ลงข้อมูลให้ ตนถกเถียงกับทางตำรวจนานเกือบครึ่งชั่วโมง จนสุดท้ายตำรวจจึงยอมลงให้ว่าหลบหนีจากที่เกิดเหตุ ทำให้รู้สึกติดใจการทำงานของตำรวจเหมือนว่าจะช่วยกัน พยายามทำให้โทษเบาลงหรือไม่

ส่วนในทางคดีขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะส่วนตัวมองว่าคนเป็นตำรวจไม่ควรมีพฤติกรรมเช่นนี้ เพราะหากวันเกิดเหตุคู่กรณีอยู่ช่วยเหลือแฟนสาวของตนจนสุดความสามารถ ก็พอจะพูดคุยไกล่เกลี่ยได้ แต่เป็นตำรวจชนแล้วหลบหนีแบบนี้ ควรได้รับโทษหนักสถานเดียว

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ พบภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงก่อนถึงจุดเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จะเห็นแสงไฟบนถนนตรงกลางจอภาพ สักพักจะมีแสงไฟของรถกระบะที่ตำรวจขับมาชนถังขยะข้างทาง สาดเข้ามาในซอยที่มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ก่อนที่แสงไฟที่สาดมาจะหายไป โดยในที่เกิดเหตุยังพบเศษซากรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตตกอยู่

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับเจ้าของกล้องวงจรปิดเล่าว่า รถกระบะคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วพอสมควร และขับในลักษณะส่ายไปส่ายมาเลื้อยเป็นงู แล้วชนเข้าที่ถังขยะหน้าปากซอย ก่อนจะขับออกไปแล้วชนกับรถจักรยานยนต์อย่างแรง จนรถและคนขี่กระเด็นไปคนละทิศละทาง สภาพหญิงคนขี่ตอนนั้นกะโหลกเปิดก่อนจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจากที่ชน รถกระบะคันดังกล่าวก็จอดอยู่สักพัก ก่อนขับหลบหนีไป

ล่าสุดพบว่าตำรวจที่ก่อเหตุคือ จ่าแซม ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ที่ข่าวเย็นประเด็นร้อนเคยนำเสนอข่าวไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา กรณีที่ จ่าแซม ดื่มเหล้าจนเมา แล้วไม่ยอมจ่ายค่าอาหารร้านหมูกระทะ พร้อมท้าให้ไปฟ้องผู้กำกับ

โดยครั้งนั้นมีกระแสข่าวว่า จ่าแซม มีอาการป่วยทางจิต แต่ต่อมา ทาง พ.ต.อ.ณรชต แก้วเพชร ผู้กำกับ สภ.บ้านเป็ด ออกมาชี้แจงว่า จ่าแซม ไม่ได้ป่วยทางจิต แต่มีพฤติกรรมติดเหล้า และป่วยซึมเศร้า ซึ่งตอนนั้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน และลงโทษทางวินัยไปแล้ว จนกระทั่งล่าสุดมาก่อเหตุสลด เมาแล้วขับรถชนชาวบ้านเสียชีวิต

โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง สภ.บ้านเป็ด พบรถกระบะของจ่าแซม จอดอยู่ที่หน้าโรงพัก สภาพด้านหน้ามีร่องรอยเฉี่ยวชน และป้ายทะเบียนหลุดหาย ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ผู้กำกับ สภ.บ้านเป็ด ทางโทรศัพท์ ทราบว่า ในทางคดีได้แจ้งข้อกล่าวหากับจ่าแซม ในข้อหา ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายแล้ว

ในส่วนของการหลบหนีนั้น จะต้องสอบปากคำ จ่าแซม อย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะในวันเกิดเหตุนั้นฝนตก ประกอบกับเส้นทางมืด โดยคำให้การเบื้องต้นของจ่าแซม บอกว่า ไม่ทราบว่าวันเกิดเหตุได้ไปชนใครหรือไม่ จนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน ร้อยเวรเจ้าของคดีพบทะเบียนรถตกอยู่ที่เกิดเหตุ จึงได้โทรตามจ่าแซมมาที่โรงพักว่าใช่ทะเบียนรถของจ่าแซมหรือไม่ ซึ่ง จ่าแซม ก็รับว่าใช่ เป็นทะเบียนรถของตัวเองจริง

ส่วนการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นั้น เนื่องจากในวันเกิดเหตุ เจ้าตัวไม่ได้อยู่ในจุดเกิดเหตุทำให้ไม่ได้เป่าวัดตั้งแต่แรก แต่มาเป่าในวันต่อมา ซึ่งต้องรอดูผลว่าจะสามารถตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้วขึ้นค่าวัดหรือไม่ หากไม่มีก็จะตรวจสอบพฤติการณ์ในวันเกิดเหตุว่ามีการดื่มสุราหรือไม่ เพื่อจะได้แจ้งข้อหาเพิ่ม แต่ทั้งนี้ในส่วนของทางคดีนั้นยืนยันดำเนินการตามขั้นตอนไม่มีละเว้น

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35