logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ลุ้นระทึก ! เฝ้าระวังน้ำป่าระลอกสอง ในพื้นที่อำเภอแม่สาย | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงราย ระดับน้ำในแม่น้ำกก ลดลงแล้ว 1 เมตร ตัวเมืองเริ่มแห้ง ชาวบ้านดีใจใก ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

4,600 ครั้ง
|
13 ก.ย. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงราย ระดับน้ำในแม่น้ำกก ลดลงแล้ว 1 เมตร ตัวเมืองเริ่มแห้ง ชาวบ้านดีใจใกล้กลับสู่ภาวะปกติ แต่ที่แม่สาย หลายจุดยังน้ำท่วมสูง ชาวบ้านยังรอความช่วยเหลือ/และมีแนวโน้ม อาจเกิดน้ำป่าระลอกสองตามมา
 
คลิปที่ชาวบ้านถ่ายไว้ กระแสน้ำป่าที่ยังไหลเชี่ยวในพื้นที่แม่สาย ชาวบ้านกลัวว่าอาจเป็นน้ำป่าระลอกสองที่หลากเข้าท่วม
 
ในโพสต์ระบุว่า มาอีกแล้ว น้ำขึ้นเร็วมาก ความหวังจะออกไปริบหรี่ลง ซอยไม้ลุงขน 4/1 เป็นซอยที่รับน้ำจากจุดกำแพงพังของสวนสุขภาพไม้ลุงขน รับแม่น้ำสายที่รั่วมาโดยตรง ผู้ประสบภัยพื้นที่สีแดงเข็มแจ๋เลยทีเดียว ณ จุดนี้ขอชีวิตรอดออกไปก็พอ ขอฝนจงหยุดเถิด
 
นอกจากนี้ยังมีภาพเหตุการณ์ เจ็ตสกีของเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านล่ม เพราะต้านทานความแรงของกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากไม่ไหว
 
เจ้าหน้าที่ดึงเจ็ตสกีไม่อยู่ ต้องปล่อยให้ลอยไปตามกระแสน้ำ สุดท้ายก็กู้ขึ้นมาได้ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
 
หลายชุมชนในแม่สายน้ำยังท่วมสูง โดยเฉพาะชุมชนเกาะทราย ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาย หลายคนยังติดในบ้านไม่สามารถออกมาได้ เพราะกระแสน้ำยังไหลแรง ยังรอการช่วยเหลือ และรอรับอาหาร
 
ล่าสุด มีภาพตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจน้ำ เข้าช่วยเหลืออพยพเด็ก และผู้สูงวัย และประชาชนออกจากพื้นที่ รวมทั้งนำอาหารและน้ำดื่มส่งให้ประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ภายในบ้านเรือน
 
ขณะที่พื้นที่ด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดบริเวณด่านพรมแดน ซึ่งเสียหายอย่างหนัก มีโคลนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกน้ำท่วมพัดเสียหาย และเปิดให้ข้ามพรมแดนระหว่างกันโดยให้เฉพาะคนข้าม ส่วนรถยนต์ยังห้ามอยู่ เพราะพื้นที่ยังเต็มไปด้วยโคลน
 
อย่างไรก็ตาม ช่วงประมาณ 10.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ใช้รถแบ็กโฮ โกยดินโคลนออกจากหน้าตลาดสายลมจอย ใกล้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์ แห่งที่ 1 พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย จมอยู่ในโคลน ชื่อ นายอภิชา อายุ 60 ปี ชาวบ้านตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย
 
โดยมีรายงานว่า วันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา มีน้ำป่าหลากมาจากบ้านถ้ำผาจมตั้งแต่เช้า ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. กระแสน้ำแรงมากทราบว่านายอภิชาที่มีบ้านและร้านค้าอยู่ใกล้บริเวณตลาดสายลมจอย พยายามจะหนีน้ำออกไป แต่ระหว่างที่ข้ามน้ำ ก็ถูกกระแสน้ำพัดหายไปอย่างไร้วี่แวว ลูก ๆ ได้โพสต์ตามหาพ่อ ก่อนจะมาพบว่าเสียชีวิตอยู่ใต้โคลน มีรายงานว่าเบื้องต้นว่ามีคนเสียชีวิตไปแล้วในเหตุกาณ์น้ำท่วมแม่สาย 3 คน และสูญหาย 1 คน
 
ส่วน บำเรอ หมูแสนรู้ ที่เพิ่งช่วยออกมาจากน้ำท่วมได้แค่วันเดียว สุดท้ายไม่สบายหนัก ลากลับดาวหมูไปแล้ว
 
โดยเพจเฟซบุ๊ก คนรักสุนัขและแมว เชียงราย แจ้งข่าวเศร้าของ บำเรอ หมูที่ถูกช่วยจากเหตุการณ์วิกฤตน้ำท่วมในอำเภอแม่สาย ระบุว่า บำเรอ มาลาทุกคนก่อนนะ น้ำท่วมปีนี้พราก บำเรอ ไปจากเรา เมื่อวาน บำเรอ เผลอกินน้ำเข้าไป น้ำขึ้นเร็วมาก บำเรอ ก็ช่วยกลืนน้ำไปเผื่อน้ำจะลดบ้าง แต่ลืมนึกไปว่าน้ำมันไม่สะอาดและไม่อร่อยสักนิดเลย ทำให้ บำเรอ ไม่สบายเร็วมาก
 
คุณต่าย เจ้าของน้องหมูบำเรอ เปิดใจกับทีมข่าวเย็นประเด็นร้อนว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ที่น้องจากไป เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ จนตอนนี้อายุ 5 ขวบแล้ว สาเหตุคาดว่าน่าจะแช่น้ำนานและสำลักน้ำ ก่อนจะมีอาการซึมและหลับไปเลย 
 
สำหรับความคืบหน้าน้ำท่วมในเขตเมืองเชียงราย ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Waan Potaton โพสต์ภาพและคลิปน้ำท่วมระบุว่า พื้นที่ต้องการความช่วยเหลือด่วน บ้านเมืองงิม บ้านฟาร์ม อำเภอเมืองเชียงราย
 
เป็นสถานการณ์อัพเดทล่าสุด พนังกั้นน้ำแตกเพิ่มทำให้น้ำไหลเชี่ยวแรง เรือใหญ่เข้าไปช่วยบ้านที่อยู่ในซอยเล็กๆ ไม่ได้แล้ว มีผู้สูงอายุและเด็กติดเป็นจำนวนมาก ไม่มีอาหาร ต้องการโดรนบินส่งอาหารและเจ็ตสกีเข้าไปช่วยเหลือ เพราะล่าสุดมีทีมเรือและกู้ภัยเข้า แต่ยังไม่สามารถช่วยออกมาได้
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีคนติดค้างในบ้านเพิ่มขึ้น เพราะตอนแรกระดับน้ำลดลงแล้วชาวบ้านกลับเข้าไป แต่ตอนนี้ ผนังกั้นน้ำแตกเพิ่ม น้ำสูงกว่าเดิมเยอะมาก
 
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครเชียงราย มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ เนื่องจากยังคงมีน้ำจากแม่น้ำกก ไหลเข้าพื้นที่อยู่
 
ชาวบ้านในเขตเทศบาลนครเชียงราย โดยเฉพาะชุมชนเกาะลอย และชุมชนเทิดพระเกียรติ ยังคงติดตามสถานการณ์น้ำภายในชุมชนต่อเนรื่องมาตั้งช่วงเช้า แต่ยังไม่สามารถเข้าไปภายในได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูง แม้ว่าน้ำในแม่น้ำกก ค่อย ๆ ลดระดับลง
 
โดยระดับน้ำ ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา ลดลงไปกว่า 1 เมตรแล้วและค่อยๆ ลดลงต่อเนื่อง ถนนหลายสายในเขตตัวเมืองที่เมื่อวานนี้เกิดน้ำท่วม ขณะนี้แห้งลงแล้ว เหลือแต่เศษดินโคลนที่ไหลมากองกับพื้นถนน
 
ส่วนบริเวณแยกพ่อขุน หน้าอนุสาวรีย์พญามังราย ถนนพหลโยธิน ขณะนี้น้ำที่ท่วมสูงลดลงอย่างเห็นได้ชัด จุดที่น้ำท่วมก่อนถึงแยก 300 เมตร ตอนนี้ลดลงถึงแค่หน้าถนนสิงหไคลไม่ท่วมกลางแยก หรือลานอนุสาวรีย์พญามังรายแล้ว
 
จุดที่น้ำท่วมสูงคงเหลือแต่ช่วงถนนขาออกตัวเมืองเชียงราย ถนนพหลโยธินที่จะไปอำเภอแม่สาย และถนนพ่อขุน แต่สถานการณ์ถือว่าดีกว่าเมื่อวานนี้มาก
 
เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถใช้รถยกสูงขับลุยน้ำขับเข้าไปได้สำรวจได้แล้ว แต่รถเล็กยังไปไม่ได้ต่างจากเมื่อวานที่เข้าไปไม่ได้เลย เนื่องจากน้ำท่วมสูง บางจุดลึกกว่า 1.50 เมตร ต้องใช้เรือเท่านั้น ถึงจะเข้าไปได้
 
ทั้งนี้ จากระดับน้ำที่ลดลง ทำให้ประชาชนชาวเชียงราย ที่ออกมาดูสถานการณ์ ดีใจอย่างมาก ที่ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว และสถานการณ์ใกล้จะคลี่คลายลง
 
ส่วนเส้นทางสะพานข้ามแม่น้ำกก ก็เปิดให้รถวิ่งได้เป็นบางสะพาน โดยสะพานบ้านหนองด่าน (ฮ่องอ้อ) ใช้ได้ 1 เลนฝั่งขาเข้า (รถวิ่งสวนเลนกัน) เช่นเดียวกับ สะพานแม่ฟ้าหลวง (ศาลากลางจังหวัด) ใช้ได้ 1 เลน รถวิ่งสวนทาง สะพานเฉลิมพระเกียรติ (ท.6) รถเล็กยังผ่านไม่ได้ รถ 6 ล้อขึ้นไปผ่านได้
 
ส่วนสะพานขัวพญามังราย (แยก สภ.เมือง) สะพานแม่น้ำกก (แขวงการทางที่1 ชร.) สะพานเฉลิมพระเกียรติ 2 แม่น้ำกก และสะพานแม่น้ำกก เส้นบ้านท่าก่องบง-ท่าข้าวเปลือก รถทุกชนิดผ่านไม่ได้
 
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 07.30 น. สนามบินแม่ฟ้าหลวง กลับมาให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์อีกครั้งในวันนี้ หลังระดับน้ำบริเวณสี่แยกสนามบินลดระดับลงจนกระทั่งรถเล็กสามารถผ่านได้
 
โดยเพจเฟสบุ๊คของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ประกาศแจ้งเที่ยวบินที่ยังไม่แจ้งยกเลิกการบิน จนถึงเวลา 21.51 น. ในวันที่ 13 กันยายน 2567 ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาการเดินทางอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมง
 
อย่างไรก็ตาม ทางหลวง 1418 ซึ่งเชื่อมสนามบินไปยังถนนพหลโยธิน ยังคงมีน้ำท่วมทางบางส่วน รถกระบะทั่วไปสามารถผ่านได้ ผู้ประสงค์จะใช้บริการสนามบิน สามารถขึ้นรถบรรทุกที่การท่าอากาศยานฯ จัดไว้บริการบริเวณป้ายหยุดรถประจำทางข้างห้างบิ๊กซี สี่แยกขัวแคร่
 
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน 13-17 กันยายน จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมประชาชนใะพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
 
ประชาชนในบริเวณดังกล่าวให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
 
จังหวัดในภาคเหนือที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ประกอบด้วย จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
 
ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
 
ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
 
ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
 
เปิดหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือน้ำท่วมเชียงราย
 
ขณะที่ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม มีข้อมูลการช่วยเหลือของกองทุนฯ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
 
สำหรับหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือของกองทุนฯ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ ที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง และที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายบางส่วน โดยมีหลักเกณ์ดังนี้
 
ที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายทั้งหลังและมีการประเมินความเสียหาย
 
เกินกว่า 1 ล้านบาท  จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 150,000 บาท
 
ความเสียหาย 700,000 - 1 ล้านบาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 125,000 บาท
 
ความเสียหาย 500,000 - 700,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 100,000 บาท
 
ความเสียหาย 300,000 - 500,000 บาท  จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ  75,000 บาท
 
ความเสียหายตำกว่า 300,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 50,000 บาท
 
สำหรับที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายบางส่วน และมีการประเมินความเสียหายเกิน 500,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 75,000 บาท
 
ความเสียหาย 300,000 - 500,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ร้อยละ 10 ของประมาณการความเสียหายแต่ไม่เกิน 50,000 บาท
 
ความเสียหาย 100,000 - 300,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ร้อยละ 5 ของประมาณการความเสียหายแต่ไม่เกิน 15,000 บาท
 
หากความเสียหายต่ำกว่า 100,000 บาท จะใช้งบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเยียวยา
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง