ลูกสาวอดีตทหารผ่านศึกโวยโรงพยาบาล เหตุถอดเครื่องช่วยหายใจนานเกือบครึ่งชั่วโมง ทำพ่อเสียชีวิต หลังเกิดเรื่องโรงพยาบาลพยายามไกล่เกลี่ยขอให้จบเรื่อง ด้านครอบครัวมีความเห็นไม่ตรงกัน เป็นเหตุให้แตกคอ จนเกิดเป็นศึกสายเลือด
วันที่ 10 ก.ย. 67 คุณ ทัชชภร แซ่โล้ว (ขวัญ) หลานแท้ ๆ และในฐานะลูกบุญธรรมของผู้เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า วันที่คุณพ่อถอนเครื่องช่วยหายใจ ทางโรงพยาบาลให้ตนรับพ่อกลับบ้าน แต่ตนไม่สามารถรับพ่อกลับบ้านได้ ตนจึงแจ้งโรงพยาบาลว่าขอรับพ่อกลับบ้านวันที่ 28 มิ.ย. แต่ได้รับคำตอบจากทางโรงพยาบาลว่าผู้ป่วยคนอื่นก็ต้องการเตียง ICU เหมือนกัน
โดยเขาย้ายเตียงพ่อในคืนวันอังคาร ที่ 25 มิ.ย. เวลาประมาณ 4 ทุ่ม โดยที่ตนไม่ได้รับรู้ เมื่อถึงวันรับพ่อกลับที่แจ้งไว้กับทางโรงพยาบาล โรงพยาบาลเตรียมตัวพ่อเพื่อให้สะดวกกับการเคลื่อนย้าย แต่เหมือนจะถอนเครื่องช่วยหายใจนานเกินไป พ่อของตนเจาะคออยู่ ก่อนหน้านั้นมีการให้พ่อตนฝึกหายใจ โดยแจ้งตนว่าพ่อหายใจได้ดีขึ้น หายใจได้นานขึ้น ก่อนออกจากโรงพยาบาลก็แจ้งอีกว่า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พ่อจะได้ออกจากโรงพยาบาล
วันที่ 25 มิ.ย. หมอมาแจ้งใหม่อีกว่า ต้องใช้ออกซิเจน 24 ชั่วโมง มันกะทันหันตนจึงหาถังไม่ได้ หลังจากย้ายพ่ออาการไม่ดีขึ้น พ่อขาดอากาศหายใจ จนสุดท้ายต้องปั๊มหัวใจ ช่วงที่ปั๊มหัวใจพ่อฟื้นตัวได้ไม่นาน ก่อนจะเสียชีวิต ตนตัดสินใจออกมาร้องเรียนพยาบาล เพราะตนรู้ว่าเป็นความผิดพลาดและความประมาทของทางพยาบาลแน่นอน
ทางโรงพยาบาลจะจ่ายเงินเยียวยาให้ตน แต่ตนยังไม่รับ เพราะอยากให้โรงพยาบาลรักษาพ่อให้เต็มที่ก่อน เพราะเคสของพ่อ มันไม่ปกติ ตนต้องการให้โรงพยาบาลออกมารับผิดชอบไม่ได้ต้องการเงินเยียวยา ต้องมีอีกกี่เคสที่โดนแบบพ่อของตน ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก
ด้าน คุณศรีอรุณ แซ่โล้ว (ตุ๊ก) ลูกคนที่ 5 และ คุณศรีประภา แซ่โล้ว (ภา) ลูกคนที่ 4 เล่าว่า ทางหลานไม่ให้เราเยี่ยม ไม่ให้เข้าไปยุ่งกับพ่อตัวเอง ตนก็เคยไปเยี่ยมอยู่ครั้งหนึ่ง แต่ทางหลานบอกว่าไม่อยากให้เข้าไปยุ่งกับการรักษาของพ่อ เขาจะจัดการเอง ตนไม่ทราบว่าจะมีเงินเยียวยาอะไร พอพ่อเสียก็โทรมาบอกว่าจะเอาศพกลับบ้าน ตนก็คิดว่าหลาย ๆ ครั้ง เวลามีงานแบบนี้ ไม่เคยมีใครเข้ามาช่วย เรื่องเงิน 3 แสน ทางตนก็ไม่ได้รับ มีแต่โรงพยาบาลเรียกเข้าไปคุย ความว่าอาจจะรักษาผิดพลาดจริงทางตนรับได้ไหม
พ่ออยู่นครนายกตลอด แต่ทางคุณขวัญต้องการจะรับพ่อไปดูแลเพื่อตอบแทนบุญคุณ ตนคิดว่าถ้าอยู่กับขวัญการเดินทางไปรักษาของพ่อจะสะดวกกว่าอยู่กับตน ตนยอมรับว่าขวัญก็ดูแลพ่อเป็นอย่างดี ที่ตนออกมาพูดเพราะอยากให้ขวัญหยุดโพสต์ประจาน มันไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่ได้ติดใจที่จะเอาความกับทางพยาบาล
อธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ให้ความเห็นว่า เบื้องต้นที่ได้คุย ก็เดินทางไปบ้านคุณขวัญและตรวจสอบเอกสารหลักฐานก็ชี้ชัด เรื่องของคนในครอบครัวทะเลาะกันตนจะไม่ยุ่ง แต่ที่ตนรับเรื่องตนอยากช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคุณพ่อคุณขวัญ
ด้าน นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้ความเห็นว่า โรงพยาบาลเป็นสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขจริง ตนได้รับเรื่องและพิจารณาตามข้อเรียกร้อง เรื่องการตรวจสอบพยาบาล เรื่องการเยียวยา โดยเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นทางข้อกฎหมายจะดำเนินไปทางใดได้บ้าง ที่ตนรู้สึกได้คือ การทะเลาะกันก็เพราะรักคุณพ่อ ไม่ใช่เรื่องสมบัติ ทั้งสองฝ่ายต่างรักคุณพ่อ อยากให้เรื่องเป็นไปตามกระบวนการในการสืบสวนสอบสวน เรื่องสงสัยการดูแลของพยาบาลตนก็ได้ตั้งสอบเรียบร้อย
แต๋น (นามสมมติ) ลูกคนที่ 7 เล่าว่า ตนใช้ชีวิตอยู่กับคุณขวัญมาตลอดตั้งแต่เด็ก อยากให้คิดถึงน้ำใจที่พี่สาวดูแลคุณพ่อมาตลอดด้วย พี่น้องช่วยกันดูแลมาตลอด เรื่องเอกสารมาตรา 41 ตนไม่ได้ขอเงินเยียวยากับทางโรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลยื่นเอกสารมาตรา 41 มาให้เราศึกษา ไม่ได้โยนมาแล้วให้เขียนตามที่คุณขวัญแจง ถ้าวันนี้ถามว่าได้เงินเยียวยาแล้วรับไหม ขอตอบว่ารับ เพราะอยากจะรักษาสิทธิ์ของพ่อทุกอย่าง
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35