Soft Power สู่ Sustainable Tourism: กลยุทธ์ใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวยุค 2024 | เงินทองของจริง

การท่องเที่ยวไทยกำลังเผชิญกับช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและโอกาสครั้งสำคัญ แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ แต่แนวโน้มในปัจจุบันชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งและบทบาทสำคัญของภาคการท่องเที่ยวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

 

สถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต

 

ตามข้อมูลจาก Krungthai COMPASS การท่องเที่ยวไทยกำลังมีแนวโน้มที่น่าตื่นเต้น:

 

- ปี 2567 : คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 36.45 ล้านคน

- ปี 2568 : คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน

- รายได้รวม : คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 2.65 - 3 ล้านล้านบาท

 

แม้ว่าการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนจะยังคงช้า แต่ประเทศไทยยังได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักอื่นๆ เช่น มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย ซึ่งบางประเทศมีการทำสถิตินักท่องเที่ยวสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนักท่องเที่ยวและเทรนด์ใหม่

 

ยุคหลังโควิด-19 ได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้เกิดรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ๆ ภายใต้ 4 แรงขับเคลื่อนหลัก:

 

1. Soft power

2. Net zero emission

3. Workcation

4. Health

 

จากแรงขับเคลื่อนเหล่านี้ ทำให้เกิด 6 เทรนด์ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ:

 

1. ท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism)

 

นักท่องเที่ยวมุ่งเน้นการสัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น:

- การชิมอาหารท้องถิ่น

- การเข้าร่วมทัวร์อาหาร

- การเรียนรู้วิธีการทำอาหารแบบดั้งเดิม

 

2. ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism)

 

เน้นการศึกษาและสัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับ:

- วัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น

- ศิลปะพื้นบ้าน

- ประวัติศาสตร์ของแหล่งท่องเที่ยว

 

3. ท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ (Film Tourism หรือ Film-Induced Tourism)

 

เกิดจากความนิยมของสถานที่หรือเมืองที่ปรากฏในภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์ นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปยังสถานที่ถ่ายทำเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่เห็นในสื่อ

 

4. ท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (Sustainable Tourism)

 

มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดย:

- ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

- สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น

- รักษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

5. เที่ยวไปด้วยทำงานไปด้วย (Digital Nomad Tourism)

 

นักท่องเที่ยวสามารถทำงานได้จากทุกที่ โดยใช้เทคโนโลยีและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เน้นการเลือกสถานที่ที่เหมาะสมทั้งสำหรับการทำงานและการพักผ่อน

 

6. ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism)

 

มุ่งเน้นการฟื้นฟูสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของนักท่องเที่ยว ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น:

- การทำสปา

- การบำบัดด้วยธรรมชาติ

- การเข้าร่วมโปรแกรมสุขภาพ

 

การท่องเที่ยวไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย การปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ใหม่ๆ และการตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักท่องเที่ยวจะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปล้วนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพ