พี่สาวช็อก เชื่อน้องสาวแท้ ๆ หวังฮุบสมบัติ แอบปั๊มรอยนิ้วมือแม่เพื่อโอนที่ดินไปเป็นของตัวเอง แถมยังนำเงินจากบัญชีของแม่ไปใช้นานหลายปี รวมมูลค่ากว่าหลายร้อยล้านบาท
วันที่ 4 ก.ย. 67 คุณปรีญา (แมว) ผู้ร้องทุกข์ว่าน้องสาวแท้ ๆ ฮุบมรดก และ คุณลัดดา (ดา) ลูกสาวของผู้ร้องทุกข์ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ครอบครัวของตนมีพี่น้องสองคน เดิมทีอาศัยอยู่ในย่านสุขุมวิท แล้วย้ายไปอยู่ที่ย่านทุ่งครุ จึงปล่อยเช่าที่ดินย่านสุขุมวิท ยายปิ่นแม่ของคุณแมวอายุมากแล้วอยู่ในการดูแลของน้องสาว โดยปลูกบ้านอยู่ติดกัน
ยืนยันว่าตนกับน้องสาวไม่มีเรื่องผิดใจกัน ยกเว้นเมื่อตนสอบถามเรื่องที่ดินของยายปิ่น ที่สงสัยว่าถูกโอนไปให้น้องสาวได้อย่างไร อีกฝ่ายจะไม่ยอมพูดคุยด้วย โดยมารู้ภายหลังเนื่องจากมีการเวนคืนที่ดิน เจ้าหน้าที่บอกว่าที่ดินของยายปิ่นกลายเป็นของน้องสาว นอกจากนี้ยังมีเรื่องเงินค่าเช่าที่ดินย่านสุขุมวิทที่หายไป ซึ่งน้องสาวอ้างว่านำไปซ่อมแซมตึก จากนั้นได้ไปตรวจสอบการเดินบัญชีจากธนาคารย้อนหลัง พบว่ามีเงินเข้ามาแล้วถูกโอนออกไปรวมกว่า 90 ล้านบาท
ฝ่ายน้องสาวอ้างว่าตนไม่รู้กฎหมายจึงไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเกิดความผิดปกติกับยายปิ่นแม่ของตน จากเป็นคนแข็งแรงพูดคุยเสียงดังฟังชัด กลายเป็นคนมีอาการซึม หวาดกลัว และไม่เคยรู้ว่ายายปิ่นเป็นโรคจิตเภท เนื่องจากน้องสาวไม่เคยบอก ยืนยันว่าตนไม่เคยหวังเงินจากน้องสาว มีเจตนาเพียงแค่ต้องการแบ่งทรัพย์สินให้แม่ที่ทำงานหนักมาตลอดชีวิต
ทนายวิเชียร อินเรน ทนายความ กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับน้องสาวของคุณแมวกับสามีแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งไปยังอัยการ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ยืนยันว่าคุณแมวยินดีที่จะพูดคุยเจรจาหาทางออกกับน้องสาว
คุณ โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า การใช้สิทธิ์ตามกฎหมายสามารถทำได้เมื่อพบเจอสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การโอนที่ดินสามารถตรวจสอบว่า ขณะที่โอนต้องมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนเพื่อไม่ให้การโอนเป็นโมฆะ
ส่วนเรื่องการใช้ลายนิ้วมือในการโอนที่ดินแล้วมาพบว่าเจ้าตัวยังเซ็นชื่อได้ในช่วงเวลาที่โอน ก็สามารถใช้วิธีการทางกฎหมายมาตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ และพร้อมที่จะเป็นคนกลางในการพูดคุยเจรจา เพื่อช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง เนื่องจากคดีความดังกล่าวสามารถยอมความได้
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (หมอหมู) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว ให้ความเห็นด้านการแพทย์ว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวตนเคยเจอคนไข้ที่มาขอใบรับรองสติสัมปชัญญะเพื่อใช้ซื้อขายที่ดิน บางคนที่มีสติครบถ้วนแต่มีปัญหาทางร่างกายก็อาจจะต้องปั๊มลายนิ้วมือบนเอกสารแทน ในกรณีของยายปิ่นอาจจะขึ้นอยู่กับอาการที่แย่ลงจนอาจทำให้เซ็นไม่ได้ แต่ต่อมาอาการดีขึ้นแล้วสามารถเซ็นได้ ซึ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้จะต้องดูที่ช่วงเวลาขณะนั้นว่ายายปิ่นมีอาการอย่างไร
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม