ข่าวเย็นประเด็นร้อน - บิ๊กเต่า นำทีมบุกจับหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ spot check กรมทางหลวงพร้อมลูกสมุนครบยกแก๊ง หลังรวมหัวฉ้อราษฎร์บังหลวงเก็บส่วยรถบรรทุก ขณะที่หลักฐานชัดมัดตัวดิ้นไม่หลุด พบเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 5 ล้านบาท
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางพร้อมด้วย นำกำลังเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่าย เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับส่วยรถบรรทุก เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้งหมด 11 จุดทั่วประเทศ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดนครปฐม จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าว จากปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาคนสำคัญในขบวนการดังกล่าวได้จำนวน 4 คน คือ
1. นายนพดล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ตำแหน่งนายช่างเครื่องกลอาวุโส หัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักอุบลราชธานีขาออก กรมทางหลวง และเป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ Spot check
2. นายอเนก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ตำแหน่งนายช่างเครื่องกลชำนาญงาน หัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักด่านขุนทดขาเข้านครราชสีมา
3. นายธงชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี พลเรือนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน้าเสื่อ
4. นายประทิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เจ้าของบัญชีธนาคาร
โดยตำรวจ แจ้ง 3 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานร่วมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อกลางปี 2566 มีกลุ่มผู้ประกอบการยื่นเรื่องร้องเรียนตามหน่วยงานต่าง ๆ หลังถูกกลุ่มเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ร่วมกับพลเรือน เรียกเก็บส่วยรถเครน และรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้ นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีการสั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและแก้ไข
หลังรับเรื่อง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวมถึง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เร่งสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนพบข้อมูลสำคัญว่าเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ เป็นเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ หน่วยงานในสังกัดของกรมทางหลวง ซึ่งมีหน้าที่สืบสวนจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินที่วิ่งบนทางหลวง แต่กลับใช้อำนาจหน้าที่ในการเป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ เรียกเก็บเงินส่วยรายเดือนจากผู้ประกอบการ เพื่อแลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดี
โดยมี นายธงชัย ที่เป็นพลเรือน คอยทำหน้าที่หน้าเสื่อ เป็นผู้เข้าไปเจรจาเรียกรับเงินแทน หากผู้ประกอบการรายใดไม่ทำตามข้อเรียกร้อง ก็จะถูกกวดขันจับกุมอย่างหนัก จนกระทบต่อกิจการ โดยทำเช่นนี้มานานหลายปี ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการตกเป็นเหยื่อกว่า 30 ราย มีทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็ก ที่อยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท โดยแต่ละรายจะต้องจ่ายส่วยรายเดือน รายละ 100,000 บาท มีเงินส่วยหมุนเวียนตกเฉลี่ยต่อเดือน เดือนละไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ได้มาจะถูกโอนเข้าไปยังบัญชีม้า ที่เปิดโดย นายประทิน ก่อนจะถูกโอนถ่ายไปยังกลุ่มเจ้าหน้าที่หัวหน้าขบวนการตามลำดับ เจ้าหน้าที่จึงเร่งสืบหารวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ กว่า 30 คน รวมไปถึงข้อมูลบัญชีธนาคารผู้รับส่วย, บัญชีม้า, บัญชีผู้จ่ายส่วย, ภาพถ่ายกล้องวงจรปิด, ธนาคาร, กล้องโทรศัพท์มือถือของพยาน ก่อนขออำนาจศาลออกหมายจับจนนำมาสู่การตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และ จังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อนนำตัวเข้าตรวจค้นห้องทำงานที่ด่านบางประอิน และ ด่านวังน้อย พระนครศรีอยุธยา
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35