logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

“กำนันตุ้ย” ชนะ “พรรคประชาชน” ศึก อบจ.ราชบุรี | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวานนี้ มีการเลือกตั้งนายก อบจ. ราชบุรี ซึ่งพรรคประชาชนส่งผู้สมัครลงสู้ศึกเลือกตั้งเป็นครั้งแรก แ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ,จีรนันท์ เขตพงศ์,สันติวิธี พรหมบุตร

2,009 ครั้ง
|
02 ก.ย. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวานนี้ มีการเลือกตั้งนายก อบจ. ราชบุรี ซึ่งพรรคประชาชนส่งผู้สมัครลงสู้ศึกเลือกตั้งเป็นครั้งแรก แต่ปรากฏว่า พ่ายแพ้ให้กับ กำนันตุ้ย แชมป์เก่า มีคะแนนทิ้งห่างเกือบ 70,000 คะแนน
 
กำนันตุ้ย ชนะพรรคประชาชน ศึก อบจ.ราชบุรี
 
องค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง (อย่างไม่เป็นทางการ) ในการเลือก นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) ปรากฏว่า นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือ กำนันตุ้ย อดีตนายก อบจ.ราชบุรี แชมป์เก่า ป้องกันแชมป์ไว้ได้ ได้ไป 242,297 คะแนน ส่วน นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หรือ หวุน จากพรรคประชาชน 175,353 คะแนน ทิ้งห่าง 66,944 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 455,400 คน คิดเป็น 67.31
 
หลังทราบผลการเลือกตั้ง นายวิวัฒน์ ออกมาระบุว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้หลังจากนี้ก็จะทำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนปัญหาเรื่องร้องเรียนหลังจากนี้นั้น นายวิวัฒน์ บอกว่า คิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิดตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ซึ่งก็คิดว่าเราจะได้รับการรับรองการเลือกตั้ง พร้อมแสดงความยินดีกับพรรคประชาชนจด้วยที่มีคะแนนสูงมากกว่า 150,000 คะแนน ก็ถือว่าได้รับความนิยม
 
พรรคประชาชนแถลงยอมรับความพ่ายแพ้
 
ขณะที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายชัยรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี พรรคประชาชน แถลงยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี พร้อมขอบคุณชาวราชบุรีที่ไว้วางใจผม ซึ่งคะแนนเมื่อเทียบกับปี 2563 เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว แม้เราอาจยังไม่ชนะเลือกตั้งนายก อบจ. แต่พรุ่งนี้ยังคงมุ่งมั่นทำงานต่อไป เพื่อทำนโยบายพัฒนาจังหวัดราชบุรี ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
 
วันนี้ นายณัฐพงษ์ ยังโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า วันนี้มาแห่ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวราชบุรี ทุกคะแนนเสียงของพ่อแม่พี่น้องที่ออกไปใช้สิทธิใช้เสียงมีความหมายต่อการพัฒนากระบวนการประชาธิปไตยและการเมืองท้องถิ่น ไม่ว่าคุณจะเลือกใคร คนที่คุณเลือกคือคนที่ถูกต้องที่สุดเสมอของประชาชน นี่คือความสวยงามและความชอบธรรมที่สุดของอาชีพนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน พร้อมทิ้งท้ายว่า ยังมีอีกหลายภารกิจที่เรามีร่วมกันในการเดินหน้าต่อประเทศไทย เพื่อสร้างชาติที่เป็นของประชาชน
 
พิธา ลั่นต้องมีสักวันเป็นของเรา
 
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า ขอขอบพระคุณพี่น้องชาวราชบุรีทุกท่านสำหรับทุกคะแนนเสียงที่มอบให้พรรคประชาชน การเลือกตั้งย่อมมีทั้งแพ้และชนะเป็นธรรมดา เราขอน้อมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ และจะสู้ต่อไปโดยไม่ท้อแท้ ขออย่าได้เสียกำลังใจ พักผ่อนให้เต็มที่ หายเหนื่อยแล้วมาร่วมกันสู้ต่อเพื่อชาวราชบุรี สักวันหนึ่งจะต้องเป็นวันของเรา ผมขอเป็นกำลังใจให้ส่วนตัวแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สูญเปล่าแน่นอน
 
ปารีณา ย้ำเรื่อง 200 ทุกคนรู้หมด เว้น กกต.
 
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า ในพื้นที่มีการซื้อเสียงหัวละ 200 บาทนั้น ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส. จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ บอกว่า การเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรี ครั้งนี้ เป็นการสู้ระหว่างที่ฝ่ายหนึ่งที่มีอาวุธ แต่ฝ่ายหนึ่งมือเปล่า ไม่ค่อยแฟร์เท่าไร มองว่า คนในพื้นที่โอเคมากกับพรรคประชาชน ประเด็น 200 เป็นสิ่งที่พี่น้องรับทราบกันอยู่ว่าคืออะไร เรื่อง 200 รู้ทุกคน ยกเว้น กกต. เท่าที่ทราบว่าขณะนี้มีคนยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งไปแล้ว และคงมีการรร้องเรียนต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ
 
เบื้องต้น ถ้าดูข่าวตามสื่อและการนับคะแนน มองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่อย่างน้อยประชาธิปไตยเริ่มเบ่งบาน
 
ปารีณา เชื่อ บิ๊กป้อม สู้ต่อ หวังเป็นนายกฯ
 
นางสาวปารีณา ยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า เชื่อว่า รัฐบาลเพื่อไทย จะได้อยู่ยาวครบวาระ 4 ปี เพราะมีความมั่นคงแน่นแฟ้น และมีเสถียรภาพ ส่วนตัวไม่ได้โทรไปพูดคุยกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังจากต้องเป็นพรรคฝ่ายค้าน ยังเชื่อว่า พลเอกประวิตร น่าจะเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป เพราะท่านเป็นคนมีบารมี ถึงวันนี้ท่านจะไม่ได้ร่วมรัฐบาล แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจ เพราะจุดมุ่งหมายสูงสุดของท่าน คือ การเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้สนใจเรื่องการเป็นรัฐมนตรี เพราะเป็นมาแล้วหลายสมัย จึงน่าจะต่อสู้ทางการเมืองต่อไป
 
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย นางสาวปารีณา มองว่า ในฐานะประชาชน เห็นผู้ใหญ่หลายคนออกมาโจมตีพรรคตัวเอง รู้สึกไม่สบายใจ คิดว่าไม่มีใครได้เสี้ยวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มองว่า ถ้าไม่พอใจต้องทะเลาะกันในพรรค ถ้าไม่เห็นด้วยกับมติพรรค ก็ลาออกแบบนายอภิสิทธิ์ก็ได้ ไม่ใช่ออกมาโจมตีผ่านหน้าสื่อฯ วันนี้ประชาชนเดือดร้อน นักการเมืองยังทะเลาะกันอีกเหรอ และยังโจมตีพรรคตัวเอง คราวหน้า สส. จะน้อยลงหรือเปล่า
 
มติวุฒิสภาตีตก ญัตติสอบจริยธรรมตุลาการศาล รธน.
 
ส่วนที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อขอให้วุฒิสภามีการตรวจสอบจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนหนึ่ง แสดงความเห็นบนเวทีสาธารณะในเชิงส่อเสียด เย้ยหยันพรรคการเมืองที่ถูกยุบ
 
ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว ถูกสาธารณชนตั้งคำถามถึงการแสดงออกของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จึงขอให้วุฒิสภาได้พิจารณาเป็นเรื่องด่วน พร้อมให้ที่ประชุมลงมติส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ตรวจสอบจริยธรรมกันเองของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
 
แต่ สว. หลายคน ลุกขึ้นอภิปรายโต้แย้ง ตั้งข้อสังเกตว่า ญัตติที่ นางสาวนันทนา เสนอเป็นเรื่องด่วนจริงหรือไม่ บางคนมองว่า เรื่องด่วนตอนนี้คือเรื่องของประชาชนที่ประสบอุทกภัย จึงเห็นว่าญัตติดังกล่าวไม่เหมาะสม และหาก นางสาวนันทนา ต้องการจะตรวจสอบจริง ๆ ควรไปยื่นตรวจสอบตามกรรมกรอิสระตามรัฐธรรมนูญ บางคนเห็นว่าควรไปยื่นเรื่องตรวจสอบกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
 
ทั้งนี้ ประธานการประชุมได้วินิจฉัยให้ นางสาวนันทนา เสนอญัตติด่วนได้ แต่ต้องใช้มติของวุฒิสภาตัดสินว่าจะพิจารณาญัตติด่วนดังกล่าวหรือไม่ โดยผลการลงคะแนนพบว่าเสียงข้างมาก 118 เสียง ไม่เห็นด้วยกับญัตติดังกล่าว ต่อ 37 เสียง และงดออกเสียง 12 เสียง ทำให้ญัตติดังกล่าวต้องเป็นอันตกไป
 
หลังการประชุม นางสาวนันทนา บอกว่า การหยิบยกนำพฤติกรรมของตุลาการบางคนขึ้นมาเป็นกรณีตัวอย่างว่า บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับอำนาจสูงสุด ในแง่ที่สามารถให้คุณให้โทษต่อนายกรัฐมนตรี ต่อพรรคการเมืองได้ ก็ควรจะต้องถูกตรวจสอบด้วย แต่ด้วยโครงสร้างจะต้องมีการปรับแก้ และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพราะขอบเขตอำนาจขององค์กรอิสระนับวันจะกว้างขึ้น และขยายออกไป แต่อย่างไรก็ตาม คงไม่มีการไปดำเนินการเอง หรือ ร่วมกันเข้าชื่อในบทบาทของ สว.
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง