ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยืนยันไม่กังวลน้ำเหนือ เข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ เชื่อเขื่อนต่าง ๆ ยังรองรับน้ำได้อีกมาก
จากวิกฤตน้ำเหนือในขณะนี้ ซึ่งหลายคนกังวลใจว่า มวลน้ำจะเข้ามาท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือไม่ ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร มีการนำกระสอบทรายมาเสริมความสูงให้แนวคันกั้นน้ำตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ถือว่าเป็นจุดเสี่ยง
ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวว่า แม้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคเหนือจะหนัก แต่ขอยืนยันว่ายังไม่น่ากังวลสำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ และไม่เหมือนเหตุการณ์เมื่อปี 2554 เนื่องจากปัจจุบัน เขื่อนต่าง ๆ ยังรับปริมาณน้ำได้อีกมาก เช่น เขื่อนภูมิพล มีปริมาณเพียง 50 เท่านั้น ต่างจากปี 2554 ที่เขื่อนไม่สามารถรับน้ำได้เต็มความจุ และมีความจำเป็นต้องปล่อยน้ำออกมา
ส่วนแนวกันน้ำมีการปรับปรุงพัฒนาไปมาก และแก้ไขจุดที่เป็นฟันหลอ พร้อมเตรียมกระสอบทรายไว้ 1.5 ล้านกระสอบ ในการเสริมแนว แต่ยอมรับว่ารู้สึกกังวลกับชุมชนที่อยู่นอกแนวกั้นที่อาจท่วมได้
ทีมข่าวสอบถามนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเจ้าตัวมั่นใจประมาณ 70 ว่าน้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯ เหมือนปี 2554 เพราะถ้าเปรียบเทียบปริมาณน้ำทั้ง 2 ปี ยังแตกต่างกัน
เช่น ที่นครสวรรค์ เมื่อปี 2554 จะมีน้ำประมาณ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่วันนี้มีน้ำผ่านไม่ถึง 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนที่ชัยนาท เมื่อปี 2554 จะมีน้ำประมาณ 2,000-3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที วันนี้มีน้ำ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องน้ำในเขื่อน 2 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งความจุรวมกันประมาณ 24,000 ล้านลูกบาศก์เมตร วันนี้มีน้ำในเขื่อนเพียงประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 1 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร ยังรองรับได้อีก 14,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
ต่างจากช่วงเวลาเดียวกันนี้ในปี 2554 มีน้ำในเขื่อนทั้ง 2 เขื่อน มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 2 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร คือในเขื่อนสิริกิติ์ 1 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร ในเขื่อนภูมิพลอีก 1 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อพายุมา 5 ลูก ฝนตกเหนือเขื่อนไม่นานก็เต็มหมด ต้องระบายน้ำออกไหลเข้าสู่ภาคกลางและกรุงเทพฯ
เหตุผลที่ตอนนั้นกักเก็บน้ำไว้ในเขื่อนปริมาณมาก สอบถามกระทรวงเกษตรฯ ทราบว่า รัฐบาลก่อนหน้านั้น เก็บน้ำไว้ทำนาปีและนาปรัง เนื่องจากข้าวกำลังราคาดี
ขณะที่ นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย บอกว่า ให้จับตาดูเดือนกันยายนถึงตุลาคม แต่คาดว่าน้ำคงไม่มากเท่าปี 2554 เพราะว่าตอนนี้มีเขื่อนรองรับน้ำได้ถึงเกือบ 13,000 ลูกบาศก์เมตร เทียบกับปี 2554 มีพายุเข้ามา 5 ลูก และเขื่อนรับน้ำได้น้อยกว่ามาก ตอนนี้จึงขึ้นอยู่กับว่าบริหารจัดการได้มากน้อยแค่ไหน
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35