“ธรรมนัส” พอแล้ว 6 ปี ประกาศอิสรภาพ แยกทาง “ประวิตร” | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - โผ ครม.แพทองธาร 1 หลายพรรคค่อนข้างลงตัว ส่งรายชื่อให้กับพรรคเพื่อไทยเรียบร้อย แต่พรรคที่ดูจะดุเดือดที่สุด ก็น่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ หลังจากเมื่อวาน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่มีชื่อ ร้อยเอกธรรมนัส เป็นรัฐมนตรี ทำเอาวันนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ออกมาประกาศประกาศอิสรภาพ ขอแยกทางเดิน จบเวลา 6 ปีรับใช้พลเอกประวิตร

 

ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงถึงกรณีที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ตัวเองไม่มีชื่ออยู่ใน ครม.ชุดใหม่ว่า สื่อไปปลุกท่านมาสัมภาษณ์ ท่านหลับหรือเปล่า อยากจะบอกทุกคนว่า ตนไม่ทะเลาะกับใคร ประสบการณ์ 6 ปีที่ผ่านมา ตนรับใช้คน ๆ หนึ่ง มาพอสมควร ถึงเวลาที่ต้องเดินออกมา ไม่ขอทะเลาะกับใคร

 

เมื่อถามว่า จะย้ายไปอยู่พรรคไหน ร้อยเอกธรรมนัส บอกว่า ชีวิตตนไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ไหน และไม่จำเป็นต้องฝากไว้กับการเป็นนักการเมือง เมื่อปี 2561 ตนเข้าสู่การเมืองด้วยความบังเอิญ และมาสร้างพรรคพลังประชารัฐกับพี่น้องนักเรียนนายร้อย แต่ละท่านก็เกษียณ เหลือตนอยู่คนเดียว วันนี้คงถึงเวลาที่ต้องประกาศความเป็นอิสรภาพ

 

ส่วนเรื่องรายชื่อรัฐมนตรี ต้องเคารพการตัดสินใจของผู้นำรัฐบาล ไม่ใช่ใครคิดจะนำเสนออะไร ผู้นำจะต้องเอาตามนั้น จะทำอะไรต้องคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก อย่าหลงอำนาจจนไม่ลืมหูลืมตา ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเดือนที่ 12 ทุกท่านเห็นว่าใครทำงานเพื่อบ้านเมือง หลังจากนี้ ตนกับพี่น้อง พร้อมจะไปไหนก็ได้ที่มีความสุข ไม่แสวงหาความทุกข์เข้าตัวเอง

 

เมื่อถามว่า ได้คุยกับ พลเอกประวิตร หรือยัง ร้อยเอกธรรมนัส ย้ำว่า ไม่จำเป็นต้องคุย เพราะท่านไม่อยากจะใช้ผมแล้ว ส่วนกลุ่มพี่น้องมีกี่คนเดี๋ยวก็รู้ เราแยกออกมาให้ชัดเจนว่าจะอยู่อย่างไรกัน แต่ตนจะไม่ทำลายบ้านเมืองและไม่ทำลายรัฐบาล ยืนยันว่า ไม่ใช่การแตกหักกับหัวหน้าพรรค แต่เลือกจะไม่ทะเลาะกับใคร แต่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสงบสุข ตนคุยกับคนในครอบครัวแล้วว่าพอแล้ว

 

ร้อยเอกธรรมนัส บอกว่า พรรคพลังประชารัฐจะส่งชื่อไปตามที่เป็นข่าวก็เป็นเรื่องของพรรค ส่วนจะเลือกหรือไม่เลือกก็เป็นอีกเรื่อง ส่วนจะมีโอกาสเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ตนไม่รู้ แต่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เรื่องคุณสมบัติ ตนไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ เลือกที่จะไม่ทะเลาะใคร บทเรียนชีวิต 6 ปีเพียงพอแล้วในเรื่องการเมือง ตนมั่นใจในสิ่งที่ตัดสินใจ ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นการค้างคาใจ ตนถอยออกมาสุดสุดแล้ว

 

หลังการประชุม ครม. ร้อยเอกธรรมนัส เดินออกจากลิฟต์ พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก่อนแยกย้าย ร้อยเอกธรรมนัส ได้กล่าวกับ นายสันติว่า เดี๋ยวเจอกันนะ

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ได้เคลียร์ใจกับ นายสันติ หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า เราไม่ได้มีแผลถึงขนาดต้องเคลียร์กัน พร้อมยืนยันว่า พอแล้วกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะอยู่รับใช้พลเอกประวิตร มานาน ยืนยันว่า ไม่ได้ทะเลาะกับใคร ไม่ทะเลาะกับพี่กับน้อง ไม่ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน อย่างเด็ดขาด ยอมถอยออกมาอยู่ในที่ของตัวเอง เมื่อถามว่า เรื่องนี้ควรให้พรรคเพื่อไทยตัดสินใจใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถูกต้อง การที่เราจะเสนอใคร โดยยังไม่รู้ว่าเขาจะเอาพรรคประชารัฐหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบ แต่เราก็เดินไปไกลโดยไม่ถามเจ้าของบ้านเลยว่าเขาจะเอาหรือไม่ ถือเป็นมารยาททางการเมืองที่เขาไม่ทำกัน เมื่อถามว่า จะแบ่งโควตารัฐมนตรีคนละ 2 ที่นั่งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ แต่คิดว่างานนี้ตาอยู่เอาไปกิน ตาอยู่ที่ไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล

 

จากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส ได้เดินทางมาที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การรับประทานอาหารร่วมกัน สส.ในพรรคบางส่วน ก่อนรับประทานอาหาร ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวถึงสัดส่วนโควตารัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ให้กลับมาคุยกัน ไปเคลียร์กันเอง ส่วนถ้า พลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะโทรมาเคลียร์นั้น ตนเองจะไม่รับโทรศัพท์จากใครทั้งนั้น การกินข้าววันนี้เป็นแค่พี่น้องมาให้กำลังใจกัน

 

ร้อยเอกธรรมนัส บอกว่า จริง ๆ แล้ว สส.พลังประชารัฐ 39 คน รักกันอยู่ด้วยกัน ไม่มีอะไรหรอก แล้วเขาก็อยากเป็นรัฐบาล เมื่อพรรคมีปัญหาก็รอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตนไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมใด ๆ ของพรรค ตนขออยู่ในที่ตั้งของตน ให้ชีวิตตัวเองมีความสุขบ้าง เหนื่อยมามากพอแล้ว ส่วนเมนูอาหารกลางวันในวันนี้ เป็นเมนูเกาเหลา แต่ตนไม่กิน ตนกินเป็ดอย่างเดียวระหว่างการให้สัมภาษณ์ ได้มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามา ร้อยเอกธรรมนัส จึงกล่าวว่า มีแต่คนในพรรคพลังประชารัฐโทรมา เลิกโทรมาได้แล้ว ไม่ต้องโทรมาแล้ว ตนตัดสินใจแล้ว

 

ภายหลัง ร้อยเอกธรรมมนัส ประกาศอิสรภาพจากพรรคพลังประชารัฐ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ไม่ต้องถามนะครับ ผมและพี่น้องในกลุ่ม สนับสนุนและตามท่านเลขาฯ ครับ ปรากฏว่า ร้อยเอกธรรมนัส ได้มอบหมายให้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา และนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร โทรเช็กเสียงจาก สส.แต่ละคนเพื่อจะรวมตัวกันแถลงข่าวจนได้ สส. 18 รายชื่อที่จะมาร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ ร้อยเอกธรรมนัส

 

ขณะที่ฝั่งของ พลเอกประวิตร ได้ให้ พลเอกกฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรค โทรศัพท์เช็ครายชื่อ สส.เรียงรายบุคคล และพูดกำชับว่าให้อยู่กับลุง จากการเช็กรายชื่อมีจำนวนทั้งสิ้น 25 คน

 

ส่วนนายสันติ พร้อมพัฒน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธตอบคำถามถึงกรณีที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ จะไม่มีชื่ออยู่ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ โดยระบุเพียงว่า ไม่มีอะไร พร้อมมั่นใจว่า จะไม่เป็นปัญหาภายในพรรคตามมา

 

นายสันติ ยังปฏิเสธตอบคำถาม กรณีมีคำสั่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง เรื่องการลงโทษลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษา จากการทุจริตการสอบ เมื่อปี 2542 ซึ่งอาจกระทบต่อการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะอาจกระทบต่อมาตรฐานทางจริยธรรม

 

ส่วน พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐได้ส่งรายชื่อให้กับพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่นิ่งแล้วหรือยัง ตนไม่ทราบ ส่วนกระแสข่าวว่า ร้อยเอกธรรมนัส จะหลุดออกจากเก้าอี้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องของคุณสมบัตินั้น เรื่องนี้ตัวเองไม่ทราบ แต่ยอมรับว่า ได้คุยกับพลเอกประวิตร อยู่บ้าง แต่ก็ทราบเพียงเท่านี้ รวมถึงไม่รู้ว่าชื่อที่ถูกเสนอไปมีชื่อตัวเองด้วยหรือไม่ ต้องไปถามนายสันติ

 

สำหรับบุคคลที่คาดว่าจะถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี แต่อาจมีปัญหาเรื่องคณสมบัติตามกระแสข่าวแล้ว มี 4 ชื่อ ก็คือ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ จากพรรคพลังประชารัฐ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ จากพรรคภูมิใจไทย และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ

 

ส่วนนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข่าวว่า ตัวเองอาจมีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติต่าง ๆ ว่า เรื่องคุณสมบัติต่าง ๆ ก็มาจากสื่อมวลชนทั้งสิ้น ซึ่งพรรคก็ส่งชื่อไปแล้ว ทุกอย่างของพรรคภูมิใจไทยเหมือนเดิม ส่วนที่ตนไม่ได้ไปร่วมพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เพราะว่าป่วย ก็กลายเป็นการไปตีความกัน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงเรื่องคุณสมบัติ นายชาดา ย้อนถามว่า คุณสมบัติของตนไม่พร้อมตรงไหน ตนไม่ได้มีคดีหรือมีอะไร มีคดีก็ชนะคดีหมด หน้าตาผมคุณสมบัติไม่ดีหรือ ทุกอย่างเป็นไปตามการเมือง มาแล้วก็ต้องไป ไม่ได้กังวลอะไรเลย อยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาทั้งหมด ยืนยันว่า ตนไม่เคยไปทำผิดจริยธรรมที่ไหน