ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยืนยันต้องรีบแต่งตั้ง ครม. มั่นใจ สัปดาห์นี้ ได้รายชื่อ ครม.ใหม่ แต่อาจจะต้องตรวจสอบคุณสมบัตินานขึ้น เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดซ้ำรอย เศรษฐา
แพทองธาร ยันตั้ง ครม.ใหม่เสร็จในสัปดาห์นี้
ช่วงเช้าวันนี้ (19 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต รุ่นที่ 1 หรือ มินิ วปอ. ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ
โดยก่อนเริ่มอบรม พันเอก เอกรักษ์ สิงหพงษ์ ประธานรุ่น วปอ.บอ.รุ่นที่ 1 ได้เป็นตัวแทนมอบแจกันดอกไม้สีแดง แสดงความยินดีกับ นางสาวแพทองธาร โดย นางสาวแพทองธาร ได้กล่าวขอบคุณ จากนั้นทั้งหมดได้ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก
นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า ในสัปดาห์นี้จะประสานเพื่อพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีจะพยายามจะทำให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ และจะพยายามพูดคุยให้ครบทุกฝ่าย ขณะที่สัดส่วนรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะพูดคุยรายละเอียดกับทีมงานในวันพรุ่งนี้ โดยวันนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน
พร้อมย้ำว่า การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดนี้ จำเป็นจะต้องดูเรื่องคุณสมบัติเป็นพิเศษ เพราะไม่อยากให้เกิดสิ่งที่ผิดพลาด แต่ไม่อยากให้ใช้เวลานาน
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรีบแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จ เพื่อจะส่งคุณสมบัติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพราะรอบนี้หลายคน แนะนำว่าการตรวจคุณสมบัติจะนานขึ้น แต่คิดว่าไม่น่าใช้เวลาถึง 1 เดือนในการฟอร์ม ครม.
แพทองธาร หารือ เศรษฐา ส่งมอบงานนายกฯ
จากนั้นช่วงเวลา 14.14 น. นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 โดยผู้สื่อข่าวพยายามที่จะสอบถามว่าเข้ามา มีประชุมอะไรหรือไม่ นายเศรษฐาไม่ได้ตอบได้แต่ยิ้มให้สื่อมวลชน จากนั้นเวลา 14.30 น. นางสาวแพทองธาร เดินทางมาถึงอาคารชินวัตร 3 โดยยอมรับว่าได้นัดคุยกับนายเศรษฐา เรื่องการส่งต่องาน
ส่วนที่มีข่าวว่า พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ จะไม่ได้รับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวปฏิเสธว่ายังไม่ได้คุยกันเลย คำตอบเหมือนกับที่พูดไว้เมื่อเช้านี้ ว่ายังไม่ได้ตกลงอะไรกันเลย ซึ่งมี พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้ามาที่อาคารชินวัตร 3 ด้วย
ส่องโผ ครม.แพทองธาร ไร้ วงษ์สุวรรณ
สำหรับ ครม.ทั้งหมดจะมีตำแหน่งรวมกันไม่เกิน 35 เก้าอี้ พรรคร่วมรัฐบาล แบ่งโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีกันดังนี้
พรรคเพื่อไทยได้รับโควต้า 17 เก้าอี้ คือนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการฯ รวม 9 ที่นั่ง, รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และรัฐมนตรีช่วย รวม 8 ที่นั่ง
พรรคภูมิใจไทย 8 เก้าอี้ แบ่งเป็น รัฐมนตรีว่าการฯ 4 ที่นั่ง, รัฐมนตรีช่วยฯ 4 ที่นั่ง
พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 เก้าอี้ คือ รัฐมนตรีว่าการฯ 2 ที่นั่ง, รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ 2 ที่นั่ง
พรรคพลังประชารัฐ 4 เก้าอี้ คือ รัฐมนตรีว่าการฯ 2 ที่นั่ง, รัฐมนตรีช่วยฯ 2 ที่นั่ง
พรรคประชาชาติ 1 รัฐมนตรีว่าการฯ
พรรคชาติไทยพัฒนา 1 รัฐมนตรีว่าการฯ
ในส่วนของแต่งตั้ง ครม. จะปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีหลายตำแหน่ง ในส่วนของพรรคเพื่อไทย คนที่คาดว่าจะหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรี อาทิ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงรัฐมนตรีสายเศรษฐา ทั้งนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จะหลุดจากตำแหน่ง
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ มีกระแสข่าวว่า นายทักษิณ ได้แจ้งกับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคว่า รัฐมนตรีจะต้องไม่มีคนนามสกุลวงษ์สุวรรณ และต้องไม่มีชื่อของ พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) น้องชายพลเอก ประวิตร ร่วมครม. หลังมีข่าวว่า นายทักษิณ ไม่พอใจกับท่าทีของ พลเอก ประวิตร ที่ไม่ไปร่วมโหวตให้นางสาวแพทองธาร และสมัยนายเศรษฐา
พลเอก ประวิตร ก็ไม่ไปโหวตให้ และที่ผ่านมาก็ไม่ไปร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย มองว่า พลเอกประวิตร อยู่เบื้องหลังการให้ 40 สว.ยื่นถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง
โดยมีข่าวว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน พลตำรวจเอก พัชรวาท ส่วนพรรคเพื่อไทย มีชื่อของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อาจขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง
ขณะที่ นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อาจได้เป็นรัฐมนตรีเก้าอี้ใดเก้าอี้หนึ่ง รวมถึง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.และนางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ ที่สนิทสนมกับนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวแพทองธาร ก็อาจได้นั่งเป็นรัฐมนตรีด้วย
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงเจตจำนงมาตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐาแล้วว่า จะส่งนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เข้ามารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แทน นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม
สแกนเข้ม ครม.เก่า-ใหม่ หวั่นซ้ำรอย เศรษฐา
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนางสาวแพทองธาร ว่าวันนี้ (19 ส.ค.) จะแจ้งพรรคร่วมรัฐบาล ให้ส่งรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรี มาที่นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อส่งให้เลขาคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจสอบคุณสมบัติตั้งแต่เนิ่น ๆ
เนื่องจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องตรวจสอบเข้มกว่าเดิม จากปกติใช้เวลาไม่กี่วัน แต่ครั้งนี้ต้องใช้เวลามากขึ้น คาดว่าวันนี้ทุกพรรคจะเสนอรายชื่อได้ เวลานี้คือการตั้ง ครม. จากนั้นเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นรัฐบาลเต็มตัว แต่ยังทำหน้าที่ไม่ได้จนกว่าจะแถลงนโยบาย หลังจากนี้ทางที่ดีที่สุด คือเลขาฯกฤษฎีกา ต้องตรวจสอบประวัติทั้งรัฐมนตรีคนใหม่และคนเก่า
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ จะไม่อยู่ร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องถามหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่ายังโอเคหรือไม่ อยู่ที่หัวหน้าพรรค ต้องถามใจ พลเอก ประวิตร ดูว่าไม่ไปโหวตให้นางสาวแพทองธาร เพราะไม่อยากร่วมหรือคิดว่าพอแล้ว
วรชัย หนุนไม่เอา วงษ์สุวรรณ ร่วมรัฐบาล
ขณะที่นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษารองนายกฯ ในฐานะแกนนำเสื้อแดง กล่าวถึงกระแสข่าวว่า จะไม่มีตระกูลวงษ์สุวรรณ อยู่ในคณะรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องที่ตนและคนเสื้อแดงเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะตอนโหวตนายเศรษฐา และโหวตเลือก นางสาวแพทองธาร เป็นนายกฯ คนตระกูลวงษ์สุวรรณ ก็ไม่มาโหวตให้ ชัดเจนว่าคนตระกูลนี้ไม่เอาด้วยกับนายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทย
และน่าสังเกตว่า กลุ่มสว. 40 คน ที่ยื่นสอบนายเศรษฐา จนหลุดจากตำแหน่งนายกฯ ถูกมองว่า มีความเกี่ยวพันกับ พลเอก ประวิตร มองว่าคนตระกูลนี้ทำงานมามากพอแล้ว ถึงเวลาต้องพักผ่อน โดยเฉพาะ พลเอก ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่วุฒิภาวะบางครั้งไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าว ทำให้ตีความว่า พลเอก ประวิตร ต้องการเป็นนายกฯ เมื่อเป็นไม่ได้จึงมีอารมณ์ฉุนเฉียว
ประวิตร ยันร่วม รัฐบาลแพทองธาร
ขณะที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อสำนักหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่มีการติดต่อมา แต่ยืนยันพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล ส่วนกรณีที่ไม่ได้ไปร่วมโหวต นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะติดงานเลี้ยงต้อนรับและแสดงความยินดีให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และคณะเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งมีกำหนดการล่วงหน้ามานานแล้ว
วรงค์ ฟันธง แพทองธาร พังเพราะพ่อ
ขณะที่นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ พังเพราะพ่อ ระบุว่า คิดว่าอุ๊งอิ๊งน่าจะเผชิญวิบากกรรม ในฐานะนายกรัฐมนตรีอย่างหนัก อุ๊งอิ๊งถูกตั้งคำถามตั้งแต่วันแรก ไม่ใช่เรื่องของตนเอง แต่เป็นคำถามที่มาจากพ่อ นั่นคือนายทักษิณมีสิทธิ์ใส่เครื่องแบบขาวหรือไม่ แค่เริ่มวันแรก ยังไม่ได้ทำงานก็โดนกระหน่ำขนาดนี้ เชื่อว่าหลังจากที่เริ่มงานอย่างเป็นทางการ อุ๊งอิ๊งก็จะโดนหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้ ส่วนหนึ่งเพราะตนเอง แต่หลัก ๆ น่าจะมาจากนายทักษิณ
ชูศักดิ์ ยัน ทักษิณ ใส่ชุดขาวได้
ซึ่งเรื่องนายทักษิณ สวมชุดขาวข้าราชการพลเรือน ถูกตั้งคำถามจากนายสนธิญา สวัสดี ว่านายทักษิณ ยังสวมชุดขาว แบบข้าราชการพลเรือนได้อยู่หรือ เพราะถูกถอดยศตำรวจไปหมดแล้วเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2558 ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก ปราชญ์ สามสี ก็ตั้งคำถามเรื่องนี้เช่นกัน มองว่า นายทักษิณ ไม่สามารถสวมชุดขาวได้ เพราะออกจากราชการและถูกถอดยศทางราชการตำรวจไปแล้ว
แต่เรื่องนี้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปรัฐบาล ยืนยันว่า นายทักษิณใส่ชุดขาวดังกล่าวได้ โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่แม่นระเบียบกฎกติกาเรื่องนี้ เมื่อเขาดูแล้วก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร
ภูมิธรรม ย้ำเดินหน้า เงินดิจิทัลฯ เหมือนเดิม
ส่วนเรื่องความชัดเจนของเงินดิจิทัลวอลเล็ต นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยพูดชัดเจนแล้ว ว่าเรามีจุดมุ่งหมาย มุ่งหวังอย่างเดิมไม่เปลี่ยน
ซึ่งสอดคล้องกับ นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ยืนยันผ่านรายการ ถกไม่เถียง ว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะยังคงอยู่อย่างแน่นอน แต่รูปแบบหรือวิธีการอาจจะปรับเปลี่ยนอย่างไร ต้องขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พร้อมขอประชาชนอย่าเพิ่งลบแอปฯ ทางรัฐ เพราะนอกจากจะเป็นช่องทางรับเงินดิจิทัลแล้วยังมีประโยชน์อีกหลายด้าน
ด้านผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ยืนยันว่านโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะต้องได้ไปต่อ นอกจากจะเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นนโยบายการเมืองที่หากไม่สามารถทำได้จริง ก็อาจทำให้พรรคเพื่อไทยขาดความเชื่อมั่นจากประชาชน
จากการสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพล พบว่ากระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทยลดลง ช่วงระหว่างหาเสียงเลือกตั้งและลดลงเรื่อย ๆ ตามลำดับ หลังจากนี้จะเป็นงานใหญ่ของนางสาวแพทองธาร ที่จะต้องกอบกู้คะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยกลับมาให้ได้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35