ททท. ดันการท่องเที่ยว Road trip เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านจากเหนือสู่อีสาน

 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตอบรับนโยบายหลัก IGNITE’s Thailand Tourism ของรัฐบาล ในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Hub of ASEAN นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านระหว่างไทย-สปป.ลาว ในเส้นทางน่าน-หลวงพระบาง-วังเวียง-เวียงจันทน์-หนองคาย-อุดรธานี เพื่อใช้เป็นเส้นทางที่สร้างแรงบันดาลใจในการออกเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายบริการการตลาด ททท. ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันการเดินทางท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Road Trip ที่เชื่อมต่อทั้งภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีศักยภาพและพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเชื่อมโยงมายังประเทศไทย โดยมีประเทศไทยเป็น Hub ของการเดินทาง ในส่วนของพื้นที่จังหวัดน่าน มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีความหลากหลาย

ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประเพณี/วิถีชีวิต รวมถึงความสมบูรณ์ของเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม กับทั้งยังมีความเชื่อมโยงทางอารยธรรมของดินแดนล้านช้างกับหัวเมืองทางเหนือของไทยในลักษณะของเมืองคู่แฝดระหว่างน่าน-หลวงพระบาง สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางนี้ แนะนำให้เริ่มต้นการเดินทางโดยท่องเที่ยวที่ตัวเมืองน่าน 1 วัน เพื่อสัมผัสกลิ่นอายเสน่ห์ของข่วงเมืองน่าน เช่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร วัดภูมินทร์ เป็นต้น จากนั้น สามารถพักผ่อนดับกระหายคลายร้อน โดยแวะชิม ช้อป สินค้าทางการเกษตรที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน คือ โกโก้ จากโกโก้ วัลเลย์ ซึ่งมีแหล่งเพาะปลูกหลักที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน

และยังได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 หลังจากนั้นแนะนำให้เดินทางต่อไปยังอำเภอเชียงกลางเพื่อพักค้างคืนก่อนออกเดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรบ้านห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ

ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งที่นี่สามารถเดินทางเชื่อมต่อจุดผ่านแดนบ้านน้ำเงิน เมืองเงิน ไปยังหลวงพระบาง สปป.ลาว โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง สำหรับการเดินทางในวันที่ 2 สามารถดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของหลวงพระบาง จากนั้นวันที่ 4 สามารถออกเดินทางต่อไปยังเมืองวังเวียง สปป.ลาว โดยรถไฟความเร็วปานกลาง Fuxing EMU (ลาว-จีน) จากหลวงพระบาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที

เมื่อถึงวังเวียง นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมในลักษณะการท่องเที่ยวแบบผจญภัยได้หลากหลายรูปแบบ เช่น พายคายัค ล่องห่วงยาง นั่งเรือหางยาวชมทิวทัศน์ ฯลฯ จากนั้นในวันที่ 5 ของการเดินทาง จากวังเวียงมุ่งสู่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญภายในตัวเมือง อาทิ พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ประตูชัย วัดสีสะเกด หอพระแก้ว ฯลฯ จากนั้นในตอนเย็นสามารถเดินทางข้ามมายังฝั่งไทย ผ่านด่านชายแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย สักการะพระธาตุหล้าหนอง และเช็คอินจุดแลนด์มาร์ค ลานพญานาคคู่ริมฝั่งโขง ชมบรรยากาศยามเย็นริมฝั่งแม่น้ำโขง

สำหรับในวันที่ 6 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเดินทาง ในช่วงเช้าเดินทางไปสักการะหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดหนองคาย เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นสามารถเดินทางเชื่อมโยงไปยังแหล่งมรดกโลก ทั้ง 2 แห่งของไทย ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ได้แก่ แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง อำเภอหนองหาน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2535 และอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อำเภอบ้านผือ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นแหล่งล่าสุดของไทย นับเป็นการเชื่อมโยงแหล่งมรดกโลกของทั้ง 2 แผ่นดิน ไทย-ลาว คือ เมืองหลวงพระบางกับอุดรธานี ซึ่งคาดว่าเส้นทางมรดกโลกเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเดินทางเชื่อมโยงของภูมิภาคอาเซียนในระยะเวลาอันใกล้นี้

นอกจากเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง Asean ที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมีอีก 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางสายกิน : สมุย เส้นทางผ้า : สุโขทัย-อุตรดิตถ์ เส้นทาง Low Carbon : ตรัง-สตูล และเส้นทางTourism for All : ราชบุรี-นครปฐมกำหนดเผยแพร่เส้นทาง 5 เส้นทางในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2567

นักท่องเที่ยวสามารถติดตามข้อมูลเส้นทางและข่าวสารการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม งานประเพณีรวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยว ผ่านช่องทางที่หลากหลายของ TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง ทั้งช่องทางออนไลน์ www.tourismthailand.org Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง, IG : 1672travelbuddy, Tiktok : 1672travelbuddy, Line Official : @tatcontactcenter และศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยวททท. สำนักงานใหญ่ และเคาน์เตอร์บริการข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยว ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสาร ชั้น 2 ประตู 3 ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 1 ประตู 2 และสายด่วนท่องเที่ยว 1672