ทำความรู้จัก “ไก่ชน ส.ยิ่งเจริญการช่าง” นักสู้กะเหรี่ยงวัย 23 ปี จากแม่ฮ่องสอน คู่ต่อสู้คนต่อไปของ “เฟรดดี แฮ็กเกอร์ตี” จอมบู๊ไฟแรง วัย 19 ปี จากเกาะอังกฤษ โดยทั้งคู่จะดวลกันในกติกามวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 72 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 26 ก.ค.นี้ เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
“ไก่ชน” เพิ่งประเดิมไฟต์แรกในรายการนี้ จากการเอาชนะคะแนน “จอมเผด็จ ณุ ปราณบุรี” มาในศึก ONE ลุมพินี 55 เมื่อ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยไฟต์นี้จะต้องมาเจอกับ “เฟรดดี” น้องชายของ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แชมป์โลก ONE มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) แต่ก่อนจะไปถึงวันศุกร์นี้ เราขอพามาทำความรู้จักับ “ไก่ชน” ให้มากขึ้นผ่านเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจต่อไปนี้
“ไก่ชน” เกิดบนดอยสูงในอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีเชื้อสายกะเหรี่ยง พ่อแม่ประกอบอาชีพเป็นชาวไร่ชาวสวน มีฐานะยากจนไม่มีรายได้รายเดือน และต้องหาของกินตามป่าเขาเลี้ยงชีพไปเรื่อย ๆ ซึ่งเมื่อโตถึงวัยเรียน เขาเลือกลงจากดอยสูงเพื่อเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ และได้พบกับมวยไทยเป็นครั้งแรก
เส้นทางอาชีพนักมวยไทยของ “ไก่ชน” เกิดขึ้นตอนอายุได้ 14 ปี จากการลงมาอยู่โรงเรียนประจำในตัวเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน และได้พบเจอกับ “กิ่งซาง ก.ศักดิ์ลําพูน” อดีตนักมวยไทยชื่อดัง ที่ผันตัวมาเป็นครูจน ทำให้เขาได้ร่ำเรียนวิชามวยไทยจาก “ครูกิ่งซาง” และได้โอกาสลองวิชาที่ร่ำเรียนบนสังเวียนจริงเป็นครั้งแรก
การต่อสู้ครั้งแรกบนสังเวียนนักสู้ของ “ไก่ชน” เกิดขึ้นจากการไปเปรียบมวยงานวัดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่เขาได้ลิ้มรสกับความพ่ายแพ้ตั้งแต่ครั้งแรก แต่เขากลับรู้สึกดีที่ได้รับค่าตัว 500 บาท ซึ่งถือว่ามากโขสำหรับเด็กดอยด้อยโอกาส และยังได้รับคำชื่นชมของแฟนมวยจากสไตล์ที่เดินท้าดวล กล้าเปิดเกม แม้จะไม่เป็นมวยเท่าไหร่ก็ตาม
โดยเงิน 500 บาทนั้น จุดประกายความคิดของ “ไก่ชน” ที่จะใช้มวยไทยหาเงินเลี้ยงชีพ โดยไม่รบกวนเงินจากครอบครัวตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
หลังจากชกมวยไทยมาพักใหญ่ เจ้าตัวเลือกเดินหน้าล่าความฝันอีกเส้นทางหนึ่งที่เคยวาดไว้ นั่นคือการเป็นทหารรับใช้ชาติ โดยได้สมัครเข้าไปในโรงเรียนนายสิบ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนปัจจุบันเจ้าตัวได้ติดยศ “สิบตรี” ประจำการอยู่ในกองทัพบกไทย
หลังจากการไปอยู่ในค่ายทหารเป็นเวลานาน เจ้าตัวออกมาเห็น “ไม้ซางคำ ส.ยิ่งเจริญการช่าง” เพื่อนรักที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยชกมวยไทยแรก ๆ ประสบความสำเร็จใน ONE ลุมพินี จากการชนะ 6 ไฟต์รวด และเป็นที่ยอมรับของแฟนมวย
“ไก่ชน” อยากเดินตามรอยเพื่อนรักไปยืน ณ จุดนั้นให้ได้
นอกจากนี้ อีกหนึ่งความฝันที่เขาอยากทำให้สำเร็จคือ การคว้าโบนัสในรายการนี้ เพื่อนำเงินไปเลี้ยงอาหารเด็กนักเรียนบนดอยที่บ้านเกิด โดยเจ้าตัวเผยว่า ชีวิตของเขาพบเจอกับความลำบากมาตั้งแต่เด็ก เมื่อมีโอกาสก็อยากจะให้เด็กรุ่นใหม่ได้พบเจอกับชีวิตที่ดีบ้าง
ไฟต์ที่ 2 ในรายการ ONE ลุมพินี เจ้าตัวถูกประกบให้มาเจอกับ “เฟรดดี” ซึ่งแฟนมวยจำนวนมากมองว่า “ไก่ชน” เป็นรองอยู่ไม่น้อย แต่เจ้าตัวยืนยันว่าศึกษาคู่ชกมาเป็นอย่างดี และมั่นใจในความอึด ถึก ทน ของตนว่าจะสามารถสู้กับน้องชายแชมป์โลก 2 กติกา ได้แน่นอน
นอกจากนี้ “ไก่ชน” ยังมุ่งมั่นจะใช้สไตล์ “ไก่ชน” เดินบู๊ เดินชน ท้าแลกเดือดอย่างถึงที่สุดให้สมฉายา แม้จะถูกมองว่าเป็น “ไก่รองบ่อน” ทั้งนี้ เพื่อให้ครอบครัวและคนที่เขารักมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น