“เศรษฐา” ประกาศชัด ! ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต 1 ส.ค. นี้ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ไปดูความคืบหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท วันนี้ นายกฯ เป็นประธานในการประชุม โดยล่าสุดประกาศชัดแล้วว่า จะพร้อมเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 1 สิงหาคมนี้

 

นายกฯ เผย 1 ส.ค. ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต

 

ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ครั้งที่ 4/2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X อีกครั้ง โดยย้ำว่า ดิจิทัลวอลเล็ตพร้อมเปิดลงทะเบียน 1 สิงหาคมนี้ พร้อมระบุว่า การประชุมวันนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดลงทะเบียน และการดำเนินการในภาพรวมที่จะรองรับการใช้งานของประชาชนและร้านค้า โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ รวมไปถึงการลงรายละเอียดเงื่อนไขของการรับสิทธิ์ และมาตรการป้องกันการทุจริต การเรียกเงินคืนให้ชัดเจนขึ้น

 

นายกฯ บอกว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต คือ โครงการใหญ่ของภาครัฐที่จะเติมเงินกระเป๋าพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และระบบเศรษฐกิจในภาพรวม เพื่อความละเอียดรอบคอบ ทั้งทางกฎหมาย และทางเทคนิค โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ทำให้ใช้เวลาดำเนินการมากหน่อย แต่พี่น้องไม่ต้องคอยเก้อแน่นอน

 

นายกฯ ยันไม่คิดดึง ทักษิณ ช่วยงาน

 

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาช่วยงานรัฐบาล ภายหลังการพ้นโทษในเดือนสิงหาคมนี้ โดยนายก ฯ ยืนยันว่า ยังไม่ได้คิดและยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่อย่างที่ตนเคยชี้แจงไปแล้วว่า ตนมีโอกาสได้พบปะกับอดีตนายกรัฐมนตรีหรือผู้นำของประเทศ ไม่ว่าจะใครก็ตาม ที่มีข้อเสนอแนะที่ดีตนก็ยินดีรับฟัง ส่วนการทำงานที่จะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นนั้น ตรงนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มีการพูดคุยกันตลอดเวลาเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

 

จุลพันธ์ ยันไม่ใช้เงิน ธ.ก.ส. ย้ำ 24 ก.ค.แจงไทม์ไลน์

 

ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบถึงแหล่งที่มาของเงินใหม่สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยไม่ใช้เงินจาก ธ.ก.ส. แต่ใช้งบประมาณปี 2567 และ 2568 ซึ่งเพียงพอ สาเหตุสำคัญที่มีการปรับเปลี่ยนคือได้ดำเนินการตามข้อห่วงใยของหน่วยงานตรวจสอบ โดยตั้งงบประมาณไว้ว่า 45 ล้านคน คือ 450,000 ล้านบาท เพราะโครงการในอดีตของรัฐไม่มีโครงการไหนมีผู้ลงทะเบียนเกินกว่า 90 แต่ยืนยันว่าขนาดของโครงการยังเป็น 50 ล้านคนเช่นเดิม หากมีคนลงทะเบียนน้อยกว่าหรือมากกว่า ก็จะใช้กลไกในการบริหารงบประมาณ เพื่อให้มีเงินทุกบาททุกสตางค์เพียงพอ ในส่วนของผู้เข้าร่วมโครงการ มีกลุ่มที่ถูกตัดออกเพิ่มเติม คือ กลุ่มผู้เคยกระทำผิดเงื่อนไขโครงการของรัฐ และมีเรื่องฟ้องร้องเรียกเงินคืนในอดีต ไม่ว่าจะร้านค้าหรือบุคคลก็ตาม จำเป็นจะต้องตัดออก เพราะมองว่าหากให้สิทธิไปก็อาจกลับไปทำผิดอีก

 

ส่วนไทม์ไลน์การเปิดและปิดลงทะเบียนจะแจ้งอีกทีในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ซึ่งวันนี้เราพอเห็นภาพแล้วว่าการทำงานในส่วนของด้านตัวระบบเองมีความคืบหน้าที่น่าพอใจ ยืนยันว่าการแจกเงินยังอยู่ในกรอบเวลาเดิม ในไตรมาส 4 แน่นอน ยังยืนว่าพายุหมุนทางเศรษฐกิจจะยังคงเกิดขึ้น

 

“วัน” น้ำตาคลอ ยื่นลาออก “เพื่อไทย”

 

ส่วนปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย กรณี นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส. กทม. พรรคเพื่อไทย ลาออกจากผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข หลังจากถูกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคตำหนิกรณีไปที่บ้านของ บิ๊กแจ๊ส พลตำรวจคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในวันนับคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี

 

โดยวันนี้ นายวัน เดินทางมายื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ต่อ กกต. พร้อมให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และมีน้ำตาคลอว่า ครอบครัวอยู่บำรุง จงรักภักดีต่อพรรคเพื่อไทยมาตลอด ไม่เคยคิดทรยศ ตนอาจคิดไม่รอบคอบ คิดไม่ถึงว่า มีภาพตนออกไปในวันนับคะแนน จะทำให้พรรคและผู้บริหารไม่สบายใจ ส่วนที่ตนไปเป็นเวลาปิดหีบแล้ว ไม่มีผลต่อคะแนน เป็นการให้กำลังใจระหว่างอา-หลาน แต่เมื่ออธิบาย ก็ไม่มีท่าทีว่า อะไรจะดีขึ้นมา เป็นเหตุให้ตนต้องขอลาออก ตนคงไม่หน้าด้านพอที่จะไปเกะกะหูรกตาผู้ใหญ่ ตนก็แค่ สส. กทม. สอบตก

 

วัน ลั่นประจบใครไม่เป็น ยันไม่ทิ้งการเมือง

 

นายวัน ยังกล่าวว่า ไม่คิดว่า ความผิดจะสาหัสสากรรจ์เพียงนี้ แต่หากย้อนเวลากลับไปในวันนับคะแนนก็ยังตัดสินใจที่จะไปให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ อยู่ดี คนที่ไม่เข้าตาอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ที่สำคัญ ตระกูลอยู่บำรุง ประจบสอพลอใครไม่เป็น

 

ยืนยันว่า วันที่บอกว่าจะลาออก หัวหน้าพรรคไม่ได้รั้ง และไม่ได้พูดอะไร แต่ยืนยันว่ายังทำงานการเมืองต่อไป พรรคใดที่เห็นว่าตนมีประโยชน์ก็ลองติดต่อมา แต่ยังไม่ได้เล็งพรรคใด ยืนยันว่าไม่ทิ้งการเมืองแน่นอน ทุกวันนี้ก็ยังรักพรรคเพื่อไทย และผู้บริหารพรรคทุกท่านเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ยังรักเอ็นดูตนหรือไม่ เมื่อเขาไม่แฮปปี้ ตนไม่สบายใจก็ต้องถอยดีกว่า

 

ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม ที่อยากให้พรรคเพื่อไทย ขับออกนั้น พ่อยังอยู่พรรคเพื่อไทย แต่ท่านอยากให้ขับออก ทั้งนี้ไม่เห็นคุณพ่อติดต่อกับนายทักษิณ ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปีที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้คุยโทรศัพท์กันบ่อยมาก สัปดาห์ละ 2-3 วัน