“DINKs” คืออะไร? “คู่รัก ไม่มีลูก” เทรนด์มาแรง ไลฟ์สไตล์สุดปัง | เงินทองของจริง

DINKs ย่อมาจาก Double Income, No Kids หมายถึง คู่รักที่แต่งงานแล้วหรือยังไม่แต่งงาน แต่ไม่มีลูก มักมีทั้งเวลาและเงิน ทุ่มเทให้กับการทำงานและใช้ชีวิตตามใจชอบ

 

DINKs คืออะไร?

DINKs มาจากคำว่า Double Income No Kids ซึ่งหมายถึงคู่รักที่แต่งงานแล้ว หรืออาจจะยังไม่แต่งงาน แต่ยังไม่มีลูก จึงมีทั้งเวลาและเงิน พร้อมทุ่มเทกับ การทำงานหนัก และกล้าเปย์ให้กับสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ พฤติกรรมการใช้จ่ายของคู่รักแต่ละคู่ด้วยนะ ทั้งนี้กลุ่ม DINKs ยังรวมถึง คู่รักเพศทางเลือกที่ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเปิดเผยมากขึ้น

 

คุณเป็นชาว DINKs สายไหน ?

ถ้าวันนี้คุณยังสนุกกับการทำงานไปพร้อม ๆ กับการใช้ชีวิต เลือกเปย์กับสิ่งที่เป็นความสุข มากกว่าการเก็บเงินไว้เลี้ยงดูลูก คุณคือชาว DINKs อย่างแน่นอน ถ้าอยากรู้ว่าคุณคือชาว DINKs สายไหน ลองมาทบทวนกันว่า ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนหมดไปกับอะไรบ้าง

 

1. สายกินหรูอยู่สบาย

เตรียมพร้อมสำหรับการใช้จ่ายเพื่อดูแลตนเองและคู่รักอย่างเต็มที่ ทั้งการจ่ายเพื่อซื้อ ในสิ่งที่เสริมลุคให้ดูดี ไปจนถึงการจับจ่ายด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งสิ่งที่มักจะเปย์หนัก ในแต่ละเดือน ได้แก่ 

- สินค้าแฟชั่นราคาแพง กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาลักซ์ชัวรี ฯลฯ 

- เครื่องสำอาง อาหารเสริม คอร์สจากสถานเสริมความงาม

- คอร์สฟิตเนส บริการสปาเพื่อสร้างสมดุลร่างกาย 

2. สายท่องเที่ยว

คนกลุ่มนี้รักในอิสระ ชอบเดินทางไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวแบบหรูหรา หรือเที่ยวแบบขาลุย ถ้าคุณกล้าเปย์ให้กับการได้ออกเดินทาง ฝันว่าอยากเช็กอินให้ครบ ทุกแลนด์มาร์กทั่วโลก คุณคือ DINKs สายท่องเที่ยว แน่นอนว่าสิ่งที่เรามักจะเปย์ ในแต่ละเดือน ได้แก่ 

- ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ที่พัก ฯลฯ 

- อุปกรณ์สำหรับการเดินทาง เช่น ชุดแค้มปิ้ง อุปกรณ์ปีนเขาหรือดำน้ำ ฯลฯ 

3. สายปาร์ตี้

ความสุขสายปาร์ตี้ คือการตระเวนไปเช็กอินตามร้านอาหารติดดาว คาเฟ่ หรือบาร์เก๋ ๆ สิ่งที่คนกลุ่มนี้หลงใหลมากที่สุดคือการได้ลิ้มรสอาหารสุดพิเศษ บทสนทนากับเพื่อนที่รู้ใจ หรือการปาร์ตี้สุดเหวี่ยงกับเพื่อนฝูง และอะไรก็ตามที่เป็น ความบันเทิงในชีวิต คนกลุ่มนี้เปย์ได้ไม่อั้น ซึ่งสิ่งเหล่านั้น ได้แก่ 

- อาหารและเครื่องดื่ม 

- ความบันเทิงอื่น ๆ เช่น การดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ 

4. สายคนรักสัตว์

ชาว DINKs หลายคนมีความเป็นพ่อแม่อยู่ในตัวสูงมาก แต่ลูกรักของพวกเขาอาจหมายถึง สัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก อย่างเช่น น้องหมาหรือน้องแมว ซึ่งพวกเขาพร้อมทุ่มเท เปย์ได้ทุกอย่างเพื่อดูแลพวกมันอย่างดีที่สุด และสิ่งที่พวกเขาพร้อมเปย์ ได้แก่ 

- อาหาร ขนม อาหารเสริมของสัตว์เลี้ยง 

- บริการต่าง ๆ เช่น อาบน้ำ ตัดขน เรียนว่ายน้ำ 

- อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสัตว์เลี้ยง เช่น สายจูง เบาะรองนอน เสื้อผ้า ของเล่น ฯลฯ

 

5 ขั้นตอนวางแผนการเงินฉบับ DINKs (Double Income No Kids)

 

1. กระเป๋าเงินเธอ + กระเป๋าเงินฉัน = กระเป๋าเงินของเรา

หลาย ๆ คู่รักที่ยังแยกกระเป๋าเงินกันอยู่อาจจะลองเปิดอกคุยกันให้ชัวร์ ๆ โดยอาจจะเริ่มจาก เรื่องของภาระหนี้สิน ต่างคนต่างมีหรือเปล่า ถ้าใครสักคนมีอยู่เราสามารถรับผิดชอบ ร่วมกันได้ไหม หรือเคลียร์ส่วนตัวให้เรียบร้อยเสียก่อน และลองตกลงร่วมกันว่าแต่ละคน จะมีเงินใช้ส่วนตัวเท่าไร พร้อมนำเงินที่เหลือมารวมเป็นกระเป๋าเงินของเรา

 

2. วางแผนเป้าหมายระยะสั้นเพื่อให้ทำได้ตามเป้าหมาย

อาจจะลองวางแผนเป้าหมายระยะสั้นร่วมกับคู่ของเรา เพื่อการแบ่งเงินสู่ความสุข ผ่านเป้าหมายระยะสั้น เช่น การวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ ไปประเทศไหน ระยะเวลาเท่าไร ใช้เงินเท่าไร โดยแบ่งเงินจากกระเป๋าเงินของเรามาใช้ในส่วนของ เป้าหมายระยะสั้น ผ่านการพูดคุย และตกลงกันให้ดี ทำให้เป้าหมายนี้ ไม่เป็นเพียงเป้าหมายของคนใดคนหนึ่ง

 

3. วางแผนเป้าหมายระยะยาว

แน่นอนว่ายามเข้าสู่วัยเกษียณเราอาจมีญาติ หรือหลานที่ดูแลก็ได้ แต่มันคงจะดีกว่า ถ้าหากคู่ของเราดูแลกันเองได้ คู่ของเราจึงจำเป็นที่จะต้องคิดถึงชีวิตหลังเกษียณ เอาไว้ด้วย จะไปอยู่อาศัยกันที่ไหน ต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไร

 

โดยเราจะลองคำนวณจากสูตร 

ค่าใช้จ่ายต่อเดือน x 12 เดือน x ระยะเวลาหลังเกษียณ = จำนวนเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณ (ยังไม่ได้รวมเรื่องของเงินเฟ้อ) (50,000 x 12 x 25) = 15,000,000 บาท

 

หากเราสามารถคำนวณจำนวนเงินที่คู่ของเราจำเป็นต้องเก็บได้แล้ว ก็จะทำให้เราสามารถแบ่งเงินออมเฉลี่ยแต่ละเดือนออกมาได้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง

 

4. กระเป๋าเงินคู่สู่การลงทุนร่วมกัน

แม้ว่า Double Income No Kids จะหาเงินได้มากเท่าไรก็ตาม มันคงจะดีกว่าหากให้เงิน ได้ทำงานผ่านการลงทุน แต่อย่าลืมว่าเมื่อเรารวมกระเป๋าเงินเป็นของกันและกันแล้ว เราก็ต้องมาระดมความคิดเรื่องการลงทุนไปพร้อมๆ กันด้วย โดยเราอาจจะนำเงินไปลงทุน ในกองทุนรวม หรือหุ้น ตามความถนัดและความชอบของคู่เรา แต่อย่าลืมที่จะ พิจารณาความเสี่ยงที่เราทั้งคู่รับไหวด้วย

 

5. มองหาประกันที่ทำร่วมกัน

ในอนาคตที่ไม่แน่นอน ก็ควรมองหาประกันที่ครองทั้งค่ารักษาพยาบาลและชดเชยรายได้ รวมไปถึงยังมองในส่วนผลประโยชน์ที่มีต่อผู้รับในกรณีถ้าหากไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว โดยเริ่มสำรวจตัวเองกันทั้งคู่ก่อนเลือกทำประกัน เช่น ประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต และอย่าลืมวางแผนการเงินสำหรับตัวเองและคู่รักของเรา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด ความเสียหายทางการเงินเมื่อเราต้องเกษียณและอยู่ด้วยกันในอนาคต