ลูกสาวอ้าง “พ่อดับ” ญาติกุเรื่อง “ไม่เจอลูก” ฮุบมรดกแทน เกือบ 1.5 ล้านบาท | ถกไม่เถียง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พ่อเสียชีวิตจากการถูกไฟดูด หลังพ่อเสียชีวิต ลูกสาวได้ไปขอทรัพย์สินพ่อกลับคืน แต่ทางญาติ ๆ กลับไม่ให้ แถมยังแอบนำทองของผู้ตายหนัก 4 บาทไปจำนำอีก มิหนำซ้ำทางญาติๆยังแอบไปรับเงินประกันสังคมกันเองอีก โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ประกันสังคมว่า ลูกสูญหายไม่สามารถติดต่อได้ มาขอทำเรื่องรับเงินแทน ทางลูกก็งงนะสิ ก็ติดต่อกับอา ๆ อยู่ทุกวัน  มาทำแบบนี้ได้ยังไง

 

นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์นิภา เสือพิทักษ์ภา อายุ 28 ปี ลูกสาวนายพีร์นิธิ เสือพิทักษ์ภา อายุ 53 ปี ผู้เสียชีวิตจากไฟฟ้าดูดขณะปฏิบัติหน้าที่ พร้อมญาติ ๆ เดินทาง มาที่สถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่ถูกญาติโกงมรดกของพ่อที่เสียชีวิตไป เพราะถ้าตำรวจทำคดีล่าช้า เกรงว่าทางญาติจะนำเงินมรดกของพ่อไปใช้หมดเสียก่อน

 

น.ส.พิมพ์นิภา เสือพิทักษ์ภา ลูกผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อวันที่ 12 ต.ค.66 พ่อของตนคือนายพีรีนิธิ เสือพิทักษ์ภา อายุ 53 ปี ขณะทำงานช่อมรถยนต์อยู่ได้ถูกไฟดูดหมดสติ และทำการปั๊มหัวใจกู้ชีพแต่ไม่สำเร็จ จึงได้ส่งศพพ่อผ่าพิสูจน์ที่ โรงพยาบาล หลังตนทราบเรื่องว่าพ่อเสียชีวิต จึงได้เดินทางมาร่วมงานศพพ่อ ตนได้เสนอญาติไปว่าขอให้จัดงานศพพ่อ 3 คืน แต่ญาติกลับไม่ยอม บอกสวด 1 คืนแล้วเผาทันที ตนจึงต้องยอมทำตามญาติผู้ใหญ่ ช่วงระหว่างงานสวดอภิธรรมศพและงานเผาศพ ทางญาติได้เก็บซองทำบุญจากแขกที่มาช่วยงานกันเอง เรื่องนี้ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะการงานศพต้องมีค่าใช้จ่าย 

 

ต่อมาหลังงานศพพ่อเสร็จสิ้น ตนมาทราบว่า ทางลูกพี่ลูกน้องของพ่อ แอบเอาทองของพ่อน้ำหนัก 3 บาทพร้อมกับพระพุทธรูปเลี่ยมทองน้ำหนัก 1 บาท ที่พ่อใส่อยู่ที่คอก่อนตายไปจำนำ ตนจึงขอทรัพย์สินทั้งหมดของพ่อคืน แต่ทางลูกพี่ลูกน้องพ่อกลับไม่ยอมคืนให้ อ้างว่าเอาไปจำนำเพื่อนำเงินมาจัดการศพให้พ่อหมดแล้ว ตนก็งงว่างานศพพ่อจัดแค่คืนเดียว แขกก็ไม่ค่อยมีใครมาร่วมงาน แต่ทำไมใช้เงินเป็น 100,000 จัดงาน และตนได้สืบทราบมาอีกว่า ทางลูกพี่ลูกน้องพ่อได้แอบไปรับเงินณาปนกิจ 50,000 บาท จากประกันสังคมมา 

 

โดยอ้างกับเจ้าหน้าที่ประกันสังคมว่า ลูกผู้ตายหายสาบสูญไม่สามารถติดต่อได้ จึงมาขอรับเงินแทน หลังตนทราบเรื่องทั้งหมด ตนได้ไปทวงเงินคืนจากลูกพี่ลูกน้องของพ่อ คนที่เอาเงินไป แต่ทางฝ่ายนั้นไม่ยอมให้คืน บอกว่า หากอยากได้เงินคืนก็เอาแม่ของผู้ตายที่ป่วยติดเตียงอยู่ไปเลี้ยงด้วยสิ แล้วก็ไปฟ้องศาลเอาเองนะเรื่องเงิน ตนจึงพาย่ามาเลี้ยงดูที่บ้าน และไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่นำเงินพ่อตนเองไป แต่ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ บอกให้ไปเจรจากันก่อน ตนพยายามอธิบายแล้วว่าทางฝ่ายคนเอาเงินไปไม่ยอมเจรจาด้วย ตำรวจจึงให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น 

 

สาเหตุการเสียชีวิตคือพ่อตนโดนไฟดูดในที่ทำงาน ทุกคนรู้หมดว่าพ่อโดนไฟดูดเสียชีวิต ใบชันสูตรออกมาก็คือไฟดูด แต่ใบมรณะบัตรเขาบอกว่าหัวใจล้มเหลว ทางประกันต่าง ๆ เขาเลยไม่จ่ายค่าประกัน อ้างว่าเสียงชีวิตเพราะเรื่องสุขภาพเพราะหัวใจล้มเหลว ตนก็อยากได้เงินตรงนี้ ไปดูแล ย่าตนก็พิการ ป่วยติดเตียงอยู่ สิ่งที่ตนสงสัย อีกอย่างคือ ทำไมญาติ ๆ เขาจัดการเรื่องทรัพย์สินเหล่านี้ได้ ทั้งที่ศาลมีคำสั่งให้ตนเป็นผู้จัดการมรดกของพ่อแล้ว

 

ทางด้าน นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกสาวของผู้ตาย ว่าตนเองเป็นลูกสาวคนเดียว แต่กลับไม่มีสิทธิ์ในมรดกของพ่อเลย ถูกทางญาติของพ่อที่เป็นเพียงลูกพี่ลูกน้องกับพ่อ เอามรดกของพ่อไปจัดการกันเองทั้งหมดเลย  ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินสร้อยคอทองคำ รวมไปถึงเงินฌาปนกิจ เงินประกันสังคม และอีกหลายรายการ รวมเป็นเงินกว่าล้านบาท ตนมองว่าญาติที่เอาเงินไปมีมีความผิดชัดเจน ลูกย่อมเป็นผู้ได้มรดกทั้งหมดของพ่อ แต่ญาติที่เป็นญาติห่างห่างกันกับนำเงินมรดกของผู้ตายไปบริหารกันเอง แบบนี้ถือว่ามีมีความผิดชัดเจน ตนได้ประสานไปยังผู้กำกับสภ.บางศรีเมืองแล้ว ให้ช่วยเร่งรัดคดีให้ เรื่องนี้เดี๋ยวเรามาฟังอีกฝ่ายหนึ่งที่เป็นคู่กรณี มาดูซิว่าให้เหตุผลว่าอะไร ตามต่อได้ในรายการถกไม่เถียงเย็นนี้