คดีพลิก ? ลูกหนี้ไม่จ่าย หายหน้า “เจ้าแม่เงินกู้” สางแค้น บุกตบ “แม่ลูกหนี้” หน้าโยก

10,262 ครั้ง

09 ก.ค. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ลูกหนี้ร้องสายไหมต้องรอด หลังถูกเจ้าหนี้บุกตบแม่หน้าสถานีตำรวจ ด้านเจ้าหนี้ชี้แจง ตบแม่ลูกหนี้เพราะโมโห และเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่าที่เป็นข่าว

วันที่ 10 ก.ค. 67 คุณบี (นามสมมติ) ลูกหนี้ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนรู้จักกับคุณหมวยประมาณ 6 ปี เนื่องจากเคยอยู่บ้านใกล้กันและแฟนของตนเป็นเพื่อนคุณหมวย ตนเป็นหนี้คุณหมวยหลายครั้งเงินต้น 14,900 บาท ตนไม่ได้จ่ายหนี้ตามที่กำหนดเนื่องจากต้องจ่ายค่าเทอมลูก จึงถูกเจ้าหนี้นำสีมาปาใส่บ้านและไปทำร้ายแม่ของตนที่ไม่รู้เรื่องด้วย

ถกไม่เถียง : คดีพลิก ? ลูกหนี้ไม่จ่าย หายหน้า “เ

คุณบุญ (นามสมมติ) แม่ของลูกหนี้ เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุตนกำลังขายของ กลับถูกคุณหมวยเข้ามาตบหน้าโดยที่ตัวเองไม่รู้เรื่อง อีกฝ่ายบอกตนว่าลูกสาวตนเป็นหนี้แต่ตนไม่รู้เรื่อง เนื่องจากไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันมากว่า 10 ปีแล้ว จากนั้นจึงโทรหาคุณบีเพื่อให้มานัดเจอเคลียร์ปัญหา หลังจากถูกตบตนไม่ได้ไปแจ้งความทันทีเนื่องจากไม่มีคนเฝ้าร้าน วันรุ่งขึ้นหลานชายจึงพาไปแจ้งความ

คุณบี เล่าต่อว่า หลังจากแจ้งความตำรวจนัดเจรจาและแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว แต่คุณหมวยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จึงตัดสินใจไปร้องขอความช่วยเหลือกับสายไหมต้องรอด เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว เนื่องจากคุณหมวยข่มขู่และมาทำร้ายแม่ของตนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง

คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่าหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน ตนจะช่วยประสานกับตำรวจ เรื่องหนี้สินแม้ว่าดอกเบี้ยจะแพงเกินจริง แต่เป็นการตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่าย ส่วนการทำร้ายร่างกายแม่ของลูกหนี้เป็นสิ่งที่ยินยอมไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจเพราะสถานที่เกิดเหตุอยู่หน้าโรงพัก หลังจากนี้จะช่วยเหลือด้วยการให้ทั้งสองฝ่ายเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ของรัฐบาล ที่จะช่วยกำหนดให้ดอกเบี้ยที่เป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย

คุณหมวย เจ้าหนี้ ชี้แจงถึงสาเหตุที่ไปทำร้ายแม่คุณบี เนื่องจากไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้ตั้งแต่เดือน มี.ค. 67 หลังจากที่เจรจากันแล้วว่าจะต้องจ่ายเงินตามที่กำหนด จึงตามหาจนไปเจอแม่ของคุณบี ตนเข้าไปถามหาลูกหนี้แต่อีกฝ่ายกลับตอบว่าไม่ได้เจอเป็น 10 ปีแล้ว จึงทำให้ตนโมโหเนื่องจากที่ผ่านมาตนช่วยเหลืออีกฝ่ายมาตลอด เมื่อก่อนตนกับคุณบีสนิทกันมาก และคุณแม่บุญก็รับรู้เรื่องที่คุณบีติดหนี้ ทำให้เกิดการทำร้ายร่างกายขึ้น

ยืนยันว่าหนี้ของคุณบีทั้งหมดไม่ใช่หลักหมื่นตามที่กล่าวอ้าง แต่เป็นเงินที่คุณบีขอยืมหลายครั้งรวมทั้งหมดกว่า 155,000 บาท ส่วนการปาสีใส่บ้านคุณบี และพฤติกรรมข่มขู่อื่น ๆ ตนยืนยันว่าไม่เคยทำ พร้อมเผยว่าตนเคยเป็นเจ้าแม่เงินกู้จริงตามที่เป็นข่าว แต่เลิกทำไปหลายปีแล้ว โดยมีคุณบีเป็นเลขาที่คอยหาลูกค้าและจัดการเรื่องเงิน แล้วสุดท้ายตนถูกคุณบียักยอกเงินไปใช้เอง ตนรู้สึกผิดพร้อมที่จะขอโทษและเยียวยาคุณแม่บุญที่เป็นผู้เสียหาย

ด้านคุณบี ชี้แจงว่าหนี้ทั้งหมดที่คุณหมวยแจงมามีบางส่วนที่เป็นจริง แต่บางส่วนก็ไม่จริง นอกจากนี้ตนยังเคยเป็นผู้ค้ำประกันให้แกคุณหมวยในการกู้ยืมเงิน แล้วคุณหมวยไม่ใช้หนี้ตามที่กำหนด จึงทำให้ตนเดือดร้อนไปด้วย และตนไม่เข้าใจว่าทำไมคุณหมวยต้องมาทำร้ายร่างกายแม่ของตน ทั้งที่อีกฝ่ายเองก็เป็นหนี้เหมือนกัน

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า การทวงหนี้แล้วทำร้ายร่างกาย หลายคนอาจเข้าใจว่าเพียงแค่จ่าย 500 บาทแล้วจบเรื่องซึ่งเป็นกฎหมายเก่า แต่กฎหมายใหม่ปรับแก้แล้วผู้ที่ทวงหนี้แล้วทำร้ายร่างกายลูกหนี้ ถือว่าเป็นการทวงหนี้โดยการประทุษร้ายมีโทษปรับ 5 แสนบาท จำคุก 5 ปี

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35