logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ผวาเจออาถรรพ์ “พระเครื่อง” จนต้องร้อง “หมอปลา” ช่วยด้วย | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผวาทั้งหมู่บ้าน จนต้องร้องหมอปลา ช่วยด้วย นอนแทบไม่ได้ หลังยายวัย 70 ปี เก็บของชิ้นนี้มาจากกองขยะ โด ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

3,884 ครั้ง
|
05 ก.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผวาทั้งหมู่บ้าน จนต้องร้องหมอปลา ช่วยด้วย  นอนแทบไม่ได้ หลังยายวัย 70 ปี เก็บของชิ้นนี้มาจากกองขยะ โดนก้อนหินปาใส่ ไฟลุกท่วมบ้าน 
 
คลิปเหตุการณ์ขณะไฟลุกไหม้เสื้อผ้าที่ตากอยู่บนราว ในบ้านพักหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.กลางแดด จ.นครสวรรค์  จนชาวบ้านต้องเข้ามาช่วยกันดับไฟวุ่น 
 
นี่เป็นเพียงหนึ่งในเหตุการณ์ประหลาดที่เจ้าของบ้านพบเจอ  เพราะทุกคืนจะโดนก้อนหินปริศนาปาใส่บ้านทั้งคืน จนแทบนอนไม่ได้   หลังเจ้าของบ้านอ้างว่า สาเหตุเกิดจากอาถรรพ์ที่ไปเก็บถุงพระเครื่องมาจากกองขยะ  หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์แปลก ๆ แบบนี้ทุกคืน
 
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ  ภายในบ้านหมู่บ้านดังกล่าว มีบ้านอยู่ในละแวกเดียวกันประมาณ 5 หลัง ทุกหลังเจอกับสิ่งลี้ลับที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ มาก่อกวนอาละวาดทุกค่ำคืน จนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะแต่ละคืน จะถูกก้อนหินทั้งขนาดเล็กใหญ่ ปาใส่บ้าน ข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังต้องคอยเฝ้าระวังฟืนไฟ ที่อาจจะลุกไหม้บ้านได้ตลอดเวลาด้วย
 
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบมีกลุ่มชาวบ้านเป็นจำนวนมาก รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ และพระภิกษุ ต่างเข้ามาอยู่เฝ้าที่หมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อสังเกตสิ่งลี้ลับ เพราะยังไม่สามารถตามหาต้นตอของเรื่องได้ จึงมีความเชื่อกันว่า เป็นอาถรรพ์ลี้ลับที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ ต่างต้องพากันขนลุก ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
 
นางทุเรียน อายุ 70 ปี เป็นต้นเรื่องที่ทำให้เกิดสิ่งลี้ลับ เปิดเผยว่า มีอาชีพเก็บของเก่าขาย เมื่อ 2 เดือนก่อน ได้ขี่รถสามล้อเครื่องไปตระเวนเก็บของเก่า อยู่ที่บริเวณกองขยะเชิงสะพานแห่งหนึ่งใน ต.กลางแดด แล้วพบถุงใส่พระเครื่อง 4 องค์ ถูกวางทิ้งไว้ จึงเก็บเอากลับมาด้วย  วันแรกไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่พอเข้าคืนที่ 2 มีเรื่องหลอนทันที เพราะจู่ ๆ บ้านก็ถูกก้อนหินขว้างปาใส่ เปิดบ้านไปมองหารอบบ้านแล้ว แต่มองไม่เห็นใคร แถมตอนนั้น ยังถูกหินปากระหน่ำเข้าใส่ไม่หยุด จึงต้องหลบเข้ามาอยู่ในบ้าน และต้องทนฟังเสียงถูกปาหินตลอดทั้งคืน โดยจะเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 22.00 น.ไปจนถึงเช้าทุกวัน  แถมบางทียืนอยู่ดี ๆ ก็เหมือนมีคนมาผลัก  และมีเหตุการณ์ประหลาดอีกหลายอย่าง 
และพอหนักเข้า หลานชายวัย 15 ปี ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ทนไม่ไหว ก็เดินออกจากบ้านไปยืนด่าทอท้าทายว่า “หากมึงเป็นผีจริง ขอให้มึงไม่ไปผุดไปเกิด” แล้วก็เกิดไฟลุกไหม้ชุดนักเรียนหลานที่แขวนไว้อยู่ข้างมุ้ง จนเสียหายไปถึง 5 ชุด เคราะห์ดีที่เห็นทัน เพื่อนบ้านจึงมาช่วยกันดับไฟไว้ได้ก่อน
 
ด้านเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เล่าว่า หลังจากมีเหตุประหลาดเกิดขึ้นที่บ้านนางทุเรียน ลูกชายวัย 15 ปี อยากพิสูจน์ เลยขอถุงพระเครื่องมาเก็บไว้ที่บ้าน 1 คืน ก็เกิดฤทธิ์เดชขึ้นเช่นกัน เพราะโดนก้อนหินปริศนาปาใส่บ้าน แม้จะเอาถุงพระเครื่องไปถวายให้พระรูปหนึ่ง ที่อยู่วัดในหมู่บ้าน แต่ก็ยังโดนปาหินใส่เหมือนเดิมและไม่ว่าใครในหมู่บ้านไปจับถุงพระเครื่องดังกล่าว ต้องกลายเป็นผู้ประสบภัยแบบเดียวกันหมด 
 
ทีมข่าวตรวจสอบพระเครื่องทั้ง 4 เหรียญ  พบว่าเหรียญที่ 1. เป็นเหรียญหลวงพ่อคูณ เสาร์ 5 คูณพันล้าน   2. เหรียญชินราช หลัง พระลีลาอัตถารส พิษณุโลก  3.เหรียญนางพญา สก. ฉลอง 6 รอบ สิริกิติ์   ฤาษีลิงดำ อธิฐานจิต   และ 4. เหรียญหลวงพ่อทันใจ หนองคาย  ซึ่งทุกเหรียญถือเป็นพระที่มีชื่อเสียง และพุทธคุณด้านความดีงามทั้งหมด 
 
ด้านนายวิโรจน์ ปานแก้ว กำนันตำบลกลางแดด เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าได้รับความเดือดร้อน และผวาแทบนอนไม่ได้ ตนและผู้ช่วยจึงมาพิสูจน์อยู่หลายครั้งจนกระทั่ง ได้ร่วมทำบุญกลางบ้านตามความเชื่อ แต่ก็ยังไม่วาย เกิดเหตุการณ์แบบเดิมขึ้นมาอีก ซึ่งตนก็ได้ยินเสียงปาหินเองกับหู แต่เมื่อมองหา กลับไม่เจอใครแม้แต่เงา
 
ล่าสุดเรื่องนี้ถึงหูหมอปลาแล้ว  โดยหมอปลาบอกว่าจะลงพื้นที่ไปพิสูจน์ความจริงในวันจันทร์ ที่ 8 ก.ค.นี้  แต่จากข้อมูลที่ทราบ  พอจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว  แต่ยังไม่ขอพูด เพราะมันคือความเชื่อของชาวบ้าน  และอยากเตือนชาวบ้านว่าอย่าไปเสียเงินให้พวกหมอผี หรือหมอดูใด ๆ  เพราะจะเป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุ
 
ฟังความเห็นด้านไสยศาสตร์แล้ว ไปฟังความเห็นด้านวิทยาศาสตร์บ้าง เรื่องนี้รองศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์และนักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ให้ข้อมูลว่า หากมองตามหลักฟิสิกส์แล้ว ไม่ใช่ฝีมือผีแน่นอน เพราะการที่ก้อนหินจะเคลื่อนที่ไปกระทบวัตถุได้ต้องมีแรงกระทำ และหากสังเกตขนาดก้อนหิน พบว่าเป็นขนาดพอดีมือคน  เพราะฉะนั้นควรเฝ้าระวังคนมากกว่าระวังผี และหากอยากให้เรื่องกระจ่างแนะนำให้ติดกล้องวงจรปิดพิสูจน์ไปเลย 
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง