ว่ากันว่าการทำประกันชีวิตก็เหมือนการเลือกรับวัคซีน แบบนี้เราควรเลือกอะไรดีครับระหว่างประกันชีวิตแบบตอลอดชีพกับแบบยูนิตลิงก์
การทำประกันชีวิตก็เหมือนการเลือกรับวัคซีนที่เหมาะกับเราในปริมาณ ที่เหมาะสม และสามารถป้องกันโรคร้ายนั้นได้
1.แบบประกันตลอดชีพ
- ความคุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี
- สัดส่วนเบี้ยต่อทุนประกันได้ค่อนข้างสูง ระยะเวลาจ่ายเบี้ยถูกกำหนดไว้แน่นอน
- เน้นการส่งต่อมรดกให้คนรุ่นหลัง
- รายละเอียดไม่ซับซ้อน อัตราผลตอบแทนคงที่
- เบี้ยประกันหักลดหย่อนภาษีได้เต็มสิทธิ
2.แบบประกันยูนิตลิงก์
Unit Link ย่อมาจาก Unit Linked Insurance Policy (ULIP) หรือเรียกอีกอย่างว่าประกันชีวิตควบการลงทุน คือการทำประกันเพื่อคุ้มครองชีวิต พร้อมกับการลงทุนในกองทุนรวมในกรมธรรม์เดียวกัน
- ความคุ้มครองยืดหยุ่น ระยะเวลา / ทุนประกัน / เบี้ยประกัน ปรับเปลี่ยนได้ตามเงื่อนไข
- สัดส่วนเบี้ยต่อทุนประกันได้สูงกว่าตลอดชีพแต่ระยะเวลาการจ่ายเบี้ย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์
- สามารถออกแบบให้เป็นทั้งความคุ้มครองและการออมเพื่อการเกษียณ หรือเป้าหมายอื่น ๆ
- รายละเอียดค่อนข้างชับซ้อน อัตราผลตอบแทนขึ้นกับพอร์ตการลงทุน และค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในแต่ละช่วง
- เบี้ยประกันหักลดหย่อนภาษีได้บางส่วน
การเปรียบเทียบระหว่างประกันชีวิตแบบตลอดชีพ vs ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงก์ โดยการเน้นที่ความแตกต่างในการปรับตัวของแต่ละแบบให้สอดคล้อง กับความต้องการทางการเงินของแต่ละบุคคล
1. การเลือกประกันชีวิตต้องให้สอดคล้องกับความต้องการทางการเงิน
ประกันชีวิตทั้ง 2 แบบ มีข้อดีและข้อเสียที่เกี่ยวข้องกับความต้องการทางการเงิน ของแต่ละบุคคล และสามารถเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงิน และวัตถุประสงค์การลงทุนของตนเองได้
2. ค่าใช้จ่ายและความแน่นอนในการชำระเบี้ย
- ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ มีค่าเบี้ยสูงกว่าประกันชีวิตแบบยูนิตลิงก์ แต่มักมีความคุ้มครองที่มั่นคงตลอดระยะเวลาชีวิต
- ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงก์ มีค่าเบี้ยต่ำกว่า แต่มีความเสี่ยงในการปรับเปลี่ยน ค่าเบี้ยในอนาคต และการเงินเช่นค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมสำหรับยูนิตลิงก์ ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจ
3. การจัดการการลงทุน
ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงก์มักมีการลงทุนในพอร์ตกองทุนรวมที่ผันผวน ซึ่งอาจมีผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว แต่ก็มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับประกันชีวิตแบบตลอดชีพที่มักมีความคงที่ในการลงทุน
4. การเลือกทางอื่น
นอกเหนือจากสองแบบหลักที่กล่าวถึง ยังมีทางเลือกอื่น ๆ เช่น ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ซึ่งอาจมีความเหมาะสมกับบางบุคคลที่ต้องการ ความคุ้มครองเฉพาะในช่วงเวลาที่กำหนด
สรุปได้ว่าการเลือกประกันชีวิตควรพิจารณาทั้งความต้องการทางการเงิน ความคุ้มครองที่ต้องการ และความสามารถในการรับความเสี่ยงในการลงทุน เพื่อทำให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีสมาธิและเหมาะสมกับสถานะการเงิน และวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคล
ความเสี่ยง 4 ด้าน เกี่ยวกับการวางแผนประกัน
1.ความเสี่ยงจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
2.ความเสี่ยงจากการมีรายได้ไม่เพียงพอเมื่อเกษียณอายุ
3.ความเสี่ยงจากการมีสุขภาพไม่ดี
4.ความเสี่ยงกรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital
VIDEO