เก็บเงินฉบับเด็กจบใหม่ ! เริ่มยังไงให้ได้ตามเป้าหมาย มีเงินใช้ไม่ขัดสน | เงินทองของจริง

เด็กจบใหม่ที่อยากมีเงินเก็บ ควรเริ่มเก็บเงินยังไงดี ถึงเหลือกินเหลือใช้ มีเงินออม และสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ?

 

เก็บเงินสำหรับเด็กจบใหม่ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่นัก ในยุคที่ต้องเผชิญกับ วิกฤตทางเศรษฐกิจ รายได้ก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีภาระที่ต้อง รับผิดชอบอยู่ไม่น้อย

 

1. จัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย

การเก็บเงินให้ถึงเป้าหมายควรเริ่มที่เป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน เพราะการมีเป้าหมายชัดเจน จะช่วยให้มีแรงจูงใจในการเก็บเงินมากขึ้น หากไม่มีเป้าหมายเราอาจจะสงสัยว่าเรากำลัง เก็บเงินไปเพื่ออะไร และเราอาจท้อใจในการเก็บเงินไปได้ง่าย ๆ อีกปัญหาหนึ่งที่มักเจอ คือมีเป้าหมายมากเกินไปจนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่อะไรดี ดังนั้นควรคิดถึงสิ่งที่อยากทำ มากที่สุดหากพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต และจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย และเน้นเก็บเงินตามเป้าหมายเหล่านั้นเป็นอันดับแรก

 

2. บันทึกรายรับ รายจ่าย

การบันทึกรายรับและรายจ่ายเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการเงิน การจดบันทึก รายละเอียดเหล่านี้อาจดูยุ่งยาก แต่มันช่วยให้เห็นภาพรวมของการใช้จ่ายและรายได้ ทำให้เราเข้าใจได้ว่าเงินที่ใช้ไปเป็นอย่างไร และเห็นภาพรวมของการเงินในทุก ๆ เดือน และใครรู้สึกว่าการเขียนนั้นยุ่งยาก ก็ลองใช้แอปพลิเคชั่นบันทึกรายรับรายจ่ายก็จะทำให้ ง่ายขึ้นและสะดวกมากขึ้นด้วย

 

3. ออมเงินอย่างน้อย 10%

โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่รายได้ไม่ได้เยอะมาก อีกทั้งยังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ การเริ่มต้นการออมเงินตั้งแต่ตอนนี้เป็นเรื่องดีการออมเงินเป็นเรื่องสำคัญ โดยสามารถ กำหนดให้เก็บเงินอย่างน้อย 10% ของรายได้เดือนละครึ่งชุด จะช่วยให้มีเงินเก็บไว้ใน กรณีฉุกเฉินหรือเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ได้อย่างมั่นคงและมั่นใจ

 

4. ไม่ต้องรีบสร้างหนี้

ในช่วงเริ่มต้นการทำงาน อย่ารีบสร้างหนี้ เริ่มสร้างบ้านหรือซื้อรถเมื่อพร้อมจะดีกว่า แนะนำว่าในช่วง 5 - 10 ปีแรกของการทำงาน ควรเน้นการเก็บเงินและสร้างชีวิตก่อน เพราะการสร้างหนี้ ก็เหมือนการสร้างภาระให้เราต้องแบกหนักขึ้น ทำให้ขาด ความคล่องตัวทางการเงิน และทำให้การเก็บเงินเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ช้ากว่าเดิม

 

5. เรียนรู้เรื่องการเงิน

การลงทุนเพื่อเพิ่มเงินเหลือใช้ต้องใช้ความรู้และเข้าใจ ไม่ควรลงทุนเพราะใคร ๆ ก็บอกตามกันมา เพราะการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง เราจึงควรศึกษาเกี่ยวกับการเงิน อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน หากเรามีความเข้าใจเพียงพอแล้วก็จะช่วยให้ เราเก็บเงินได้มากขึ้นในอนาคต

 

ช่องทางเก็บเงินสร้างกำไร

1.บัญชีเงินฝากประจำ 

เชื่อว่าทุก ๆ คนน่าจะมีบัญชีออมทรัพย์สำหรับออมเงินกันอยู่แล้ว แต่น้อยคนที่จะมี บัญชีเงินฝากประจำเป็นของตัวเอง ซึ่งมีรูปแบบคล้ายบัญชีออมทรัพย์แบบปกติ แต่แตกต่างกันที่บัญชีฝากประจำจะกำหนดระยะเวลาในการฝาก เช่น 6 เดือน 1 ปี หรือมากกว่านั้น แต่ก็มีผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยที่สูงกว่าเดิมมาก โดยห้ามถอนเงินออก ในช่วงเวลานี้ มิฉะนั้นจะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้

 

โดยวิธีเก็บเงินผ่านบัญชีเงินฝากประจำนั้นเหมาะสำหรับ

1.1 ผู้ที่ต้องการเก็บเงินโดยเฉพาะ และยังไม่มีความจำเป็นต้องรีบถอนเงินมาใช้

1.2 สำหรับเป้าหมายในระยะยาว หรือมีเงินก้อนสำหรับใช้ในอนาคตเมื่อครบกำหนดการฝาก

 

2.สลากออมทรัพย์ 

เป็นอีกวิธีเก็บเงินที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะได้ทั้งดอกเบี้ยเงินฝาก และสามารถลุ้นรางวัลจากสลากได้ในตัว ซึ่งสลากออมทรัพย์นั้นจะมีส่วนคล้ายกับ บัญชีฝากประจำ ตรงที่เมื่อซื้อสลากแล้วจะยังไม่สามารถขายแลกเป็นเงินได้ จนกว่าจะครบระยะเวลาที่กำหนด โดยข้อดีของวิธีเก็บเงินด้วยสลากออมทรัพย์ก็คือ

2.1 ไม่ต้องเสี่ยงว่าจะต้องเสียเงินต้น

2.2 มีโอกาสถูกรางวัลใหญ่ที่มีมูลค่าสูงหลักแสน หรือหลักล้าน

2.3 ได้ทั้งดอกเบี้ยเงินฝาก พร้อมลุ้นรางวัลจากสลาก ยิ่งซื้อมากยิ่งมีโอกาสมาก

 

สลากออมทรัพย์นั้นอาจมีเกณฑ์ขั้นต่ำในการซื้อ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินก้อนอยู่ และยังไม่รีบใช้ หากใครมีเงินก้อนที่ยังไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร สลากออมทรัพย์นับเป็น อีกวิธีเก็บเงินหนึ่งที่สร้างกำไรได้มาก

 

3.กองทุนรวม 

เป็นการลงทุนที่ได้รับความสนใจมาก เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าวิธีเก็บเงิน แบบอื่นหลายเท่าตัว ซึ่งสามารถเลือกลงทุนจากกองทุนหลากหลายแบบ แต่ก็แลกกับ ความเสี่ยงที่อาจสูญเสียเงินต้นบางส่วนไปเนื่องจากความผันผวนทางธุรกิจ ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีผู้เชี่ยวชาญจะดูแลให้มีผลตอบแทนและเงินปันผลมากขึ้น โดยเปอร์เซ็นต์ของเงินปันผลขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของกองทุน และมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างรายได้จากเงินปันผลในระยะยาว ดังนั้นไม่ควรนำเงินที่มีวัตถุประสงค์อื่น ไปลงทุนในกองทุนรวม