ช้างป่าคลั่ง ! บุกทำร้าย “หลวงตา” คากุฏิ หลังท้าทายจะจับช้าง สุดท้ายบาดเจ็บสาหัส

ช้างป่าภูกระดึง 2 ตัวบุกทำร้ายพระในกุฏิอายุ 80 บาดเจ็บซี่โครงหัก 2 ซี่ ก่อนหน้านี้เคยมีชาวบ้านถูกช้างทำร้ายจนตายมาก่อนแล้ว เชื่อเหตุพูดท้าทายเพราะใครพูดช้างจะมาหาจริง

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. มีชาวบ้านแจ้งขอความช่วยเหลือจากสื่อให้ช่วยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ เหตุมีช้างป่าบุกเข้ามาทำร้ายคน จึงประสาน ให้จนท.อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน และจนท.ควบคุมไฟป่าขอนแก่นช่วยลงพื้นที่ตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุคือ วัดป่าประชาชุมพร ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านสันติสุข ม.6 ต.หนองแดง อ.ชมพู จ.ขอนแก่น ในคืนวันที่ 3 มิถุนายน เวลาประมาณ 4.00 น. มีช้างป่า 2 ตัวที่เดินทางไกลมาจากภูกระดึงอาละวาดทำร้ายหลวงตา อายุ 80 ปี บาดเจ็บสาหัส

สอบถามพระวีระพันธ์ เจ้าอาวาสวัดทราบว่า ตอนเกิดเหตุคืนที่มีช้างเข้ามากล้องวงจรปิดไม่สามารถจับภาพได้ จึงสำรวจพื้นที่ภายในวัดพบเป็นรอยเท้าของช้าง 2 ตัว ตัวที่ 1 เดินไปทางกุฏิพระคำไพรแต่โชคดีที่เดินไปไม่ถึงกุฏิ เพราะช้างลงไปเล่นน้ำในสระข้างกุฏิ

ตัวที่ 2 เดินไปทางกุฏิพระมูลซึ่งเป็นพระที่ถูกช้างทำร้าย พระมูลเล่าว่าช้างเข้ามาในกุฏิและทำร้ายตนเป็นเหตุให้ซี่โครงข้างซ้ายหัก 2 ซี่ ไหล่ซ้ายหลุด จึงถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.สีชมพู

พระคำไพรกล่าวว่า ได้ยินเรื่องช้างอาละวาดในพื้นที่ อ.สีชมพู มา 2 ปีแล้ว ว่ามีช้างมาจากภูกระดึง ผานกเค้า จ.เลย เข้ามาในพื้นที่นี้และทำลายพืชในไร่สวน มีเจ้าหน้าที่มาไล่ออกไปแต่สุดท้ายก็ยังกลับมาเหมือนเดิม โดยแยกฝูงกัน 3 ตัวไปอีกทาง ส่วนอีก 2 ตัวก็เดินทางมาจนถึงป่าประชาชุมพรและทำร้ายพระจนบาดเจ็บ

พระมูลมักจะพูดท้าทายว่า “มาเลย ช้างเข้ามาในวัดเลย จะจับช้างผูกให้กินหน่อไม้ในวัดให้ชาวบ้านดู” จึงได้เตือนว่าอย่าท้าทาย เหตุที่เตือนเพราะมีครั้งหนึ่งมีชาวบ้านอ่างทอง ต.ดงลาน อ.สีชมพู เคยพูดท้าทายช้างเหมือนกัน ไม่นานช้างก็มาหาจริงและทำร้ายจนเสียชีวิต

พระคำไพรเชื่อว่าคนที่ท้าทาย ช้างจะมาหาจริง ไม่มีใครสามารถจับช้างป่าได้และจะถูกทำร้ายทุกคน จึงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันจัดการช้างป่าให้ออกไปนอกพื้นที่ อย่าให้เข้ามาทำร้ายชาวบ้านและพระอีก