logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

พี่สาวงง ! น้องสาวดับ ไปขอคัดใบมรณะบัตร ตะลึง ลูกชาย-พ่อทิพย์โผล่ | ถกไม่เถียง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หญิงวัย 57 ปีสุดงง อยู่กับน้องสาวมาตั้งแต่เด็ก น้องสาวไม่เคยมีสามี ไม่เคยตั้งท้อง จนน้องสาวเสียชีวิตใ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

16,715 ครั้ง
|
06 มิ.ย. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หญิงวัย 57 ปีสุดงง อยู่กับน้องสาวมาตั้งแต่เด็ก น้องสาวไม่เคยมีสามี ไม่เคยตั้งท้อง จนน้องสาวเสียชีวิตในวัย 55 ปี พอไปขอคัดใบมรณบัตร จู่ ๆ พบว่ามีลูกชายทิพย์โผล่ 2 คน มิหนำซ้ำพ่อทิพย์โผล่เพิ่มขึ้นมาอีก ตอนนี้เธอเดือดร้อนมาก เธอไม่สามารถเข้าไปจัดการทรัพย์สินของน้องสาวได้ เธอยืนยันว่าน้องสาวไม่มีลูกแน่นอน และไม่มีการไปขอบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงด้วย เพราะตนกับน้องสาวได้อยู่ด้วยกันมาตลอด ไม่มีทางจะแอบไปมีลูกแน่นอน
 
นางสาวชฎาพร กันติ๊บ อายุ 57 ปี เดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณี นางสาวกัลยา กันติ๊บ น้องสาววัย 55 ปี เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งตลอดเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่น้องสาวอยู่บ้านเดียวกับตนมาโดยตลอด ใช้ชีวิตเป็นคนโสด ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก ไม่มีสามี คอยเลี้ยงดูหลานเป็นอย่างดี เมื่อน้องสาวเสียชีวิต จู่ ๆ กลับพบว่ามีลูกชายทิพย์ถึง 2 คน ซ้ำเจอพ่อทิพย์เพิ่มอีก 1 คน
 
นางชฎาพร กล่าวว่า ตนมีพี่น้องอยู่ด้วยกัน 3 คน ตนเป็นคนโต กับผู้ตายคือคนรอง และมีผู้ชายเป็นคนเล็ก เรา 3 คนมีแค่พ่อที่คอยเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ได้ทิ้งไปตั้งแต่ 6 ขวบ ต่อมาพ่อได้เสียชีวิตในปี 2526 ตอนนั้นพ่ออายุ 40 ปี ทำให้ตนกับน้อง ๆ ต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เขตสายไหม เมื่อปี 2526 โดยไปอาศัยอยู่กับอา และญาติอีกหลายคน เวลาไปเรียนหนังสือตนกับน้องสาวจะเดินทางไปด้วยกันตลอด มีชีวิตที่ผูกพันกันมาก เพราะต้องคอยดูแลกันเองตั้งแต่ตอนพ่อเสียชีวิต มีปัญหาอะไรจะคอยเล่าสู่กันฟังอยู่เสมอ
 
ต่อมาจนกระทั่งทุกคนเรียนจบ ต่างแยกย้ายกันไปทำงาน แต่ก็ยังคงแวะเข้าหากันอยู่เป็นประจำ ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 น้องสาวได้เสียชีวิต ด้วยอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ ตอนนั้นตนเสียใจมากความดันขึ้นถึง 250 หลังจากเสร็จสิ้นงานศพน้อง
 
ตนได้มาเดินเรื่องทำใบมรณบัตรที่สำนักงานเขตทุ่งสองห้อง ปรากฏว่าในทะเบียนมรณบัตรพบว่า น้องสาวตนเมีลูกชายโผล่มา 2 คน คนโตอายุ 37 ปี คนเล็กอายุ 32 ปี และมีพ่อน้องสาวอายุ 63 ปี แต่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2542 โผล่ขึ้นมาด้วยอีก ตนถึงกับงงมาก ว่าเป็นไปได้อย่างไร จึงไปขอคัดเอกสารที่สำนักงานเขตสายไหม เพราะเป็นที่อยู่ตั้งแต่ที่แรก และได้แจ้งไปว่าในทะเบียนมรณะบัตรของน้องสาวมีชื่อ ผู้ชาย 2 คนระบุว่าเป็นลูกของน้องสาว น่าจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาด และพ่อของน้องสาว ไม่เคยมีเลข 13 หลัก แต่อยู่ดี ๆ มีเลข 13 หลักโผล่มา และพ่อตนเองก็เสียชีวิตไปตอนอายุ 40 ปี
 
แต่ในมรณบัตร ระบุว่า พ่อเสียชีวิต ตอนอายุ 63 ปี ซึ่งไม่ตรงกันเลย ทางสำนักงานเขตสายไหมจึงขีดค่าออกให้ พร้อมกับเซ็นชื่อกำกับไว้ ส่วนเรื่องลูกที่โผล่มา 2 คนนั้น ทางสำนักงานเขตสายไหมได้ให้ไปติดต่อที่สำนักงานเขตหลักสี่ เพราะเป็นที่อยู่ของทะเบียนบ้านน้องสาว หลังตนเดินทางไปที่เขตหลักสี่ ก็ไม่รับคำตอบใดจากเจ้าหน้าที่ แจ้งเพียงว่า ยืดตามเอกสารแหละครับ
 
หลังจากตนตรวจสอบตามที่เอกสาร ระบุว่า น้องสาวตนมีลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 37 ปี คนเล็ก อายุ 34 ปี พอตนเห็นอายุหลานชายคนโต อายุ 37 ปี จึงยิ่งทำให้มั่นใจว่าเป็นหลานทิพย์แน่นอน เนื่องจากเปรียบเทียบจากอายุหลานชายกับอายุของน้องสาวตนแล้ว ถ้าเป็นลูกน้องสาวของตนจริง ๆ นั้นเท่ากับว่าน้องสาวตนต้องมีลูกตอนอายุเพียง 18 ปี ซึ่งขณะอายุ 18 ปีนั้น น้องสาวตนยังเรียนมัธยม ชั้น ม.5 อยู่เลย จะไปมีลูกได้อย่างไร ที่สำคัญตนเป็นคนทำงานส่งน้องเรียนหนังสือ เป็นคนไปรับไปส่งน้องที่โรงเรียนด้วยตัวเองทุกวัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่น้องจะท้อง ตนจึงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงมาร้องเพจสายใหม่ต้องรอด ให้ช่วยเหลือ
 
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา มท.1 และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเชิงลึกว่าเกิดความผิดพลาดจากระบบ หรือมี จนท.ร่วมรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด หากเป็นความผิดพลาดจากระบบก็จะต้องเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง แต่หากเกิดขึ้นจากการทุจริตของ จนท. ก็จะต้องมีการสอบสวนขยายผลเพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป จึงขอฝากไปยังอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ขอให้เร่งสอบสวนเรื่องดังกล่าวให้เกิดควาทชัดเจนโดยเร็ว
 
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง บ.5/41 แขวงคลองถนนเขตสายไหม จังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งบ้านของนางสาวชฎาพร กันติ๊บ ผู้ร้องพบว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นที่อาศัยของนางชฎาพร และนางสาวกัลยา (ผู้ตาย) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 จริง โดยชฎาพรได้นำรูปสมัยเก่าที่อยู่ด้วยกันออกมาโชว์ และยืนยันว่าตอนอายุ 18 ปี ได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้จนถึงปัจจุบันกับน้องสาว น้องจะแอบไปมีลูกหรือยังอย่างไร และภายในบ้านยังพบรถยนต์ของ นางสาวกัลยา ผู้เสียชีวิตจอดอยู่ นี่ก็เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า ผู้เสียชีวิตอยู่ในความดูแลของพี่สาวอยู่ตลอด ไม่สามารถไปแอบมีบุตรถึง 2 คนได้ 
 
เรื่องนี้เดี๋ยวเรามาตามต่อกันในรายการ ถกไม่เถียง เย็นนี้ 17.30 น. มาดูกันว่าต้นตอของเรื่องนี้คืออะไร
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง