จับพิรุธ “เมียเสี่ยต้น” จ้างคนลอบยิงผัว ปมนอกใจ คาดเอี่ยวคดี “วางยา” สั่งตาย ?

กลายเป็นคดีมหากาพย์ การเสียชีวิตของ "เสี่ยต้น" ที่นอนตายปริศนา โดยที่ก่อนหน้านั้นเพิ่งถูกลอบยิงมา ล่าสุด ภรรยา ของเสี่ยต้น โดนรวบตัวแล้วในคดี จ้างวานฆ่า ทั้งที่ก่อนหน้านั้นออกมาปฏิเสธความเกี่ยวโยงคดีมากมาย มาติดตามกันว่าเคสนี้จะเป็นอย่างไร !?

 

            วันที่ 3 มิ.ย. 2567 หมวย เพื่อนของเสี่ยต้นและมด ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนเป็นลูกพี่น้องกับทางเสี่ยต้นที่ค่อนข้างจะสนิทกัน ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของเสี่ยต้น กับภรรยานั้น ก่อนที่เสี่ยต้นจะโดนยิง เขาแยกกันอยู่ก่อนแล้ว เมียเอาลูกไปอยู่ที่ จ.มหาสารคาม ส่วนตัวเมียเองนั้น ก็ไปอยู่ที่คอนโดน้องสาว โดยที่ปมเหตุนั้นตนคิดว่า น่าจะมาจากเรื่องที่เสี่ยต้นเอาผู้หญิงเข้าบ้าน

 

            และด้านมด เมียของเสี่ยต้น ยังบอกอีกว่าเสี่ยต้นค่อนข้างอารมณ์รุนแรง มีทำร้ายร่างกายด้วย แต่จากที่ตนได้ถามจากตัวเสี่ยต้น เจ้าตัวบอกว่า ไม่เคยทำร้ายร่างกาย มีเต็มที่ก็คือทุบโต๊ะตอนทะเลาะกัน ซึ่งเรื่องความรุนแรงนี้ ตนกล้ารับประกันเลยว่าเสี่ยต้นไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเมีย เพราะเขาไม่ใช่คนแบบนั้น ในอดีตเขาก็ไม่ใช่คนหาเรื่องใครก่อน 

 

            ขณะเดียวกัน ตนก็สนิทกับด้านมดเช่นเดียวกัน ซึ่งมันมีประเด็นที่เสี่ยต้น จะไปหามดที่ จ.มหาสารคาม แต่ฝั่งมดนั้น บอกว่า ต้องถามแม่ก่อนว่าอนุญาตให้ไปหาไหม ซึ่งตนก็สงสัยว่าทำไมต้องขออนุญาต จึงได้สอบถามกับมดว่ามีเรื่องอะไรกัน มดจึงได้เล่าให้ตนฟังว่า เคยทะเลาะกับเสี่ยต้นถึงเรื่องการหย่า ซึ่งเสี่ยต้นได้บอกว่า "ถ้ามึงหย่ากับกูไป มึงก็ไปหาผัวใหม่ เหมือนแม่มึง เหมือนน้องมึง" จึงทำให้ตนคิดว่า เป็นเรื่องนี้หรือเปล่าที่ฝังใจมดเพราะไปว่ากล่าวถึงบุพการีเขา 

 

            นอกจากนี้ หลังจากวันที่ต้นถูกยิงนั้น ตนได้คุยกับเจ้าตัวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้นบอกกับตนว่า วันนั้นเขากลับมาที่บ้านแล้ว แต่มดโทรมานัดให้เขาออกที๋โรงเหล้าแสงจันทร์ เพื่อนัดคุยเคลียร์กันเรื่องหย่า ก่อนจะถูกลอบยิง ซึ่งมันต่างจากที่มดเล่ากับรายการถกไม่เถียงเมื่อครั้งก่อน ที่เจ้าตัวบอกว่า ต้นเป็นคนนัดเขาออกไป และยังบอกอีกว่าเขาไม่เป็นห่วงอะไรแล้ว เพราะเขาได้ทำประกันชีวิตเอาไว้ 16 ล้านบาท ทว่าพอตนไปถามมด มดกลับบอกว่าเอาเงินไปใช้ในร้านหมดแล้ว ถ้าต้นตาย ก็คงตายฟรี ซึ่งพอตนได้ถามให้นายประกันที่รู้จักกันเขาเช็กให้ตนหน่อย เขาบอกกับตนว่า เงินประกันชีวิต 16 ล้านบาท ยังมีอยู่ ทำให้ตนเอะใจว่าทำไมมดต้องโกหก 

 

             ขณะเดียวกัน ต้นยังบอกกับตนอีกว่ารู้ว่าใครเป็นคนทำ เขาสงสัยว่าคนที่ทำจะต้องเป็นคนใกล้ตัว ที่เข้ามายั่วยุมด เพราะ มดไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนี้ และได้บอกชื่อกับตนมา แต่ตนไม่สามารถบอกได้ เพราะจะส่งผลต่อรูปคดี ทว่าตนได้ให้การกับตำรวจเรื่องนี้ไปแล้ว  อย่างไรก็ตาม เรื่องชันสูตรศพของต้น ยืนยันว่าเราไปโรงพยาบาล และยังบอกหมออยู่ว่า เราติดใจสาเหตุการตาย และยังแจ้งอีกด้วยว่า ต้นยังมีคดีที่ สน.วังทองหลาง จะสามารถเผาได้หรือ 

 

            ฟาก อำนวยพร มณีวรรณ์ (ทนายกุ้ง) ทีมทนายคลายทุกข์ กล่าวว่า สำหรับคดีในตอนนี้ ยังมีบุคคลที่น่าจะเกี่ยวข้องอีก นอกเหนือจากกลุ่มผู้ต้องหา 4 คน ที่ออกหมายจับ ซึ่งได้อยุ่ในกระบวนการของตำรวจหมดแล้ว และในตอนนี้ ทางตำรวจทั้ง 2 สถานี ทั้งที่สน.วังทองหลาง และที่จังหวัดมหาสารคาม เขากำลังสืบสวนอยู่ว่าทั้ง 2 เหตุการณ์นั้นเกี่ยวข้องกันไหม เพราะ ตอนนี้มดโดนคดี วางแผนฆ่า จะมีโทษจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากฆ่าไม่สำเร็จ แต่ถ้าหากพิสูจน์ทราบได้ว่า ทั้ง 2 คดี เกี่ยวโยงกัน จนเสี่ยต้นไปเสียชีวิตที่ จ.มหาสารคาม จะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มได้ไปถึงขั้นโทษประหารชีวิต 

 

            ส่วนเรื่องเงินประกันนั้น หลวงพ่อ(พ่อของเสี่ยต้น) บอกกับตนว่า วันที่ไปงานศพมดเป็นคนเสนอจะแบ่งเงินประกันให้ ถ้าเกิดไม่พิสูจน์ศพ เพราะถ้าพิสูจน์ศพ เราอาจจะไม่ได้เงินประกัน อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดเหตุการตายไม่ทราบสาเหตุ แพทย์นิติวิทยาศาสตร์กับตำรวจ ต้องรีบผ่าพิสูจน์ตามกฎหมาย ซึ่งเคสนี้ จะมีคนมีความผิดที่ไม่ได้ผ่าพิสูจน์ศพหรือไม่ ก็ต้องมาตรวจสอบกัน 

 

            ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เผยว่า จริง ๆ แล้วเคสนี้มันจะง่ายมากเลยถ้าจะพิสูจน์ศพของเสี่ยต้นว่าโดนวางยาพิษไหม ทว่า เคสนี้กลับไม่มีการผ่าชันสูตรศพ และไม่ได้ส่งตรวจใด ๆ แถมยังฌาปนกิจไปแล้ว  ดังนั้นต้องหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ตามที่เกิดเหตุต่าง ๆ ซึ่ง เขาก็ดันเอาของไปเผาทิ้งหมดแล้วอีก เพราะเขาเชื่อว่าเป็นการตายโหง จึงได้เผาตามความเชื่อ ทำให้ยากขึ้นไปอีกในการสืบสวน

 

            ส่วนภาพศพของเสี่ยต้นนั้น ที่มีการคล้ำดำ ก็พิสูจน์ได้ยาก จะหาผู้เชี่ยวชาญไปรับรองว่าโดนยาพิษยังยากเลย แต่สำหรับตนนั้น ตนมองว่าไม่ปกติ ถ้าเกิดภาพไม่ได้มีการใส่ฟิลเตอร์ หรือโลงเย็นปกติดี เคสนี้ มีการเน่าผิดปกติ ทว่ามันก็มีหลายปัจจัยอีก อาจจะเป็นสารพิษหรืออะไรก็ได้ ไม่สามารถพิสูจน์ได้อีก 

 

            ด้าน ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า คดีนี้มันแปลกเพราะญาติ ๆ ติดใจสาเหตุการตาย แต่ภรรยาที่ใกล้ชิดที่สุดกลับไม่ติดใจ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเพิ่งจะถูกลอบยิงมา มันจึงดูผิดวิสัยของภรรยาอยู่  ทั้งนี้เคสที่มีการจ้างวานฆ่าสามีนั้นมีเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นด้วยสาเหตุการนอกใจ การทำร่างกาย ซึ่งเคสนี้ก็เข้าข่าย และก็มีความเป็นไปได้ที่เสี่ยต้นเขาจะทำร้ายร่างกายจริง เพราะ ภรรยาเขาก็คงไม่ได้เอาไปบอกใคร เนื่องจากรักษาภาพลักษณ์ครอบครัว