ข่าวเย็นประเด็นร้อน - 2 ผัวเมียวัยรุ่น แอบนำศพลูกน้อยวัย 2 เดือน ไปฝั่งอำพรางคดีในป่าข้างทาง โดยอ้างว่าลูกเสียชีวิตเอง ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ไม่อยากให้แม่รู้ กลัวแม่จะช็อค จึงรีบเอาศพไปฝัง เรื่องนี่นี้ถูกเปิดเผยเพราะ เพื่อนสนิทสงสัยว่าลูกของเพื่อนหายไปไหน ไปหาทีไรก็ไม่เห็น จึงเค้นถามอย่างหนัก สุดท้ายจึงยอมรับสารภาพว่าเอาลูกไปฝัง พร้อมพาไปขุดศพ คดีนี้มีพิรุธหลายอย่าง ในการเสียชีวิตของเด็ก
เมื่อเวลา 03.00 น. ของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบศพเด็กทารก ถูกฝังดินอยู่ภายในป่า บริเวณเชิงเขากบ เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบศพเด็กทารกที่คาดว่า น่าจะมีอายุไม่เกิน 2 เดือน ถูกนำมาฝังไว้ที่บริเวณเชิงเขา ใกล้กันถนนทางขึ้นวัดเขากบ สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย ผิวหนังที่ศรีษะแห้งติดกะโหลก และมีแพมเพิสเด็กติดอยู่ที่ศพ 1 ชิ้น แต่จากการตรวจสอบศพในเบื้องต้น ไม่พบว่ามีบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด และศพเด็กน่าจะเสียชีวิตมาเกิน 1 สัปดาห์แล้ว
ทางด้านพลเมืองดีที่พบศพ และเป็นผู้แจ้งตำรวจ เปิดเผยว่า ตนป็นเพื่อนของพ่อเด็ก ที่เห็นผิดสังเกต เพราะเวลาไปเยี่ยมหาที่บ้านในช่วงหลัง ไม่พบเห็นเด็กมาหลายวัน จึงเกิดความสงสัย ก่อนจะเค้นถามพ่อแม่เด็ก กระทั่งพ่อแม่ คือ นายนิพนธ์ อายุ 25 ปี และ นางสาวเฟย อายุ 19 ปี ยอมรับสารภาพว่า ลูกได้เสียชีวิตจากอาการป่วยปอดติดเชื้อ จึงนำไปฝังดิน เนื่องจากจึงตกใจ ทำอะไรไม่ถูก จากนั้นได้พาตนไปดูจุดที่นำศพไปฝัง ตนจึงได้โทรแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบทันที โดยมีการนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิปบันทึกภาพคำให้การรับสารภาพไว้ทั้งหมด เพื่อให้ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้ายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ยังคงสอบปากคำนายนิพนธ์ นางสาวเฟย ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งก็ใช้เวลาในการสอบอยู่นานหลายชั่วโมง จนกระทั่ง นายนิพนธ์ ยอมเปิดปากให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมมือกับภรรยา คือ นางสาวเฟย นำศพลูกน้อย เพศชายวัย 2 เดือน ไปขุดดินแล้วฝังทิ้งเอาไว้ เป็นระยะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว จนกระทั่ง เรื่องแดงขึ้นมา เพราะมีกลุ่มเพื่อนที่มาหาที่บ้านเค้นถามอย่างหนัก จึงยอมรับสารภาพ แต่ขอปฏิเสธว่าไม่มีการทำร้ายลูกจนเสียชีวิตแต่อย่างใด เนื่องจากลูกป่วยหนัก และเสียชีวิตเอง
โดยมีการนำหลักฐานสมุดบันทึกจากโรงพยาบาลแม่และเด็ก มาให้ตำรวจตรวจสอบ ส่วนอุปกรณ์ที่นำไปขุดดินเพื่อฝังร่างลูกนั้น นายนิพนธ์ ระบุว่า ใช้เพียงแค่มีดกับไม้ในการขุดดิน ให้หลุมมีความลึกประมาณ 50 เซนติเมตรเพียงเท่านั้น โดยยืนยันว่า ลูกคนนี้เป็นลูกคนแรก ของตนและภรรยา และที่ผ่านมา ลูกชายคนนี้ ก็มีอาการป่วยมาตั้งแต่หลังคลอดแล้ว ซึ่งก็พาไปตรวจรักษาอยู่ตลอด จนกระทั่งล่าสุด หมอบอกว่า ลูกติดเชื้อที่ปอด ให้ทำใจ และก็พาลูกกลับมารักษาอยู่ที่บ้าน จนถึงวันเกิดเหตุจู่ ๆ ลูกก็หยุดหายใจไปเอง ตนและภรรยาตอนนั้น ก็รู้สึกตกใจ แบบช็อกไปเลย มันทำอะไรไม่ถูก และอีกอย่าง ตนไม่ต้องการให้แม่ของตนรู้ไปอีกคนด้วย เพราะกลัวเขาจะช็อกไปตามตาม ๆ กัน เนื่องจากเขาก็รักหลานคนนี้มา
ตนยืนยัน ผมไม่เคยทำร้ายลูกเลยนะ อย่างมากก็เล่นกับลูกแบบอุ้มโยนลงที่นอน แต่ไม่บ่อยมาก ตอนลูกหยุดหายใจตนกับเมียตกใจมาก คิดอะไรไม่ออก จึงตัดสินใจกับเมีย เอาลูกห่อผ้าอ้อมแล้วอุ้มพากันขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ ขี่จากหมู่บ้านที่พักอาศัย จากเอื้ออาทร 2 ไปที่เชิงเขากบ เป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เพื่อนำลูกไปขุดหลุมฝังเอาไว้ ก่อนกลับมาแล้วทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเมื่อมีใครถามว่าลูกไปไหน ผมก็บอกว่า นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล แม้แต่เวลาไปหาเพื่อน แล้วเจอเพื่อนถาม ก็บอกว่าลูกอยู่ที่บ้านกับแม่ จนสุดท้าย ก็มาเจอเพื่อนเอะใจจนถูกเค้นถามอย่างหนัก จึงได้เล่าความจริงทั้งหมด และพาเพื่อนไปดูยังจุดฝังศพ
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัว นายนิพนธ์ และ นางสาวเฟย ไปตรวจยึดของกลางที่ที่ทั้งคู่อ้างว่า ใช้เป็นอุปกรณ์ในการขุดดิน นำมาตรวจสอบ พร้อมกับเก็บหลักฐานเพิ่มเติมภายในบ้านพัก ซึ่งก็ยังต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมในอีกหลาย ตอนนี้ต้องรอผลการชันสูจน์ตรวจสอบสภาพศพเด็กทางรกจากโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เป็นระยะเวลาประมาณ 15 วัน ว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไรกันแน่ เบื้องต้น ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับ นายนิพนธ์ และ นางสาวเฟย ในข้อหาฐานฝัง ซ่อน ย้าย หรือทำลายศพ โดยมีเจตนาแอบแฝง ปิดบังการเกิดการตาย และเดี๋ยวจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาที่ชัดเจนอีกครั้ง
เรื่องนี้มีพิรุธทุกอย่าง ตอนแรกที่บอกว่าลูกป่วยพาไปหาหมอ หมอบอกปอดติดเชื้อ ทำไมตอนนั้นถึงพาไปหาหมอได้ แต่ตอนนี้บอกว่าหยุดหัวใจหยุดเต้นกลับไม่รีบพาไปหาหมอ ด้วยความเป็นพ่อแม่ถ้าลูกหายใจเราต้องรีบช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่นี้กลับรีบนำศพลูกไปฝังซึ่งเป็นระยะทางไกลถึง 8 กิโล เดี๋ยวต้องรอผลชันสูตรศพสาเหตุการตายอีกครั้ง
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม