ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เจ้าหน้าที่เตรียมบินลัดฟ้า ประสานขอตัว แป้ง นาโหนด วันพรุ่งนี้ ก่อนรับตัวกลับไทยวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน หลังจนมุมเพราะรักสะดุด
เปิดวงจรปิด แป้ง นาโหนด จนมุมเพราะทำร้ายผู้หญิง
ถือเป็นผู้ต้องโทษรายสำคัญ ที่ทำตำรวจไทยหัวหมุนมานานหลายเดือน สำหรับ นายเชาวลิต หรือ แป้ง นาโหนด ที่ถูกจับกุมในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวานนี้
เป็นภาพเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในเมืองเมดาน ประเทศอินโดนีเซีย จะเห็นหญิงสาวคนสนิทของ เสี่ยแป้ง วิ่งหนีเข้าห้องพัก ไม่นาน เสี่ยแป้ง วิ่งกุลีกุจอ รีบสวมเสื้อผ้าตามมา หลังมีปากเสียง และลงมือทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิง พลเมืองดีได้ยินเสียง จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ก่อนจะสืบสวนนำไปสู่การจับกุม
ส่งตัว แป้ง นาโหนด กลับไทย 2 มิถุนายน
ล่าสุด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จากการประสานทางตำรวจอินโดนีเซีย ทราบว่า ทางการไทยสามารถรับตัว แป้ง นาโหนด กลับไทยได้ในวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนนี้ เนื่องจาก ทางอินโดนีเซีย จะต้องคุมตัวผู้ต้องหารายนี้จากบาหลี มาที่จาการ์ตา ก่อนเข้าขั้นตอนทางธุรการ เบื้องต้นตนเองจะเดินทางไปยังอินโดนีเซีย ในวันพรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) ขอย้ำว่าคดีนี้มีแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ทางการอินโดนีเซีย เร่งจับกุม มาจากเรื่องเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ
เมื่อรับตัวกลับไทยแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวน และฝากขัง ส่วนจะใช้พนักงานสอบสวนของพื้นที่พัทลุง หรือนครศรีธรรมราช จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากถ้าเป็นเรื่องสำคัญ ก็ต้องโอนเข้ามายังส่วนกลาง หรือให้เป็นคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ขณะที่สถานที่ควบคุมตัวเป็นดุลยพินิจของกรมราชทัณฑ์ แต่ถ้าเป็นไปได้ คงไม่นำตัวไปคุมขังที่เรือนจำนครศรีธรรมราช เพราะอาจกลายเป็นประเด็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่มีการปล่อยให้ แป้ง นาโหนด หลบหนีออกไปรอบ 2 แน่นอน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อดีตเป็นบทเรียน ฉะนั้นเราจะไม่ให้บทเรียนซ้ำสอง ส่วนการส่งตัว ตำรวจอินโดนีเซีย จะควบคุมตัวมาส่งที่ไทย พร้อมตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ แป้ง นาโหนด หรือยัง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เมื่อวานมีการพูดคุยเล็กน้อย เจ้าตัวพูดเพียงว่า ยอมแล้วครับนาย และมีการพูด 2-3 ประโยค แต่ตนเองไม่สามารถพูดได้ เพราะอาจไปพาดพิงใคร และขอยืนยันว่า แป้ง นาโหนด ถูกจับกุม ไม่ได้ยอมมอบตัว ทั้งที่ระวังตัวมาตลอด ถือเป็นสัจธรรม
ด้าน อธิบดีกรามราชทัณฑ์ ระบุว่า จะใช้สถานที่ใดในการควบคุมตัว แป้ง นาโหนด อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่จะไม่ใช่ที่เดิมแน่นอน และอาจต้องลดประโยชน์ จำกัดอิสรภาพมากขึ้น เช่น จำกัดการเข้าเยี่ยม หรือแยกควบคุมเฉพาะ เป็นต้น
รอง ผบ.ตร.คาด 3 วัน ชัดเจน รับตัว เสี่ยแป้ง
ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงขั้นตอนการนำตัวกลับมาว่า จะมีการนำตัวนักโทษชายมาทำการซักถามเบื้องต้นที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อน จากนั้นให้พนักงานสอบสวนจังหวัดนครศรีธรรมราช มาควบคุมตัวฐานหลบหนีการจับกุมฯ และตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จะมีการอายัดตัวในอีกหลายข้อหา เช่น หลบหนีการจับกุมฯ, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ และมีอาวุธปืนในครอบครอง
เตรียมพร้อมรับตัว เสี่ยแป้ง จ.นครศรีธรรมราช
ด้าน พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ยืนยันว่า สั่งการให้พนักงานสืบสวนสอบสวนเตรียมพร้อม หากส่งตัวกลับมาแล้ว การควบคุมตัว เสี่ยแป้ง ในครั้งนี้ คงไม่ให้พลาดอีก และตั้งใจอย่างเต็มที่
ทนายชัช ยันช่วย เสี่ยแป้ง สู้คดี จ.สงขลา
ทางด้านว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงค์ หรือ ทนายชัช ทนายกลุ่มทนายใจดี ในฐานะที่ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวเคยยื่นมือช่วยเรื่องคดีเกี่ยวกับครอบครัวของ เสี่ยแป้ง นาโหนด หลังมีการถูกตั้งข้อหา และมีการค้นบ้านเมื่อช่วงปีที่แล้ว
โดย ทนายชัช เปิดเผยว่า ทางญาติของเสี่ยแป้งได้โทรศัพท์มาหา ซึ่งถ้าอยากให้ตนช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย ก็ยินดี
ส่วนเรื่องความปลอดภัยเท่าที่ฟังรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ท่านก็ให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่า รับรองความปลอดภัยและยังให้สัมภาษณ์อีกว่าการจับกุมครั้งนี้ เสี่ยแป้งไม่มีการต่อสู้ ขัดขืนหรือใช้ความรุนแรง
ด.ต.หญิง สมุนค้ายา เสี่ยแป้ง ถูกแฉนั่งหน้าห้องบิ๊ก ตร. จ.สงขลา
และหากจำกันได้ ก่อนหน้านี้มีคดีอุ้มเรียกค่าไถ่ชาวอินโดนีเซีย 3 คน จนกระทั่งตำรวจตามจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมดเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม โดยคดีนั้นมีผู้ต้องหาอย่างน้อย 2 คน เกี่ยวข้องกับ เสี่ยแป้ง หนึ่งในนั้นคือ ด.ต.หญิงเพลินพิศ (สงวนนามสกุล) สังกัดตำรวจภูธรภาค 9
จากนั้นมีการสอบปากคำ ด.ต.หญิงเพลินพิศ ในเรือนจำ จนยอมบอกที่หลบซ่อนของ เสี่ยแป้ง ว่าอยู่ในอินโดนีเซีย โดยมีกระแสข่าว ด.ต.หญิงรายนี้ เป็นหน้าห้องของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ค่อยแจ้งข่าวให้เสี่ยแป้ง อยู่ตลอด ทำให้รอดการจับกุมทุกครั้ง แต่ประเด็นนี้ ยังไม่มีคำชี้แจงมาจากหน่วยงานตำรวจที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35