ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อลม่านกลางดึก เมื่อมีสาวท้อง 5 เดือนสร้างเรื่องว่าถูกจับตัว ห้ามแจ้งตำรวจ
เมื่อคืนนี้เวลา 01.00 น. หน่วยกู้ภัยพร้อมญาติ ช่วยกันตามหาสาวตั้งครรภ์ 5 เดือน จนไปพบตัวที่กลางป่ากระถิน สภาพถูกมัดมือมัดเท้า เอาผ้าปิดปากไว้กับต้นไม้ เธออ้างว่าถูกคนร้าย 2 ใช้มีดจี้ขึ้นรถกระบะ บังคับให้โอนเงิน 80,000 บาท หลังจากนั้นเอาถุงดำคลุมหัว แล้วนำมามัดมือปล่อยทิ้งกลางป่า ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาทั้งคืน
คลิปนี้ทางครอบครัวของหญิงสาวบันทึกเอาไว้ ขณะที่ครอบครัวพร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งบางเสาธง นำกำลังเดินเท้าบุกลุยเข้าไปในป่ากระถินรกทึบที่ด้านหลังตึกสูงใกล้สี่แยกการเคหะเมืองใหม่บางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือ หญิงสาวโรงงานชาวพิษณุโลก อายุ 32 ปี พอไปเจอตัวเธอ เธอเล่าให้ฟังว่าถูกคนร้ายชาย 2 คน ใช้มีดจี้บังคับเธอให้ขึ้นรถกระบะก่อนจะใช้ถุงดำคลุมหัวแล้วพาเธอมาปล่อยทิ้งไว้กลางป่า โดยจับเธอมัดมือไพล่หลังไว้กับต้นกระถินกลางป่ารกทึบ
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงรีบพาเธอซึ่งมีอาการหนาวสั่นจากการตากฝน และอยู่ในอาการหวาดกลัว ขึ้นรถกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจเช็ดร่างกาย จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บางเสาธง เข้าตรวจสอบและสอบปากคำต่อ
ด้านหญิงสาวผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองพักอาศัยอยู่ในชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี ตอนเกิดเหตุเป็นเวลา 20.00 น. ตนออกมาถ่ายเอกสาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก หลังจากที่ถ่ายเอกสารเสร็จกำลังจะกลับห้องพัก ปรากฏว่ามีชายคนร้าย 2 คน สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า เดินประกบจากด้านหลัง โดยใช้มีจี้บังคับเธอให้ขึ้นรถกระบะของคนร้าย ก่อนจะถูกใช้ถุงดำคลุมหัว กระทั่งคนร้ายพาเธอนั่งมาในรถแล้วนำมาในป่าจุดดังกล่าว และบังคับเอาเงินในบัญชีจำนวน 80,000 บาทไป ซึ่งคนร้ายยังเอาบัตรเอทีเอ็มและซิมการ์ดของเธอไปอีกด้วย ตนเองยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับคนร้าย 2 คนนี้มาก่อน
ส่วนทางด้านสามีของหญิงรายนี้ บอกกับทีมข่าวว่า ภรรยาตนเองกำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน ได้ส่งข้อความบอกจะออกมาถ่ายเอกสาร ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งเงียบหายไปนาน และด้วยความเป็นห่วงภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ เห็นว่าออกไปนาน จึงส่งแช็ตหา แต่กลับพบข้อความตอบกลับว่า ถ้ามึงอยากให้ลูกเมียปลอดภัยก็อย่าแจ้งตำรวจ ซึ่งฝ่ายสามีพอได้รับข้อความนี้ก็ถึงกับตกใจว่าเปิดอะไรขึ้นกับภรรยาของตนเอง จึงตั้งสติแล้วส่งข้อความกลับไปหาภรรยาใหม่ ซึ่งในขนาดนั้นยังคิดว่าภรรยาหยอกเล่น และพยายามโทรกลับแต่ไม่รับสาย กระทั่งมีการส่งรูปภาพกลับมาว่าตัวภรรยาอยู่ในป่า จึงรีบแจ้งพี่สาวและเพื่อน ๆ ช่วยกันออกตามหากว่า 3 ชั่วโมง จนไปพบถูกมัดอยู่ในป่าจริง
ด้านรุ่นพี่ของหญิงสาวรายนี้ ซึ่งเป็นผู้ช่วยออกตามหาและเข้าพบตัวตอนแรก เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า หลังจากที่คนร้ายส่งภาพดังกล่าวมาทางข้อความ ตนเองก็ออกตามหาตามป่ากระถินจนมายังจุดดังกล่าว จึงแจ้งให้กู้ภัยช่วยตามหา จนไปพบ ซึ่งสภาพที่พบในตอนแรกคือเธอถูกมัดมือไขว้หลังตามคลิปที่ถ่ายไว้ นอกจากนั้นยังพบว่ากระเป๋าของเธอถูกรื้อและเทเอกสารภายในกระเป๋าออกจนกระจัดกระจาย จึงช่วยกันแก้มัดมือก่อนจะพาส่งโรงพยาบาล
ส่วน นายธีรพล เจวรัมย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งที่เข้าไปช่วย บอกว่า ป่าดังกล่าวอยู่หลังตึกล้างซึ่งห่างจากถนนหลักไม่กี่สิบเมตร โดยปกติแล้วจะไม่มีใครเข้าไปในป่าดังกล่าว ส่วนสภาพที่เจอหญิงคนดังกล่าวนั้นพบว่าถูกมัดมือไขว้หลังจริง ซึ่งต้องมีคนจับมัด ถึงอยู่ในสภาพนั้นได้
ต่อมาทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางเสาธง ร่วมกับพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำสาวท้อง 5 เดือนรายนี้ พบพิรุธหลายอย่าง ในการให้ปากคำ และจากการตรวจสอบโทรศัพท์ของสาวรายนี้ พบข้อมูลการโอนเงินให้บุคคลอื่นหลายครั้ง รวมถึงเอกสารและหลักฐานการกู้เงินนอกระบบ จึงสอบถามทางเจ้าตัวว่าไปเป็นนี้นอกระบบกี่ราย เธอจึงยอมรับว่าเธอติดการพนันออนไลน์ แต่เลิกเล่นไปนานแล้ว และเคยกู้เงินกู้นอกระบบมาเล่นการพนัน แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
แต่สิ่งที่เธอพูดตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะพบพิรุธหลายอย่าง จึงสอบปากคำเพิ่มนานกว่า 3 ชั่วโมง สุดท้ายเธอยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเธอเป็นคนสร้างเรื่องขึ้นมาเอง โดยร่วมมือกับทางเจ้าหนี้นอกระบบที่จังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่เธอเคยกู้เงินมาราว 70,000 บาท เธอได้แอบนำเงินเก็บของสามีไปใช้หนี้ ด้วยความที่กลัวจะถูกสามีต่อว่าจึงวางแผนร่วมกับเจ้าหนี้ ทำทีว่าถูกจี้บังคับเอาเงินจำนวน 80,000 บาทไป ซึ่งเจ้าหนี้ก็ให้ความร่วมมือและนัดหมายส่งคนมายังพื้นที่ จนกระทั่งถึงเวลานัด มีชาย 2 คนมาจี้เธอขึ้นรถและใช้ถุงดำคลุมหัว ก่อนจะพาเธอไปมัดปล่อยไว้ที่ต้นไม้กลางป่า จากนั้นส่งข้อความแช็ตบอกสามีดังกล่าวจนกระทั่งเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้นฝ่ายสามีขอไม่ให้ทางด้านตำรวจเอาความหรือเอาผิดกับภรรยา เพราะสงสารและขอให้เห็นแก่เด็กในครรภ์ ตำรวจจึงทำประวัติและว่ากล่าวตักเตือนพร้อมทั้งให้ข้อคิดต่อหญิงคนดังกล่าวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งผลพวงมาจากการหลงผิดไปเล่นการพนัน
ล่าสุดความคืบหน้าในเรื่องนี้ ด้าน พ.ต.อ. โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง ร่วมกันเชิญตัวสองสามีภรรยาคู่นี้มาสอบปากคำ เพื่อสอบถามเรื่องจริงที่เกิดขึ้น โดยทางด้านหญิงสาววัย 32 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ทั้งสามี ตำรวจ และนักข่าว รวมถึงสังคม พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่กลับไปเล่นการพนันอีกโดยเด็ดขาด
สาวหลงผิดคนนี้เปิดใจยอมรับว่าเธอคิดวางแผนสร้างเรื่องขึ้นมาจริง ที่ทำลงไปนั้นเพราะกลัวว่าสามีจะเลิกราและทิ้งตนเอง จึงหาอุบายมาสร้างเรื่องเพื่อให้สามีสงสารและไม่ติดใจเรื่องเงินที่หายไป
ด้าน พ.ต.อ. โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำอย่างละเอียด และให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตามคำให้การของหญิงคนดังกล่าว ซึ่งให้การยอมรับว่าสร้างเรื่องขึ้นมาจริง ส่วนที่อ้างว่าร่วมมือกับแก๊งเงินกู้นอกระบบนั้น ไม่เป็นความจริง ประเด็นเรื่องเงินกู้นอกระบบนั้น พบว่าเคยมีการกู้จริง และทางด้านพี่สาวได้ใช้หนี้แทนไปจนหมดแล้ว
ส่วนเงินเก็บสามีแปดหมื่นนั้นก็เอาไปเล่นการพนันออนไลน์ จากการสอบปากคำแล้ว ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ตัวผู้แจ้งนั่งแท็กซี่มาเพียงคนเดียว และก็คิดเอง ลงมือทำเองคนเดียว เบื้องต้นในส่วนของการกระทำความผิดก็ถือว่าการไปแจ้งเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยไม่มีคดีอาญาเกิดขึ้นจริง ถือว่าเป็นการแจ้งความเท็จ ถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย รวมไปถึงการเล่นสล็อตพนันออนไลน์ ก็มีความผิด อยากฝากเตือนประชาชนที่กำลังหลงผิดมัวเมาเล่นพนันออนไลน์ มันเล่นง่าย เสียหายง่าย ถูกเขาหลอก ก็จะเกิดปัญหาครอบครัวเช่นคดีนี้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35