เช้านี้ที่หมอชิต - หนุ่มลูกครึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์มาจากพัทยา พาแม่ร้องมูลนิธิรณรงค์ฯ หลังน้องชายชั้น ม.5 หายตัวลึกลับไปกว่าครึ่งเดือน ซึ่งเป็นการหายไปกับแม่ของอดีตแฟนสาว พร้อมเงินอีกเกือบ 1 ล้านบาท
นี่ก็คือ นายดีแลนด์ ลูกครึ่งไทย-ไอซ์แลนด์ พาคุณแม่มาที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ให้ช่วยเหลือติดตามตัว น้องเจสซี่ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นน้องชาย กลับมาสู่ครอบครัว หลังหายตัวไปนานกว่าครึ่งเดือน โดยไม่ทราบชะตากรรม อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องบอกว่ามีความซับซ้อน จึงต้องอธิบายด้วยแผนภาพความสัมพันธ์ตามนี้
เรื่องของเรื่องก็คือ น้องเจสซี่ อายุ 17 ปี เดิมเป็นแฟนกับนางสาวพิมพ์ อายุ 16 ปี ระหว่างนั้นทางครอบครัวของนางสาวพิมพ์ ได้อาศัยปากลูกสาวขอยืมเงินจากน้องเจสซี่ครั้งละหลายแสน ต่อมาเมื่อเงินเริ่มหมด จึงขอเลิก สร้างความเสียใจให้น้องเจสซี่มาก
แต่ประเด็นก็คือ หลังจากนั้น แม่ของนางสาวพิมพ์ อายุ 33 ปี ได้อาสาเข้ามาทำหน้าที่ดามหัวใจแทนลูกสาวและทำสำเร็จ ก่อนที่จะหายตัวไปทั้งคู่ พร้อมกับเงินอีกหลายแสน รวมทั้งหมดที่ครอบครัวนี้หลอกเอาเงินไปจากน้องเจสซี่คือ กว่า 890,000 บาท ถามว่าเงินก้อนนี้มาจากไหน เป็นเงินที่คุณพ่อของน้องเจสซี่ ซึ่งเป็นชาวไอซ์แลนด์ สะสมไว้ต่อวีซาเกษียณเพื่ออยู่ไทย ซึ่งจะเป็นเงินเข้ามาจากต่างประเทศทุกสิ้นเดือน เดือนละ 25,000 บาท สาเหตุที่พ่อของน้องเจสซี่ให้บัตร ATM ไว้กับลูก เพราะสายตาแม่ไม่ดี เห็นตัวเลขซ้อนกันเวลามอง จึงวางใจให้ลูกเป็นผู้ถือบัตร และจัดการธุรกรรมแทน แต่กลายเป็นว่าเมื่อน้องเจสซี่เลิกกับนางสาวพิมพ์แล้ว ไปคบหา รวมถึงมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแม่ของนางสาวพิมพ์ ก็ได้ถอนเงินก้อนนี้ออกไปทั้งหมด แล้วหายตัวไป ทำให้เงินเกลี้ยงบัญชีจนพ่อแทบไม่มีเงินต่อวีซา
แต่ยังมีปัญหาที่ซ้อนเข้ามาอีก คือเมื่อพ่อของนางสาวพิมพ์ รู้ว่าน้องเจสซี่ มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาตัวเอง ก็ได้โทรมาข่มขู่ครอบครัวตนว่าจะฟ้องเจสซี่ ฐานเป็นชู้กับเมียเขา และเรียกค่าเสียหาย เป็นจำนวนเงินกว่า 2 ล้านบาท
คุณแม่บอกว่าพอได้ฟังแบบนี้ก็กลัวจะถูกยึดบ้าน และกลัวลูกชายที่หายตัวไปจะเป็นอันตราย จึงได้ไปแจ้งความพรากผู้เยาว์ไว้ที่ สภ.หนองปรือ แต่ร้อยเวรเจ้าของคดีกลับบอกว่า เด็กมีหัวสมอง มีมือมีเท้าไปกับเขาเอง ไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดี ทำได้แค่เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น จึงต้องมาเรียกร้องความเป็นธรรมและตามหาลูกชาย เนื่องจากครอบครัวเป็นห่วงมาก มากกว่าเรื่องเงิน และพร้อมจะให้อภัยต่อเรื่องที่เกิดขึ้น อยากให้กลับมาหาครอบครัว
ส่วนทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางมูลนิธิจะติดต่อประสานและพาผู้เสียหายเข้าไปสอบถามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.หนองปรือ การที่ทางฝ่ายครอบครัวของนางสาวพิมพ์ เด็กหญิงอายุ 16 ปี พูดจาข่มขู่ จะแจ้งข้อหาเป็นชู้กับภรรยา ต้องว่ากันด้วยพยานหลักฐาน มันทำไม่ได้ เพราะเด็กชายอายุแค่ 17 ปี ถือว่ายังเป็นเยาวชน มีกฎหมายคุ้มครอง มีแต่อีกฝ่ายจะเป็นผู้แจ้งความกลับในข้อหาพรากผู้เยาว์เสียมากกว่า ซึ่งอัตราโทษค่อนข้างสูง ทางมูลนิธิจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับครอบครัวนี้อย่างแน่นอน
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม