ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มเศร้าถูกแฟนลักทอง 57 บาท แม้ตำรวจจับผู้ต้องหาได้ แต่ไม่พบของกลาง ตอนนี้ไม่รู้คดีไปถึงไหน พอถามเจ้าหน้าที่ กลับได้รับคำตอบว่า “ผู้ต้องหาไม่พูด ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ ให้ไปถามที่ศาลเอง”
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังซอยชวนชื่น ย่านประชาชื่น พบนายอนุพงศ์ สังขศิริ ผู้เสียหาย เล่าว่า เป็นพนักงานบริษัทเอกชน และครอบครัวทำธุรกิจขนส่ง มีรายได้ก็จะซื้อทองเก็บไว้ โดยซื้อเก็บไว้ทั้งหมด 57 บาท แบ่งเก็บในตู้ลิ้นชักห้องนอน 27 บาท ส่วนทองอีก 30 บาท เป็นทองคำแท่ง ฝากไว้ที่ร้านทองชื่อดังย่านเยาวราช
กระทั่งเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา พาแฟนสาวที่คบกันมา 6 ปี เข้ามาในบ้าน โดยแฟนเป็นคนขยันทำงานบ้าน จึงเข้ากันดีกับคนในครอบครัว กระทั่งวันที่ 2 พฤษภาคม มีความจำเป็นต้องใช้เงิน จึงหวังจะนำทอง 27 บาทไปจำนำ แต่พอถึงโรงรับจำนำ แจ้งว่า ทองทั้งหมดเป็นของปลอม ด้วยความสงสัยจึงปรึกษาสมาชิกครอบครัว จากนั้นนึกขึ้นได้ว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา แฟนสาวเคยให้คนโอนเงินเข้าบัญชีตน จำนวน 1,200,000 บาท อ้างว่า เป็นเงินของพี่สาวที่เลิกกับสามี แล้วแบ่งมรดกกัน พี่สาวเอารถแบ็กโฮที่ได้มาจากการแบ่งมรดกไปขาย ไม่อยากเอาเงินเข้าบัญชี กลัวสามีรู้ จึงขอโอนเงินมาเข้าบัญชี ตนเองหลงเชื่อโอนเงินให้ไป แต่พอดูสลิปคนที่โอนเงินเข้า พบเป็นชื่อร้านทอง
เมื่อถามว่าทำไมเป็นชื่อร้านทอง แฟนตอบว่า พี่สาวขายรถแล้วนำเงินไปซื้อทองก่อน จึงให้ร้านทองโอนเข้ามา กระทั่งแอบดูโทรศัพท์แฟน พบมีการพูดคุยร้านทองปลอมหลายแห่ง จึงถามตรง ๆ ว่าเอาทอง 27 บาทไปขายหรือไม่ แต่แฟนยังปฏิเสธ พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจไป สน.ประชาชื่น
จากนั้นมาทราบว่า ทองคำแท่ง 30 บาทที่ฝากไว้ ถูกขายแล้ว โดยร้านทองที่รับฝาก แจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน มีผู้หญิงที่เคยมาซื้อทองกับตนเองเป็นคนมาทำธุระขายทอง 30 บาทที่ฝากไว้
แต่วันนั้นเอกสารไม่ครบ จึงให้กลับมาใหม่ในวันรุ่งขึ้น (25 เม.ย.) ที่มีการปลอมลายเซ็นของตนเอง ทำเป็นหนังสือมอบอำนาจมาด้วย อ้างว่า ตนเองประสบอุบัติเหตุ นอนอยู่โรงพยาบาล ไม่สามารถมาขายเองได้ จึงมีการจ่ายเป็นเช็คเงินสดเข้าบัญชีตนเอง
พอกลับไปที่บ้าน พบว่าแฟนสาวเก็บของหนีไปแล้ว จึงโทรศัพท์ไปบอกให้พบกันที่โรงพัก วันที่ 16 พฤษภาคม เมื่อถึงวันนัดหมาย แฟนสาวมาจริง ปฏิเสธว่าไม่ได้เอาทองไป แต่ตำรวจมีหลักฐานวงจรปิดชัดเจน จึงคุมตัวแฟนสาวฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ฯ
สิ่งที่อยากรู้คือ ผู้ต้องหานำทองไปขายที่ร้านไหน เพราะมีเข็มขัดนาคอายุ 100 กว่าปี ที่ได้มาจากบรรพบุรุษ ถูกลักไปขายด้วย รวมถึงร้านทองมีส่วนผิดด้วยหรือไม่ ที่หละหลวมให้คนที่ไม่ใช่เจ้าของทองตัวจริง เอาทองไปง่ายดายแบบนี้ และตำรวจจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาหรือไม่ว่าได้เงินแล้วโอนให้ใครบ้าง คนที่ได้รับโอนมีส่วนผิดหรือไม่
ติดตามประเด็นนี้ในรายการ “ถกไม่เถียง” กับ ทิน โชคกมลกิจ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม