เปิดเคล็ดลับการออมเงินฉบับคนญี่ปุ่น Kakeibo(คะเคโบะ) มันคืออะไร ? แตกต่างจากการออมเงินด้วยวิธีอื่นยังไง แล้วมีวิธีเก็บเงินอย่างไรบ้าง
การออมเงินหรือเก็บเงิน เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรพึงกระทำ เพื่อการเก็บออมเงินไว้ใช้ ในยามจำเป็นและในอนาคตของตนเอง ซึ่งในแต่ละประเทศมีเทคนิควิธีและรูปแบบ ที่แตกต่างกัน โดยฝั่งประเทศญี่ปุ่นมีสูตรการออมเงินที่น่าสนใจ ชื่อว่า “Kakeibo”
Kakeibo(คะเคโบะ) คืออะไร?
Kakeibo (คะเคโบะ) มาจากภาษาญี่ปุ่นแปลว่า"บัญชีแยกประเภทการเงินในครัวเรือน" ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรก ในปี 1904 โดยฮานิ โมโตะโกะ นักหนังสือพิมพ์หญิงคนแรกของญี่ปุ่น ถือว่าเป็นการออมเงิน ต้นตำรับของชาวญี่ปุ่น ที่สืบทอดกันมากว่า 117 ปี เป็นวิธีการออมเงิน ที่ต้องมีการวางแผนในการออมเงินอย่างเคร่งครัด และเป็นการสร้างพฤติกรรมความมี ระเบียบวินัยในการเก็บเงินได้เป็นอย่างดี โดยใช้อุปกรณ์เพียงสมุดกับปากกาเท่านั้น
ปรัชญาของ "Kakeibo"
สิ่งสำคัญและกลายเป็นข้อแตกต่างจากการออมเงินด้วยวิธีอื่น คือ เราต้องตอบคำถาม แต่ละข้อก่อนซื้อของทุกครั้ง โดยแต่ละคำถามจะเน้นให้เราได้พูดคุยกับตัวเองทุกครั้ง ก่อนซื้อของสักชิ้นว่า เราซื้อสิ่งนี้เพราะจำเป็น หรือซื้อเพียงเพราะอยากได้กันแน่
วิธีเก็บเงินแบบ Kakeibo
ทุกต้นเดือนให้กำหนดงบประมาณที่คาดว่าจะใช้จ่ายในเดือนนั้น รวมถึงกำหนดเป้าหมาย การออมด้วย ขั้นตอนการเก็บเงินแบบ Kakeibo จะแบ่งการใช้จ่ายออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. การใช้จ่ายทั่วไป: สิ่งที่คุณขาดไม่ได้ เช่น ค่าเช่าหอพัก ค่าอินเทอร์เน็ต อาหาร และการเดินทาง
2. สิ่งของที่อยากได้: ของที่คุณชอบ แต่มันอาจไม่จำเป็น อย่างเสื้อผ้าชุดใหม่
3. การใช้จ่ายเกี่ยวกับกิจกรรม: การใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือการเข้าสังคม เช่น ไปคอนเสิร์ต ไปเที่ยวกับเพื่อน
4. การใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด: สิ่งที่ไม่ได้จ่ายเป็นประจำ เช่น ค่าซ่อมแซม ค่ารักษาพยาบาล หรือเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ
เมื่อแบ่งประเภทการใช้จ่ายตามนี้แล้ว ก็ให้จดบันทึกการใช้จ่ายเงินในแต่ละวัน และพอถึง สิ้นเดือนก็ให้ตรวจสอบดูว่าเราทำตามเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จหรือไม่ และประเมินดูว่า เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้บ้าง โดยถามตัวเองด้วยคำถามต่อไปนี้
- ฉันมีเงินเท่าไหร่
- ฉันต้องการประหยัดเงินเท่าไหร่
- ฉันใช้เงินไปเท่าไหร่
- ฉันจะปรับปรุงได้อย่างไร
7 วิธีการใช้จ่ายในแบบ Kakeibo ที่ต้อง ‘คิดให้ถี่ถ้วน’ ก่อนที่จะใช้จ่าย
1. ก่อนจะซื้อของ ต้องถามตัวเองทุกครั้งว่าเราอยู่ได้ไหม หากไม่มีของชิ้นนี้
2. เงินในบัญชีเพียงพอ และไม่อึดอัดที่จะจ่ายเงินเพื่อของชิ้นนี้ใช่หรือไม่
3. ซื้อไปแล้วได้ใช้จริงหรือไม่
4. ซื้อไปแล้วมีที่เก็บใช่หรือไม่
5. ไปเจอของชิ้นนี้ที่ไหน และอะไรทำให้เราอยากได้ของชิ้นนี้
6. สภาพอารมณ์ตอนเราจะซื้อของชิ้นนี้เป็นแบบไหน
7. หลังจากซื้อมาแล้วจะทำให้เราเป็นอย่างไร
6 เทคนิคยับยั้งชั่งใจในการซื้อของ
1. เลิกสนใจสินค้าที่ต้องการซื้อเป็นเวลา 1 วัน หากไม่ได้จำเป็น คุณจะลืมมันไปเอง
2. อย่าปล่อยให้สินค้าลดราคามาล่อตาล่อใจ
3. ตรวจสอบยอดในบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอ
4. ใช้จ่ายด้วยเงินสดให้มากขึ้น เพื่อจำกัดการใช้เงิน
5. พยายามตั้งค่า แจ้งเตือนการใช้เงิน เพื่อคอยเตือนสติ
6. เปลี่ยนสภาพแวดล้อม และหากิจกรรมอื่นๆ ทำ เพื่อไม่ให้เกิดการใช้จ่ายที่มากขึ้น
ประโยชน์ของ Kakeibo คืออะไร
การแบ่งประเภทค่าใช้จ่ายออกเป็น 4 ประเภทนี้ จะช่วยให้คุณมีความระมัดระวัง ในการใช้จ่ายมากขึ้น และมันยังทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการใช้จ่ายประเภทไหน ที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายการออมเงินของคุณ และนี่คือข้อดีของ Kakeibo ที่จะช่วยให้เราเก็บเงินได้มากขึ้น
- มีความเรียบง่าย: รูปแบบการจัดทำงบประมาณนี้จะทำให้คุณควบคุมและวางแผน การใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น เพราะแบ่งประเภทการใช้จ่ายออกเป็น 4 ประเภท ที่ง่ายต่อ การจัดการ
- สมจริง: ให้มุมมองที่สมจริงของการใช้จ่าย และสนับสนุนเป้าหมายการออมรายเดือน
- ไตร่ตรอง: เมื่อพิจารณาจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต การจัดทำงบประมาณนี้ จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมด้านการเงินของตัวเอง และเปิดโอกาสให้คุณได้ไตร่ตรอง ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของคุณ
- การให้กำลังใจ: วิธีแบบ Kakeibo เน้นให้คุณออมเงินจำนวนเล็กน้อยทุกวัน แทนที่จะเก็บเงินจำนวนมากเป็นครั้งคราว
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital