logo ถกไม่เถียง

โหดเกิน คุณน้า ! บุกยิง “หลานในไส้” ปม “ที่ดินมรดก” เกือบเดือนคดีไม่คืบ

ถกไม่เถียง : หลานสาวสอง ร้อง ถูกน้าชายบุกยิง กระสุนฝัง 39 นัด ปม ขัดแย้งเรื่องที่ดินมรดก หลังน้าชาย แอบไปแจ้งเป็นผู้จัดการมรดก พร้อมโอนที่ดินเป็น ถกไม่เถียง,ทิน โชคกมลกิจ,ch7hd,มรดก,มรดกเลือด,ที่ดินมรดก,น้ายิงหลาน,ยิง,แย่งที่ดิน,สวมรอย,ทายาท,แอบอ้าง,โหดเกิน,คุณน้า,บุกยิงหลานในไส้,แย่งมรดก,ญาติ,น้า,น้าชาย,มานิตย์ แก้วเพ็ชร,สายไหมต้องรอด

10,769 ครั้ง
|
27 พ.ค. 2567
หลานสาวสอง ร้อง ถูกน้าชายบุกยิง กระสุนฝัง 39 นัด ปม ขัดแย้งเรื่องที่ดินมรดก หลังน้าชาย แอบไปแจ้งเป็นผู้จัดการมรดก พร้อมโอนที่ดินเป็นของตัวเองทั้งหมด พอตนเองสืบทราบ กลับมาก่อเหตุ !
 
ถกไม่เถียง : โหดเกิน คุณน้า ! บุกยิง “หลานในไส้”
 
            วันที่ 27 พ.ค. 2567 มานิตย์ แก้วเพ็ชร (นิด) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนถูกน้าชาย ยิงบริเวณไหล่ข้างขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส จากปมสาเหตุเรื่องที่ดินมรดกที่น้าชายแอบไปทำเรื่องเป็นผู้จัดการมรดกให้ แล้วดันโอนชื่อที่ดินทั้งหมดเป็นชื่อของตัวเอง อีกทั้งยังเอาที่ดินที่ตนเองอยู่นั้นไปจำนอง พอตนไปสืบทราบเจอเข้าจึงได้เกิดการทำร้ายข่มขู่กันขึ้น 
 
            นายมานิตย์ เล่าเพิ่มว่า ที่ดินมรดกดังกล่าวเป็นของตาและยาย โดยยายมีลูกทั้งหมด 4 คน โดยที่แม่ของตนเป็นลูกคนที่ 2 ส่วนน้าคนที่ก่อเหตุเป็นลูกคนที่ 4 ส่วนลูกคนที่ 3 เป็นน้าผู้หญิง หลังจากที่ตาและยายเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้มีการจัดตั้งผู้จัดการมรดก ซึ่งน้าชายได้มีการแอบไปขึ้นศาลมาแล้ว 2 ครั้ง บอกศาลว่าเป็นลูกเพียงคนเดียว และยื่นเป็นผู้จัดการมรดก ศาลจึงแต่งตั้งโดยไม่มีคนมาคัดค้าน ขณะเดียวกัน น้าผู้หญิงก็ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเลยไม่ได้ไปขึ้นศาล อีกทั้งจดหมายศาลก็ยังมาไม่เคยถึงตนเลย เนื่องจาก มีคนเก็บจดหมายไปก่อน ซึ่งตนและน้า ๆ ทั้งหลายอาศัยอยู้ใกล้กัน
 
            หลังจากคำสั่งศาลออกมาให้น้าชายเป็นผู้จัดการมรดก เขาก็ได้ทำการโอนชื่อมรดกทั้งหมดเป็นของตัวเอง โดยเป็นที่ดิน 2 โฉนด 34 ไร่ และที่ดินที่ตนอยู่อาศัยมา เขาก็โอนเป็นชื่อของตัวเองด้วย ตนมาทราบเรื่องทั้งหมด เนื่องจากพฤติกรรมของน้าชายเขาเริ่มเปลี่ยนไป จากปกติที่เขาจะชอบมาโวยวายกัยน้าผู้หญิง แต่เขากลับไม่มาตามปกติเลย เดือน ก.พ. 2567 ตนจึงลองไปคัดคำสั่งศาล และคัดโฉนดที่ดินจึงได้รู้ความจริง 
 
            นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่ น้าชายเอาที่ดินที่ตนอยู่ 3 งาน 20 ตรว. เอาไปจำนอง ตนเสียใจมากเพราะเป็นที่ดินที่ตนอยู่มานาน บ้านตนก็อยู่ในนั้น จากนั้น 1 พ.ค. 2657 ตนไปคุยกับน้าชาย เขาก็โวยวายว่าตนจะไปทำให้เรื่องมันยืดเยื้อทำไม เดี๋ยวเขาจะแบ่งที่ดินให้ทุกคนอยู่แล้ว ตนจึงบอกว่าเขาว่า ถ้าตนตรวจเจอว่าโกง ก็จะแจ้งความ น้าชายจึงได้เอาปืนออกมายิงตน ตนโดนกระสุนฝังไป 39 นัด เอาออกได้เพียง 7 นัด หลังจากเกิดเรื่องทั้งหมดตนจึงได้ไปแจ้งความ และไถ่ถามความคืยหน้าคดี ตำรวจได้บอกกับตนว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปแล้ว เขาจึงอยากให้ตนกลับเข้าไปที่บ้าน เพื่อล่อให้น้าชายออกมา แต่ตนก็กลัวเรื่องความปลอดภัย จึงได้หนีหลบไปที่อื่น 
 
ถกไม่เถียง : โหดเกิน คุณน้า ! บุกยิง “หลานในไส้”
 
            ฝั่ง เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมมาก หลังจากโดนผู้เสียหายขู่ว่าจะเอาผิด ถ้าพบว่าเขาโกงจริง จึงได้เอาปืนอีโบ๊ะยิงใส่ผู้เสียหาย และเกือบไม่รอดด้วย เพราะผู้เสียหายหนีมาได้จากจังหวะเปลี่ยนกระสุน หลังจากรอดมาได้เขาจึงได้แจ้งความ ซึ่งตำรวจได้แจ้งว่าผู้ก่อเหตุนั้นตอนนี้หลบหนีอยู่ จึงอยากให้ผู้เสียกลับเข้าบ้าน เผื่อผู้ก่อเหตุจะกลับมา ทว่าผู้เสียหายเขาก็กลัว จึงได้หนีไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง  เช่าอยู่บ้าง จนได้เข้ามากรุงเทพฯ มาร้องเรียนกับทางเพจสายไหมต้องรอด 
 
            ตนจึงได้ประสานเรื่องให้กับท่าน  พล.ต.ท. อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทราบเรื่อง ขอให้เขาช่วยดูแลผู้เสียหาย อีกทั้งทีมงานของตนก็ได้พาผู้เสียหายไปทำเรื่องคุ้มครองพยานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าผู้เสียหายอยากกลับบ้านก็จะสามารถกลับได้แล้ว เพราะ จะมีเจ้าหน้าที่ตามกลับไปดูแลที่บ้านด้วย 
 
ถกไม่เถียง : โหดเกิน คุณน้า ! บุกยิง “หลานในไส้”
 
            ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ชี้ว่า เคสนี้ ผู้ก่อเหตุจะมีความผิดฐานทำหลักฐานเท็จในการสืบสวนคดี เพราะ มีการไปบอกศาลว่าเขาเป็นลูกคนเดียว ทั้งที่จริง ๆ มีพี่น้อง 4 คน แม้จะเสียชีวิตแล้ว 2 คนก็ตาม ข้อที่สอง มีการเบียดบังเอาทรัพย์สินจากผู้อื่น จะทำให้โดนโทษจำคุกถึง 5 ปี มากกว่าเดิมที่ 3 ปี เพราะเขาเป็นผู้จัดการมรดก ทั้งนี้ตนแนะนำให้ผู้เสียหายรีบไปแจ้งศาลให้ถอดถอนน้าชาย ให้ออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก เพื่อระงับการถ่ายโอนมรดกเอาไว้ก่อน 
 
            ฟาก พ.ต.อ. สมเกษม จารักษ์ ผกก.สภ.บางระกำ เผยว่า เคสนี้ ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว(1 พ.ค. 67) ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างหลบหนีทางตำรวจเองก็กำลังตามตัวอยู่ ส่วนด้านภรรยาของผู้ก่อเหตุก็อ้างว่าไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุไปอยู่ที่ใด ส่วนความปลอดภัยของ นายมานิตย์ ตนรับประกัน นายมานิตย์ สามารถกลับมาอยู่บ้านได้เลย ส่วนประเด็นเรื่องเอาผู้เสียหายมาเป็นตัวล่อเป้านั้น จากการสอบถามของตนไม่มีใครพูดเรื่องนี้ 
 
            ขณะเดียวกัน ภรรยาของผู้ก่อเหตุ ได้เล่ากับทีมงานว่า สามีคงจะโมโหที่หลานไปยุแยงให้กับน้าคนที่ 3 ว่า สามีตนจะไม่ให้ที่ดิน อีกทั้งงานศพของยาย หลานคนดังกล่าว ก็ไม่ได้ไป และเรื่องที่ดินของหลานก็ยอมรับว่าเอาจำนองกันจริง แต่เอาไปทำเพราะต้องเอาเงินมาจัดงานศพยาย ซึ่งญาติไม่ได้ช่วยเรื่องงานศพเลยสักบาท 
 
            ขณะที่ฝั่ง นายมานิตย์ หลานชาย ก็ได้สวนกลับว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้ไปยุแยงให้น้าคนที่ 3 เลย ส่วนเรื่องงานศพที่ไม่ได้ไปเพราะโมโหที่เขาเอาที่ดินของตนไปจำนอง แถมน้าชายผู้ก่อเหตุยังบอกอีกว่าไม่ให้ตนไปยุ่งเรื่องงานศพ และเรื่องที่จำนองที่เขาอ้างว่าเอาเงินไปจัดงานศพ ยืนยันว่าเงินมีการเตรียมไว้อยู่แล้วแต่ดันไปจำนองกันเอง และเรื่องเงินของญาติ ๆ ที่ไม่ช่วย ยืนยันว่าไม่ใช่ความจริงเลย 
 
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. และทุกวันเสาร์ - วันอาทิตย์ พบกับ รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 


ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/lRjlBSTQMn4