หลานสาวสอง ร้อง ถูกน้าชายบุกยิง กระสุนฝัง 39 นัด ปม ขัดแย้งเรื่องที่ดินมรดก หลังน้าชาย แอบไปแจ้งเป็นผู้จัดการมรดก พร้อมโอนที่ดินเป็นของตัวเองทั้งหมด พอตนเองสืบทราบ กลับมาก่อเหตุ !
วันที่ 27 พ.ค. 2567 มานิตย์ แก้วเพ็ชร (นิด) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนถูกน้าชาย ยิงบริเวณไหล่ข้างขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส จากปมสาเหตุเรื่องที่ดินมรดกที่น้าชายแอบไปทำเรื่องเป็นผู้จัดการมรดกให้ แล้วดันโอนชื่อที่ดินทั้งหมดเป็นชื่อของตัวเอง อีกทั้งยังเอาที่ดินที่ตนเองอยู่นั้นไปจำนอง พอตนไปสืบทราบเจอเข้าจึงได้เกิดการทำร้ายข่มขู่กันขึ้น
นายมานิตย์ เล่าเพิ่มว่า ที่ดินมรดกดังกล่าวเป็นของตาและยาย โดยยายมีลูกทั้งหมด 4 คน โดยที่แม่ของตนเป็นลูกคนที่ 2 ส่วนน้าคนที่ก่อเหตุเป็นลูกคนที่ 4 ส่วนลูกคนที่ 3 เป็นน้าผู้หญิง หลังจากที่ตาและยายเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้มีการจัดตั้งผู้จัดการมรดก ซึ่งน้าชายได้มีการแอบไปขึ้นศาลมาแล้ว 2 ครั้ง บอกศาลว่าเป็นลูกเพียงคนเดียว และยื่นเป็นผู้จัดการมรดก ศาลจึงแต่งตั้งโดยไม่มีคนมาคัดค้าน ขณะเดียวกัน น้าผู้หญิงก็ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเลยไม่ได้ไปขึ้นศาล อีกทั้งจดหมายศาลก็ยังมาไม่เคยถึงตนเลย เนื่องจาก มีคนเก็บจดหมายไปก่อน ซึ่งตนและน้า ๆ ทั้งหลายอาศัยอยู้ใกล้กัน
หลังจากคำสั่งศาลออกมาให้น้าชายเป็นผู้จัดการมรดก เขาก็ได้ทำการโอนชื่อมรดกทั้งหมดเป็นของตัวเอง โดยเป็นที่ดิน 2 โฉนด 34 ไร่ และที่ดินที่ตนอยู่อาศัยมา เขาก็โอนเป็นชื่อของตัวเองด้วย ตนมาทราบเรื่องทั้งหมด เนื่องจากพฤติกรรมของน้าชายเขาเริ่มเปลี่ยนไป จากปกติที่เขาจะชอบมาโวยวายกัยน้าผู้หญิง แต่เขากลับไม่มาตามปกติเลย เดือน ก.พ. 2567 ตนจึงลองไปคัดคำสั่งศาล และคัดโฉนดที่ดินจึงได้รู้ความจริง
นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่ น้าชายเอาที่ดินที่ตนอยู่ 3 งาน 20 ตรว. เอาไปจำนอง ตนเสียใจมากเพราะเป็นที่ดินที่ตนอยู่มานาน บ้านตนก็อยู่ในนั้น จากนั้น 1 พ.ค. 2657 ตนไปคุยกับน้าชาย เขาก็โวยวายว่าตนจะไปทำให้เรื่องมันยืดเยื้อทำไม เดี๋ยวเขาจะแบ่งที่ดินให้ทุกคนอยู่แล้ว ตนจึงบอกว่าเขาว่า ถ้าตนตรวจเจอว่าโกง ก็จะแจ้งความ น้าชายจึงได้เอาปืนออกมายิงตน ตนโดนกระสุนฝังไป 39 นัด เอาออกได้เพียง 7 นัด หลังจากเกิดเรื่องทั้งหมดตนจึงได้ไปแจ้งความ และไถ่ถามความคืยหน้าคดี ตำรวจได้บอกกับตนว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปแล้ว เขาจึงอยากให้ตนกลับเข้าไปที่บ้าน เพื่อล่อให้น้าชายออกมา แต่ตนก็กลัวเรื่องความปลอดภัย จึงได้หนีหลบไปที่อื่น
![ถกไม่เถียง : โหดเกิน คุณน้า ! บุกยิง “หลานในไส้”](https://backend.teroasia.com/uploads/pic_tiny/images/LINE_ALBUM_2024_5_27_240527_29.jpg)
ฝั่ง เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมมาก หลังจากโดนผู้เสียหายขู่ว่าจะเอาผิด ถ้าพบว่าเขาโกงจริง จึงได้เอาปืนอีโบ๊ะยิงใส่ผู้เสียหาย และเกือบไม่รอดด้วย เพราะผู้เสียหายหนีมาได้จากจังหวะเปลี่ยนกระสุน หลังจากรอดมาได้เขาจึงได้แจ้งความ ซึ่งตำรวจได้แจ้งว่าผู้ก่อเหตุนั้นตอนนี้หลบหนีอยู่ จึงอยากให้ผู้เสียกลับเข้าบ้าน เผื่อผู้ก่อเหตุจะกลับมา ทว่าผู้เสียหายเขาก็กลัว จึงได้หนีไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง เช่าอยู่บ้าง จนได้เข้ามากรุงเทพฯ มาร้องเรียนกับทางเพจสายไหมต้องรอด
ตนจึงได้ประสานเรื่องให้กับท่าน พล.ต.ท. อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทราบเรื่อง ขอให้เขาช่วยดูแลผู้เสียหาย อีกทั้งทีมงานของตนก็ได้พาผู้เสียหายไปทำเรื่องคุ้มครองพยานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าผู้เสียหายอยากกลับบ้านก็จะสามารถกลับได้แล้ว เพราะ จะมีเจ้าหน้าที่ตามกลับไปดูแลที่บ้านด้วย
ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ชี้ว่า เคสนี้ ผู้ก่อเหตุจะมีความผิดฐานทำหลักฐานเท็จในการสืบสวนคดี เพราะ มีการไปบอกศาลว่าเขาเป็นลูกคนเดียว ทั้งที่จริง ๆ มีพี่น้อง 4 คน แม้จะเสียชีวิตแล้ว 2 คนก็ตาม ข้อที่สอง มีการเบียดบังเอาทรัพย์สินจากผู้อื่น จะทำให้โดนโทษจำคุกถึง 5 ปี มากกว่าเดิมที่ 3 ปี เพราะเขาเป็นผู้จัดการมรดก ทั้งนี้ตนแนะนำให้ผู้เสียหายรีบไปแจ้งศาลให้ถอดถอนน้าชาย ให้ออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก เพื่อระงับการถ่ายโอนมรดกเอาไว้ก่อน
ฟาก พ.ต.อ. สมเกษม จารักษ์ ผกก.สภ.บางระกำ เผยว่า เคสนี้ ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว(1 พ.ค. 67) ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างหลบหนีทางตำรวจเองก็กำลังตามตัวอยู่ ส่วนด้านภรรยาของผู้ก่อเหตุก็อ้างว่าไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุไปอยู่ที่ใด ส่วนความปลอดภัยของ นายมานิตย์ ตนรับประกัน นายมานิตย์ สามารถกลับมาอยู่บ้านได้เลย ส่วนประเด็นเรื่องเอาผู้เสียหายมาเป็นตัวล่อเป้านั้น จากการสอบถามของตนไม่มีใครพูดเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน ภรรยาของผู้ก่อเหตุ ได้เล่ากับทีมงานว่า สามีคงจะโมโหที่หลานไปยุแยงให้กับน้าคนที่ 3 ว่า สามีตนจะไม่ให้ที่ดิน อีกทั้งงานศพของยาย หลานคนดังกล่าว ก็ไม่ได้ไป และเรื่องที่ดินของหลานก็ยอมรับว่าเอาจำนองกันจริง แต่เอาไปทำเพราะต้องเอาเงินมาจัดงานศพยาย ซึ่งญาติไม่ได้ช่วยเรื่องงานศพเลยสักบาท
ขณะที่ฝั่ง นายมานิตย์ หลานชาย ก็ได้สวนกลับว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้ไปยุแยงให้น้าคนที่ 3 เลย ส่วนเรื่องงานศพที่ไม่ได้ไปเพราะโมโหที่เขาเอาที่ดินของตนไปจำนอง แถมน้าชายผู้ก่อเหตุยังบอกอีกว่าไม่ให้ตนไปยุ่งเรื่องงานศพ และเรื่องที่จำนองที่เขาอ้างว่าเอาเงินไปจัดงานศพ ยืนยันว่าเงินมีการเตรียมไว้อยู่แล้วแต่ดันไปจำนองกันเอง และเรื่องเงินของญาติ ๆ ที่ไม่ช่วย ยืนยันว่าไม่ใช่ความจริงเลย
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. และทุกวันเสาร์ - วันอาทิตย์ พบกับ รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35