“กสทช.” แจง อย่าเพิ่งตกใจ ใช้ “Mobile Banking” ได้ปกติ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

7,875 ครั้ง

27 พ.ค. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กสทช. แจงว่าอย่าเพิ่งตกใจ ยังใช้โมไบล์แบงกิงได้ปกติ การดีเดย์วันนี้ เป็นขั้นตอนคัดกรองบัญชีเบอร์มือถือและบัญชีธนาคารก่อน หากพบชื่อผู้ถือครองซิมการ์ดกับบัญชีธนาคารไม่ตรงกัน ธนาคารจะแจ้งให้รู้เพื่อแก้ไขให้ถูกต้องก่อน มาตรการนี้ทำเพื่อสกัดซิมผีบัญชีม้า

อาจจะทำให้หลายคนตื่นตกใจกันพอสมควร หลังจากเมื่อวานนี้ กสทช. เผยแพร่ข้อความ แนะนำให้ประชาชนตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์โมไบล์แบงกิง ที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ว่าต้องเป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งเป็นมาตรการสกัดซิมผีบัญชีม้าในระบบโอนเงินออนไลน์ เริ่มดีเดย์ 27 พฤษภาคมนี้ หน่วยงานจะเริ่มตรวจสอบคัดกรอง นั่นก็ทำให้หลายคนสงสัยว่า ถ้าเบอร์โทรศัพท์ชื่อไม่ตรงกับบัญชีธนาคาร จะยังใช้โมไบล์แบงกิงได้หรือไม่

ทำให้ กสทช. ต้องโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า วันที่ 27 พฤษภาคม ซึ่งก็คือวันนี้ โมไบล์แบงกิงยังใช้งานได้ตามปกติ ส่วนที่เริ่มดีเดย์วันนี้ เป็นขั้นตอนการตรวจสอบคัดกรอง ซึ่งนโยบายดังกล่าว เป็นการขอความร่วมมือ ปปง. และธนาคาร ให้สำนักงาน กสทช. เป็นตัวกลางในการประสานงานกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในการตรวจสอบข้อมูล

ข่าวเย็นประเด็นร้อน สัมภาษณ์พิเศษเรื่องนี้กับ พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมาย อธิบายว่า วันนี้วันที่ 27 ไม่ใช่วันระงับโมไบล์แบงกิง แต่เป็นวันเริ่มทำงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือธนาคารพาณิชย์ทั้ง 21 แห่ง, ปปง., กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อตรวจสอบคัดกรองข้อมูล ซึ่งทุกหน่วยงานที่ว่ามา จะมีเวลา 120 วัน หรือ 4 เดือน

วันนี้เป็นต้นไป ธนาคารพาณิชย์ ต้องรวบรวมบัญชี ชื่อเจ้าของบัญชี และเลขหมายโทรศัพท์ที่ผูกกับบัญชีนั้น หรือโมไบล์แบงกิง ส่งไปให้กับ ปปง. จากนั้น ปปง.จะรวบรวม และให้ กสทช. แยกข้อมูลว่า เบอร์โทรแต่ละเบอร์ เป็นของผู้ให้บริการค่ายไหน แล้วส่งไปให้ตรวจเช็คว่า เบอร์ที่ผูกกับโมไบล์แบงกิง เป็นเจ้าของเดียวกับเจ้าของบัญชีหรือไม่

ถ้าพบว่าเบอร์ไม่ตรงกัน จะส่งกลับไปให้ ปปง. และธนาคาร ไปตรวจสอบอีกครั้งว่า เบอร์ไหนบ้างต้องสงสัยว่าเป็นของบรรดาอาชญากรออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องของธนาคารจะใช้ดุลยพินิจพิจารณาระงับการใช้โมไบล์แบงกิง

พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธร บอกว่า ถ้าเบอร์โทรที่ผูกกับโมไบล์แบงกิง ไม่ตรงกัน จะยังไม่ระงับการใช้โมไบล์แบงกิงทันที แต่ว่าทางธนาคาร และ ปปง. จะแจ้งเจ้าของบัญชีให้เปลี่ยนแปลง เช่น เปลี่ยนเบอร์เลย หรือเปลี่ยนชื่อเจ้าของเบอร์ที่ผูกกับบัญชีธนาคารอยู่แล้วให้เป็นชื่อของตัวเอง การทำแบบนี้ จะตัดปัญหาบัญชีม้าออกไป เพราะบัญชีม้าจะเปิดบัญชี แล้วใช้ซิมผี มาผูกกับโมไบล์แบงกิง

พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธร กสทช. ด้านกฎหมาย บอกด้วยว่า เท่าที่ทราบจาก ปปง. ปัจจุบัน มีบัญชีธนาคารอยู่ประมาณ 130 ล้านบัญชี มีโมไบล์แบงกิง 106 ล้านบัญชี ซึ่งมาตรการนี้ อาจจะส่งผลกระทบประชาชนบ้าง แต่จะพยายามให้กระทบน้อยที่สุดหรือไม่กระทบเลย

แต่ผลที่จะได้รับกลับมา จะทำให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนมากกว่า เพราะว่าถ้าพบว่าเบอร์ไม่ตรงกัน ธนาคารจะแจ้งให้ไปเปลี่ยนให้ถูกต้อง ถ้าเป็นสุจริตชน หรือคนทั่วไป ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่มาตรการนี้จะสร้างภาระอันยิ่งใหญ่ให้มิจฉาชีพ

พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธร บอกว่า มาตรการนี้ เป็นมาตรการต่อเนื่องจากการที่ กสทช.เคยออกประกาศให้คนที่มีซิมการ์ดมือถือ 6 หมายเลขขึ้นไปยืนยันตัวตน ซึ่งคนที่มีซิมการ์ด 101 เบอร์ขึ้นไป ครบกำหนดยืนยันตัวตน เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผานมา พบว่ามีคนไม่ยืนยันซิมการ์ดมากพอสมควร จึงระงับซิมการ์ดไปกว่า 2.1 ล้านเบอร์ โดยส่วนหนึ่งเป็นเบอร์ที่อยู่ในความถือครองของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนคนที่ถือครองซิมการ์ด 6-100 เลขหมาย จะครบกำหนด 13 กรกฎาคม

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35