ตร.เรียกพ่อ-แม่ “เสี่ยต้น” สอบเพิ่ม หาปมเสียชีวิตของลูกชาย | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจเรียก พ่อ - แม่ เสี่ยต้น มาสอบปากคำเพิ่มเติม หาความเชื่อมโยงการเสียชีวิตของลูกชาย ด้านทนายเดชา คาดสัปดาห์หน้ามีข่าวดีเผยตำรวจมีข้อมูลผู้ต้องสงสัยหมดแล้ว เชื่อปมปัญหามาจากความขัดแย้งในครอบครัว

 

ตร.เรียกพ่อ-แม่ เสี่ยต้น สอบเพิ่ม หาปมเสียชีวิตของลูกชาย

กรณีการเสียชีวิตของ นายพิชิต กลีบจินดา หรือ เสี่ยต้น เจ้าของธุรกิจสอนสปาและนวดแผนไทย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา หลังกลับไปหานางมด ภรรยา ที่บ้านพักในจังหวัดมหาสารคาม กระทั่งนางสาวณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ เจ น้องสาวของเสี่ยต้น เข้าปรึกษาเพื่อขอความช่วยเหลือกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เนื่องจากสงสัยสาเหตุการตายว่ามีเงื่อนงำ เพราะสภาพศพดำคล้ำผิดปกติ เหมือนถูกวางยาพิษ ประกอบกับก่อนเสียชีวิตไม่กี่วัน เสี่ยต้น เคยถูกลอบยิง ในท้องที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา น้องสาวจึงเดินหน้าร้องขอให้ตำรวจรื้อฟื้นคดีการเสียชีวิตของพี่ชาย และขอให้เร่งหาตัวคนร้ายที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงรถตู้ของพี่ชาย มาดำเนินคดี

 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ที่ สน.วังทองหลาง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พร้อมด้วยพระวสันต์ กลีบจินดา , นาง ประภาพินท์ กลีบจินดา พ่อและแม่ของเสี่ยต้น และนางสาวณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ เจ น้องสาวเสี่ยต้น ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม

 

ทนายเดชา เผย สัปดาห์หน้ามีข่าวดีคดี เสี่ยต้น

โดยทนายเดชา เปิดเผยว่า พาครอบครัวผู้เสียชีวิต มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อเท็จจริงในคดีมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งประเด็นการจ้างวานและคนยิง ในส่วนของผู้ก่อเหตุ ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้วและชัดเจนพอสมควร แต่จะต้องนำมาเชื่อมโยงกับคนจ้างวานและแรงจูงใจต่าง ๆ ให้ชัดเจน คาดว่าสัปดาห์หน้า จะมีข่าวดีเรื่องหมายจับคนร้าย ที่เบื้องต้นคาดว่ามีมากกว่า 3 คน ส่วนประเด็นสาเหตุหลัก ๆ ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นปัญหาครอบครัว อยู่ระหว่างสืบสวนว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ยอมรับว่าคดี มีความคล้ายกับ คดีลอบสังหารเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักแม่นปืนทีมชาติไทย เมื่อปี 2556 แต่มีบางสิ่งที่ต้องสอบเพิ่มเติม

 

ส่วนคดีการเสียชีวิตที่ จ.มหาสารคาม ทราบว่าตำรวจชุดสืบสวน ได้ดำเนินการไปเยอะแล้ว ทั้งการ สอบพยานในคดี เช่น ใครเป็นคนซื้อสุราให้ผู้เสียชีวิตดื่ม รวมถึงสอบปากคำสัปเหร่อ โดยตำรวจยังไม่ได้บอกชัดว่าให้น้ำหนักเรื่องอะไร ต้องนำข้อมูลของทั้งสองพื้นที่มาประกอบกัน เช่น ผลการชันสูตรกระดูกที่ยังรอผลจากนิติเวชฯ ส่วนที่สังคมตั้งประเด็นเรื่องเงินประกันนั้น ก็มีความเป็นไปได้แต่ต้องสืบให้ชัดเจน ย้ำว่าคดีนี้ในส่วนของผู้ต้องสงสัยตำรวจมีอยู่แล้ว แต่ต้องหาหลักฐานเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องอย่างไร