หนุ่มจบนอก ถูก “แก๊งทวงเงิน” อุ้มซ้อม หนี้ 3 หมื่น รีดเงิน 6 แสน อ้างเป็น “นาวิกโยธิน”

หนุ่มนักเรียนนอก ร้องสื่อ หลังเจอกลุ่มเพื่อนที่ไปกู้เงินมา จับอุ้มไปซ้อม ทำร้ายสารพัด เอาปืนจ่อหัวชวนเล่นรัสเซียนรูเล็ตต์ พร้อมขู่จะบดเเนื้อให้ปลากิน เกือบเอาชีวิตไม่รอด ซ้ำ กลายเป็นหนี้ 6 แสน จากเงินต้น 3 หมื่น !?

 

 

             วันที่ 20 พ.ค. 2567 ตั้ม (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อปลายปี 2565 ตนได้ไปยืมเงินเพื่อนที่ชื่อนุ๊กมา 75,000 บาท และได้มีการคืนไปแล้ว 35,000 บาท และตนได้มีการช่วยเขาซ่อมแซมบ้านและซ่อมรถยนต์ให้ เพื่อหักหนี้กันไป โดยไม่คิดค่าแรง ซึ่งตีเป็นเงินประมาณ 30,000 บาท แต่ขณะเดียวกันตนก็ไม่ได้มีการบอกกับเจ้าตัวเป็นกิจจะลักษณะ เพราะตนเกรงใจ และเจ้าตัวเองก็ไม่ได้มีการทวงเงินมาเป็นปีแล้ว เลยเข้าใจว่าหักลบหนี้กันไปแล้ว 

 

             กระทั่งเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อนได้ติดต่อมาทวงหนี้กับตน เขาต้องการเงินคืน โดยคิดดอกเบี้ยด้วย ส่วนเรื่องที่ทำบ้านให้เขา เขาไม่สนใจ โดยทั้งหมดเขาต้องการเงิน 289,000 บาท ตนจึงได้บอกว่าตนจ่ายไม่ไหวหรอก เงินจำนวนนี้ ซึ่งก็ยังคุยหาข้อตกลงกันไม่ได้ ก็ได้มาเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2567 ขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ นายเชน หนึ่งในกลุ่มเพื่อน มาเคาะประตูห้องของตน พอตนเปิด นุ๊ก กับ น.ส.โอ๋ แฟนสาวของนุ๊ก ก็วิ่งเข้ามาถีบพังประตูห้อง และชกต่อยกับตนจนตนนอนกับพื้น จากนั้นเขาก็ทำการวิดีโอคอล เรียกคนชื่อ เบนซ์ มา ซึ่ง เบนซ์ ได้พูดข่มขู่ตนต่าง ๆ นา ๆ 

 

             จากนั้นกลุ่มเพื่อนกลับเปลี่ยนใจ เพราะ กลัวตนถูกนายเบนซ์ ทำร้ายหนัก เพราะนายเบนซ์ มีพฤติกรรมรุนแรง เลยพาตนหนีแต่ได้ไม่นาน นายเบนซ์ ก็โทรมาตามให้พาตนไปที่เซฟเฮ้าส์แถวท่าน้ำนนท์ ซึ่งที่นี่ เขาก็ได้ทำร้ายตน เอาเหล็กเส้นมาตีตนทั่วร่างกาย อีกทั้งมีการข่มขู่ ลับมีดโชว์ และเอาปืนมาจ่อหัวยิงแบบรัสเซียนรูเล็ตต์ พร้อมให้ตนท่องว่า "กฎหมายไทย ไม่มีศพ ไม่มีคดี" จากนั้นเขาจึงมาทวงเรื่องเงิน ขอที่ 289,000 บาท แต่ตนได้ขอผ่อนเขาเดือนละ 100,000 บาท ซึ่งเขายอมให้ผ่อนได้ แต่ถ้าผ่อน เขาจะเอายอดทั้งหมด 600,000 บาท 

 

             ซึ่งในสภาพตอนนั้น ตนก็ต้องยอมไปก่อน โดยวันนั้นตนต้องโทรไปขอเงินแม่ตอนตี 1 จำนวน 100,000 บาท เพื่อเอามาให้เขา และตนถึงได้รับการปล่อยตัว นอกจากนี้ ทรัพย์สินในห้องของตนหายไปด้วย มีทั้ง แหวนทอง พระเลี่ยมทอง คอมพิวเตอร์ และพวกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ 

 

 

             ด้าน นิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ผู้เสียหายตอนแรกเขาไม่กล้าแจ้งความ เขาจึงมาร้องที่เพจสายไหมต้องรอด วันนี้ตนจึงได้พาเขาไปแจ้งความที่สน.สุทธิสาร น่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ เพราะ ตำรวจรวบรวมหลักฐานได้ไวมาก อีกทั้งได้ประสานเรื่องเพิ่มเติมไปว่า นายเบนซ์ มีพฤติกรรมที่โหดร้าย เห็นได้ชัดจากการเอาปืนมาจ่อหัวแล้วยิง ค่อนข้างเข้าข่ายโรคจิต และยังข่มขู่จะบดกระดูกผู้เสียหายไปให้ปลาดุกกิน ขณะเดียวกัน ตอนแรกตนยังไม่ค่อยเชื่อที่ผู้เสียหายเท่าไหร่ แต่พอลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานกล้องวงจรปิด จึงได้รู้ว่าเป็นเหตุการณ์จริง อ

 

 

             ฟาก นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนอยากบอกว่าผู้ก่อเหตุว่าเข้าใจผิดว่าไม่มีศพ ไม่มีคดี เพราะทุกวันนี้ มีผู้เสียหายต้องมีผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม ตนฝากพนักงานสอบสวนให้ไล่กล้องไล่เหตุการณ์ให้ชัด เพราะมี หลายเหตุการณ์เกิดขึ้น แบบนี้ มีความผิดเกี่ยวกับการเรียกดอกเบี้ยเกิน อีกทั้งต้องตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตให้เป็นสถาบันการเงินหรือไม่ เพราะมีการเรียกดอกเบี้ยจากยอดหนี้ 75,000 บาท เรียกคืนถึง 600,000 บาท  และยังมีข้อหาทำร้ายร่างกาย รวมทั้ง มีการขืนใจผู้อื่น แถมยังมีผู้ก่อเหตุเกิน 4 คน เข้าข่ายปล้นทรัพย์อีกด้วย ซึ่งคนแบบนี้มันเอาไว้ในสังคมไม่ได้ ต้องรีบตามจับ

 

             ทั้งนี้ในส่วนผู้เสียหาย ตนแนะนำให้ไปเรียกเงินชดเชยผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ที่กระทรวงยุติธรรม อีกทั้งตนจะช่วยประสานเรื่องคุ้มครองพยานให้ มาดูแลเรื่องความปลอดภัย 

 

             เอ (นามสมมติ) อดีตแฟนผู้เสียหาย เล่าว่า ฝั่งผู้ก่อเหตุ เป็นกลุ่มเพื่อนของตน ส่วนเรื่องที่มีการยืมเงินนั้นตนไม่แน่ใจว่ามีการยืมกันจริงแค่ไหน เพราะตนอยู่กับ ตั้ม(นามสมมติ) แค่ไม่นาน ก็ต้องไปทำงานที่อื่นต่อ ส่วนวันที่เกิดเหตุ ที่ตนไปที่เกิดเหตุด้วยนั้น ตนไปเพื่อคอยยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น หรือทำให้เหตุการณ์มันเบาลง ซึ่งตนได้พยายามห้ามแล้วแต่ไม่เป็นผล 

 

             ขณะเดียวกัน เรื่องที่ตั้มไปช่วยฝั่งผู้ก่อเหตุซ่อมบ้าน แล้วหักลบกลบหนี้ นั้น ตนไม่ทราบว่าเขาไปคุยกันอย่างไร แต่มีการซ่อมบ้านซ่อมรถให้ผู้ก่อเหตุจริง อย่างไรก็ตาม ฝั่งผู้ก่อเหตุเขามีการทวงถามเรื่องเงินกันมานานจนเรื่องมันบานปลาย ซึ่งเขาต้องการแค่เงินที่เขาสมควรจะได้รับเท่านั้น