เผยผลผ่าชันสูตร “บุ้ง ทะลุวัง” ไม่พบอาหารในกระเพาะ ชี้ร่างกายมีรอยช้ำ | เช้านี้ที่หมอชิต

12,004 ครั้ง

16 พ.ค. 2567

แชร์ข่าวไปที่

เช้านี้ที่หมอชิต - ความคืบหน้ากรณี นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิตกะทันหัน ระหว่างการอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัว จากการถูกถอนประกันในคดีทำโพลขบวนเสด็จ เมื่อวานนี้ ทนายความได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ทนายเผยผลผ่ากระเพาะ บุ้ง ไม่มีอาหาร พบร่างกายมีรอยช้ำ

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมสังเกตการณ์การผ่าชันสูตรพลิกศพ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของ บุ้ง ว่า เรื่องนี้ประเด็นสำคัญ คือ รัฐได้ดูแลผู้ต้องขังที่ยังไม่ถูกศาลตัดสินว่าผิดได้อย่างมีคุณภาพหรือไม่ หากวันหนึ่งศาลยกฟ้อง แต่ผู้ต้องขังได้เสียชีวิตในลักษณะนี้ ถือว่าไม่สมควร จากนั้น ได้เรียกร้องผ่านสื่อไปถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ให้ดี ว่าช่วงเวลาที่ บุ้ง หมดสติเกิดอะไรขึ้นบ้าง และฝากถึงหน่วยงานยุติธรรม ว่าจะปล่อยให้เกิดเรื่องลักษณะเหล่านี้ขึ้นอีกหรือไม่ หรือจะไม่เปลี่ยนอะไรเลย เพราะขณะนี้ยังมีผู้ต้องขังทางการเมืองอยู่ในเรือนจำที่ศาลยังไม่ตัดสินกว่า 40 คน และมี 2 คน ที่ประกาศอดอาหาร

ในเวลาต่อมา ทนายกฤษฎางค์ ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การผ่าชันสูตรพลิกศพ ซึ่งใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงได้ออกมาเปิดเผยว่า การผ่าเป็นไปตามหลักทฤษฎีและเปิดเผย ในกระเพาะอาหาร เบื้องต้นเท่าที่เห็นด้วยสายตาไม่มีอาหารในกระเพาะ สำหรับสภาพภายนอก พบว่ามีรอยช้ำเล็กน้อย อาจจะเกิดจากการหอบหรือถูกอุ้มและซี่โครงบางซี่ได้รับการกระเทือนจากการทำซีพีอาร์

เมื่อถามว่า ภายหลังกรมราชทัณฑ์ได้ออกมาแถลงว่าหลังจาก บุ้ง กลับไปพักฟื้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก็ได้กินอาหาร คือ ข้าวต้มกับไข่เจียว มาโดยตลอด และอยู่ด้านในแบบสุขสบายนั้น นาย กฤษฎางค์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญ บุ้งจะกินหรือไม่กิน หรือจะอยู่แบบสุขสบายหรือไม่ แต่การเสียชีวิตแบบนี้ คือ การตายในอ้อมแขนของคุณ ถ้าคนสุขสบายดีคงไม่ตาย กรมราชทัณฑ์แถลงแบบนี้ทุกครั้ง ตั้งแต่คนไม่ป่วย ก็แถลงให้ป่วย จนกระทั่งส่งออกไปรักษาข้างนอกได้ อยากถามทุกคนว่าเชื่อหรือไม่ แต่เป็นตน ถ้ากรมราชทัณฑ์แถลงไม่เคยเชื่อ ส่วนกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของบุ้ง อยากให้ลงมาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจังมากกว่าแค่พูด ประเทศเรากำลังสมัครเป็นมนตรีสิทธิมนุษยชน ถ้าคนถูกคุมขังแล้วตายแบบนี้ ท่านจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน บุ้งเสียชีวิตในการควบคุมของรัฐบาลเศรษฐา ต้องหาคนรับผิดชอบ

กรมราชทัณฑ์ แจงไทม์ไลน์ บุ้ง เสียชีวิต ลั่นหมอเทวดาก็ช่วยไม่ได้

ในวันเดียวกัน ทางกรมราชทัณฑ์ ได้แถลงข่าวกรณีการเสียชีวิตของ บุ้ง โดยมี นพ.สมภพ สังคุตแก้ว ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์, นางอาจารี ศรีสุนาครัว ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง และ นพ.พงศ์ภัค อารียาภินันท์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อย่างไรก็ตาม การแถลงครั้งนี้สร้างความสับสนให้กับสื่อมวลชนอย่างมาก เนื่องจากยังให้รายละเอียดก่อนการเสียชีวิตของบุ้งได้ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะคำถามที่ว่าเมื่อบุ้งเกิดอาการช็อกไปแล้วมีการปั๊มหัวใจ หรือ CPR ทันทีหรือไม่ ซึ่งตอนแรก นพ.พงศ์ภัค บอกว่าทำทันที แต่ต่อมาบอกใหม่ว่าน่าจะจำรายละเอียดผิด เพราะในเอกสารบอกว่าตอนนั้นมีสัญญาณชีพอ่อน ๆ มีการพยุงไปปั๊มที่ห้องรักษา สื่อจึงถามต่อไป อาการแบบนั้นพยุงปีกไปได้หรือ ทำให้ นพ.พงศ์ภัค เริ่มเงียบ นายแพทย์สมภพ จึงชี้แจงแทนว่า ความสับสนที่เกิดขึ้น เพราะคำถามที่ถามมาเป็นการลงรายละเอียดลึกจนเกินไป เหมือนเป็นการสอบสวน ขณะที่สื่อมวลชน ยืนยันว่า ไม่ได้ถามที่ลึกเกินไป แต่เป็นการถามตามหลักวิชาการ และถึงขณะนี้เวลาผ่านมามากกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว กรมราชทัณฑ์น่าจะมีรายละเอียดในการชี้แจงที่เรียบเรียงได้ชัดเจนกว่านี้

ดุเดือดมากสำหรับคำถามชุดนี้ แต่จบประเด็นนี้ ยังมีประเด็นร้อนต่อเนื่องไปอีก คือ คำถามถึงมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย คำถามนี้ นพ.สมภพ เป็นผู้ตอบ ระบุว่า ได้ส่งนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยเต็มที่ แต่ถ้าเขายังยืนยันจนร่างกายถึงจุดที่ไม่สามารถดูแลได้แล้ว ต่อให้แพทย์เทวดาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้

สำหรับ ตะวัน ซึ่งได้อดข้าวเรียกร้องสิทธิประกันตัวเช่นเดียวกับ บุ้ง และนอนห้องขังเดียวกัน นางอาจารี ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง แจ้งว่าได้ส่งตัว ตะวัน ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ หลังจากแพทย์ที่ดูแลแจ้งว่าเธอมีอาการเครียดจากการเสียชีวิตของบุ้ง ส่วนอาการของ ตะวัน สุขภาพร่างกายปกติดี

ล่าสุด มีรายงานจากเพจเฟซบุ๊ก ทะลุฟ้า ประกาศเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมให้บุ้ง โดยได้เชิญชวนประชาชนร่วมยื่นหนังสือถึงรัฐบาล ณ ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ เวลา 10.00 น. ข้อเรียกร้องหลัก คือ ให้รัฐบาลมีนโยบายคืนสิทธิการประกันตัวผู้ต้องขังคดีทางการเมืองทุกคน ซึ่งสะท้อนถึงข้อเรียกร้องของ บุ้ง ทะลุวัง ที่ต้องการให้ผู้ต้องขังคดีทางการเมืองได้รับสิทธิในการต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม จากนั้น เวลา 12.30 น. จะเดินทางไปรัฐสภาเพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการเร่งพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับประชาชน

พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35