เช้านี้ที่หมอชิต - อยู่ ๆ ก็หาย ไลน์ไปก็ไม่ตอบ ครูสอนพิเศษ ตอนแรกก็สอนดีจนผู้ปกครองเชื่อใจ แต่เวลาผ่านไปไม่กี่ปี เริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ เปิดรับเด็กมากขึ้นอย่างผิดสังเกต พร้อมบอกให้ซื้อคอร์สล่วงหน้า พอได้เงินก้อนใหญ่ก็วาร์ปหายไปไร้ร่องรอย ด้านกลุ่มผู้ปกครองกว่าสิบครอบครัวยิ่งช้ำหนัก เพราะพอไปแจ้งความ ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ ให้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน
ชี้ชัด ๆ จะได้ไม่มีใครหลงเป็นเหยื่ออีก นี่คือหน้าตาเฟซบุ๊กของผู้ก่อเหตุฉ้อโกงเงินสอนพิเศษที่มีชื่อว่า บ้านสอนพิเศษ T&J English House ดำเนินการโดย นางสาวปภาวดี พันขอ หรือ ครูต้อย และครูเจน ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เป็นอดีตครูผู้ช่วยสอนภาษาโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดนครสวรรค์ ที่ลาออกไปแล้ว มีพฤติกรรมเปิดเพจรับสอนพิเศษ 4 วิชา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และไทย ให้กับนักเรียนระดับชั้นประถม ตอนแรกก็สอนตามปกติ พอผู้ปกครองเริ่มเชื่อใจ ราวต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เริ่มมีพฤติกรรมผิดจากปกติ คือรับเด็กเยอะขึ้นและบอกให้ซื้อคอร์สเป็นแพ็กเกจยาว ๆ เมื่อผู้ปกครองหลายรายตกลงซื้อและมีการจ่ายเงินทั้งหมดไปแล้ว กลับถูกครูรายนี้ชิ่งหนีหายไปอย่างไร้เงา ไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง อีกทั้งสถานที่ที่เคยไปร่ำเรียนพิเศษก็ถูกปิดคืนให้กับเจ้าของบ้านตัวจริง
ต่อมา กลุ่มผู้ปกครองชาวเมืองนครสวรรค์ได้แลกเปลี่ยนปรับทุกข์กันก็รู้ว่า งานนี้โดนหลอกชัวร์ จึงตัดสินใจรวมตัวกันราว ๆ 20 คน เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.หนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิด
ผู้ปกครองท่านนี้บอกต่อไปว่า ถึงตอนนี้เธอและผู้ปกครองท่านอื่นยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรจากครูต้อยเลย ขณะนี้มีผู้ปกครองที่ได้รับความเสียหายที่ติดต่อได้แล้วทั้งหมด 38 คน แต่ยังมีผู้ปกครองรายอื่นที่ลงเรียนคอร์สช่วงปิดเทอมอีกหลายคนที่ยังไม่รู้เรื่องว่าครูต้อยและครูเจนหายตัวไป เนื่องจากยังไม่ถึงวันกำหนดวันเรียน ส่วนมูลค่าความเสียหายหลัก ๆ เฉพาะที่มาแจ้งความ น่าจะรวมกันไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท เพราะแต่ละคนได้รับความเสียหายจากการลงคอร์สเรียน ซึ่งมีตั้งแต่ 4,000 บาท ไปจนถึง 15,000 บาท
และไม่ใช่แค่ผู้ปกครองเท่านั้นที่โดนโกง ครูเค้ก ก็เดินทางมาแจ้งความเอาผิดกับครูต้อยและครูเจน ด้วย เนื่องจากถูกหลอกจ้างให้มาสอนพิเศษ รวม 3 เดือน มากกว่า 40,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้เลยสักบาท ส่วนข้อสังเกตเกี่ยวกับ ครูต้อย หลายคนบอกตรงกันว่ามักเอากระดาษกาวไปทาบกับมือถือแล้วแปะแนบหูไว้เกือบตลอดเวลา และส่วนใหญ่มักได้ยินคุยกันเรื่องเงินเรื่องทองคล้ายคนกำลังมีปัญหา นอกจากนี้ ยังมีผู้ปกครองรายหนึ่ง เพิ่งส่งลูกไปเรียนได้เพียงวันเดียว ก็ถูกโทรขอยืมเงินสูงถึง 50,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ทางตำรวจร้อยเวรยังไม่รับแจ้งความ แต่แนะนำให้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่โรงพัก เนื่องจากมองว่าเป็นคดีแพ่ง ให้เดินทางไปที่อัยการจังหวัด เพื่อนำใบบันทึกไปยื่นร้องต่ออัยการให้เอาผิดอีกที พอฟังแบบนี้ ผู้ปกครองแต่ละรายถึงกับส่ายหน้าเอือมระอา เนื่องจากบางคนเคยมาแจ้งความก่อนหน้านี้กับร้อยเวรอีกคน ก็ไม่ยอมรับแจ้งความเช่นกัน จึงทำให้ผู้ปกครองทั้งหมดเดินทางไปยืนร้องต่ออัยการตามคำแนะนำ ล่าสุด ทางอัยการได้ให้คำแนะนำระบุมาแล้วว่า คดีนี้เป็นคดีอาญา เข้าข่ายฉ้อโกง ซึ่งเป็นคดีที่ทางตำรวจจะต้องรับแจ้งความเพื่อดำเนินคดี แต่ถึงขณะนี้ยังไม่ได้บทสรุปอะไรเป็นรูปธรรมจากทางฝั่งตำรวจ
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม