ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นายกรัฐมนตรี สั่ง รมว.อุตสาหกรรม เยียวยาประชาชน เหตุเพลิงไหม้โรงงานมาบตาพุด
นายกฯ สั่ง รมว.อุตสาหกรรมเยียวยา เหตุไฟไหม้ มาบตาพุดแทงค์
วันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเยียวยาเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บก๊าซโซลีน ของบริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ที่ จังหวัดระยองว่า ถึงแม้ไฟจะดับแล้ว แต่สั่งการให้เยียวยาประชาชน ส่วนเรื่องภัยพิบัติที่ประกาศภาวะฉุกเฉิน ก็ยกเลิกไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการป้องกันอย่างไร เนื่องจากเป็นช่วงอากาศร้อน ส่งผลให้เกิดเหตุไฟไหม้ถี่ขึ้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เน้นย้ำทุกภาคส่วนให้มีการป้องปรามโรงงานต่าง ๆ ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้การเข้าควบคุมเพลิง ต้องมีมาตรฐานในการดับไฟ
สั่งเยียวยาผู้เสียชีวิต 1.8 ล้านบาท
ด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมจังหวัดระยอง ตรวจสอบเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีลูกจ้างเสียชีวิต 1 คน เพศชาย อายุ 35 ปี เป็นพนักงานของบริษัทมาบตาพุดแทงก์ฯ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 4 คน เป็นเพศชายทั้งหมด ขณะนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง 3 คน และโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ 1 คน มีได้รับบาดเจ็บทั้งถูกไฟไหม้ และสูดดมควัน
ซึ่งกรณีดังกล่าว เป็นการประสบอันตรายจากการทำงาน ลูกจ้างที่เสียชีวิต ทายาทจะมีสิทธิ์ได้รับสิทธิประโยชน์ จากกองทุนเงินทดแทน เป็นค่าทำศพ จ่ายแก่ผู้จัดการศพ รายละ 50,000 บาท ค่าทดแทนกรณีเสียชีวิตเป็นระยะเวลา 120 เดือน จ่ายเป็นรายเดือนๆ ละ 14,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,680,000 บาท เงินบำนาญชราภาพ 110,039.50 บาท (ยังไม่รวมดอกผล) รวมได้รับทั้งสิ้น 1,840,039.50 บาท
ส่วนลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บ 4 คน จะมีสิทธิได้รับเงินจากกองทุนเงินทดแทน เป็นค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ค่าทดแทนกรณีหยุดงาน 70 ของค่าจ้างรายเดือน ไม่เกินระยะเวลา 1 ปี
ผู้ว่า ฯ ระยองจี้หาสาเหตุไฟไหม้
ขณะที่นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ และตรวจสอบจนแน่ชัดว่าเพลิงได้ดับแล้ว ทางจังหวัดจึงประกาศยกเลิกพื้นที่ประสบเหตุสาธารณภัยในชุมชนหนองแฟบ ตา-กวน, อ่าวประดู่ แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ติดตามอย่างใกล้ชิด และคงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่จากการตรวจสอบพื้นที่หลังเพลิงสงบ ยืนยันว่าไฟไหม้ถังสารโซลีนไปเพียง 1 ถังเท่านั้น ไม่ได้ลุกลามไปถังที่ 2 หรือ 3 ตามที่เป็นข่าว
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand โพสต์อาลัยพนักงานของบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพยายามขึ้นไปปิดวาล์วบนถัง ปฏิบัติงานเต็มที่ ก่อนเกิดการระเบิด จนเป็นทำให้เสียชีวิต โดยระบุข้อความว่า ขอแสดงความเสียใจ และขอแสดงความไว้อาลัย แด่ผู้เสียชีวิตชื่อ นายนพพร เป็นพนักงานประจำของบริษัท ที่พยายามขึ้นไปปิดวาล์วบนถัง ก่อนเกิดการระเบิดขึ้น โดยแรงระเบิดทำให้เสียชีวิต หลังจากนั้นมีคนเข้าไปแสดงความเสียใจและแสดงความอาลัยกับการจากไปเป็นจำนวนมาก
เรื่องนี้นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุ มีพนักงานจำนวน 4 คน ขึ้นไปตรวจระดับของสารภายในถัง ไม่ใช่การขึ้นไปปิดวาล์วถัง แล้วเกิดระเบิดจนเสียชีวิต แต่ทางบริษัท ขอรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35