logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสาวร้อง ! ถูกปลัดกลั่นแกล้งว่าเสพยา | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหญิง ถูกปลัดอำเภอตรวจว่าพบสารเสพติดในปัสสาวะ ในการตรวจหาสารเสพติดประจำปี คืองงว่าใน ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

279 ครั้ง
|
10 พ.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหญิง ถูกปลัดอำเภอตรวจว่าพบสารเสพติดในปัสสาวะ ในการตรวจหาสารเสพติดประจำปี คืองงว่าในปัสสาวะเธอมีสารเสพติดได้อย่างไร เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เธอจึงเชื่อว่า เธอน่าจะถูกกัดแกล้งจากปลัดอำเภอ น่าจะเป็นการดิสเครดิตสามีเธอ ที่เป็นสมาชิกอบต.อยู่ และกำลังจะลงเลือกตั้งในสมัยหน้าอีก เรื่องนี้มีพิรุธหลายอย่าง เดี๋ยวเรามาเรียบเรียงกัน
 
นางหนูจันทร์ สุวรรณา อายุ 54 ปีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และนายคำภู สวรรณา อายุ 53 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ได้เดินทางมาจากจังหวัดมหาสารคาม เข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของตนเองด้วย ที่ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงถูกชาวบ้าน ประณามว่า ไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด
 
นางหนูจันทร์ ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ทางอำเภอพยัคฆ์ภูมิพิสัย ได้มีการเรียกผู้ใหญ่บ้านพร้อมผู้ช่วยและกำนันเข้าอบรม พร้อมทั้งตรวจหาสารเสพติดประจำปี ที่ทำการอำเภอพยัคฆ์ภูมิพิสัย โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 33 คน ซึ่งขั้นตอนการตรวจหาสารเสพติด ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมตรวจด้วย ทางปลัดให้สมาชิกทั้งหมด นำกระบอกใส่ปัสสาวะที่มีชื่อตัวเองไปใส่ปัสสาวะของแต่ละคนมาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็ให้ทุกคนเข้าห้องประชุมตามเดิม ต่อมาทางปลัดได้ประกาศชื่อว่าพบสารเสพติดในปัสสาวะของตน และได้เรียกตนเองเข้าพบ ตอนนั้นตนอายมาก คนในห้องประชุมต่างมองตนเป็นตาเดียวกัน 
 
ตนได้เข้าไปยืนยันกับท่านปลัดว่า ตนไม่มีสารเสพติดในปัสสาวะแน่นอน น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเข้าใจผิด ขอให้ตรวจใหม่อีกครั้ง ทางปลัดจึงขับรถนำปัสสาวะของตนไปตรวจด้วยตัวเอง โดยไม่ให้ตนไปด้วย
 
หลังจากนำปัสสาวะไปตรวจที่โรงพยาบาลเสร็จ ผลตรวจออกมาว่าพบสารเสพติดในปัสสาวะของตนเองอยู่ดี แต่ตนก็ยืนยันว่า ปัสสาวะดังกล่าวไม่ใช่ของตนแน่นอน  เพราะทั้งตระกูลตนเองไม่มีใครยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด ต่อมาเช้าวันรุ่งขึ้น วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ตนเองจึงเดินทางไปตรวจปัสสาวะด้วยตัวเอง ที่โรงพยาบาลเดียวกัน และหมอคนเดียวกัน กับที่ปลัดนำปัสสาวะของตนไปตรวจ ปรากฏว่าไม่พบสารเสพติด ตนจึงเอาหลักฐานชิ้นนี้ไปยืนยันกับท่านปลัด แต่ท่านปลัดกลับไม่เชื่อว่าเป็นปัสสาวะของตน และกล่าวหาว่า ข้ามวันแล้วสารเสพติดอาจออกจากร่างกายหมดแล้ว หรือ ปัสสาวะที่นำไปตรวจไม่ใช่ปัสสาวะของตน  และวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ปลัดให้ตนมาเซ็นลาออก จากตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แต่ตนไม่ยอมเซ็น
 
ต่อมาตนได้ยื่นหนังสือไปถึงนายอำเภอ ขอให้นำเส้นผมตนเองไปตรวจหาสารเสพติด ที่นิติวิทยาศาสตร์  กทม โดยวันที่ 19 มีนาคม 2567 คนได้นำเส้นผมไปตรวจด้วยตัวเอง จากนั้นวันที่ 26 มีนาคม 2567 ได้มีหนังสือแจ้งมาที่บ้านว่า ไม่มีสารเสพติดในร่างกายตนภายใน 9 เดือนย้อนหลัง ลงวันที่ 22 มีนาคม 2567 ตนเองจึงแปลกใจว่า นิติวิทยาศาสตร์ตรวจเส้นผมเสร็จตั้งแต่ 3 วันแรกที่ไปตรวจแล้ว แต่ทำไมถึงส่งผลตรวจมาให้ล่าช้า ตนเป็นอสม.มา 20 ปี ช่วยเหลือคนมาตลอด และยังเคยได้รับตำแหน่ง แม่ดีเด่น เพราะครอบครัวตนมีแต่ความรักความเมตตา ไม่เคยข้องเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ตนน่าจะถูกกลั่นแกล้ง ชนวนเหตุน่ามาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น เพราะสามีตนมีตำแหน่งเป็นอบต. และการเลือกตั้งสมัยหน้า สามีตนจะลงสมัครในตำแหน่งผู้บริหาร เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นการดิสเครดิต ทำให้ครอบครัวตนเองหมดความน่าเชื่อถือ
 
นายคำภู สวรรณา สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล สามีผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนจะเดินหน้าพิสูจน์เรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เรื่องนี้ทำให้วงตระกูลของตนเองต้องเสื่อมเสีย ตนเองเป็นคนมีหน้ามีตาในจังหวัด  มาถูกกล่าวหาแบบนี้มันไม่เป็นธรรม หลังจากตรวจพบว่าไม่มีสารเสพติดในร่างกายของภรรยาแล้ว ไม่เห็นมีใครออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย แฟนตนเองป่วยเป็นโรคความดันกับเบาหวาน พอเจอเรื่องนี้ไป ทำให้นอนไม่หลับ กินข้าวไม่ได้ ร่างกายทรุดโทรม ผมอยากให้ทางปลัดออกมารับผิดชอบ กับสิ่งที่เกิดขึ้น 
 
ทางด้านนายเอกภพ กล่าวว่า หลังผลตรวจจากนิติวิทยาศาสตร์ออกมาแล้ว แทนที่ทางปลัดจะรีบแจ้งให้ผู้ตรวจทราบ กลับส่งหนังสือล่าช้าอีก และหลังผลตรวจออกมาทางในอำเภอ ก็ยังไม่ประกาศให้คนในอำเภอว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับสารเสพติด กลับปล่อยให้เรื่องเงียบหาย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในวันนั้นที่เธอถูกตราหน้าว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ท่ามกลางเพื่อนพี่น้องผู้ใหญ่บ้านจากหมู่อื่น คุณคิดว่าเค้าจะเสื่อมเสียไหม จะอายไหม ผมอยากร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และทางอำเภอพยัคฆ์ภูมิพิสัย ทำไมต้องปล่อยให้คนที่ทำงานให้กับกระทรวงมหาดไทย ต้องเดินทางมาขอความช่วยเหลือถึงกรุงเทพ ทำไมจังหวัดมหาสารคามให้ความเป็นธรรมกับเขาไม่ได้หรือ
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง