หนุ่มสาวคู่รัก ร้อง หลังเจอโจ๊เจ้าถิ่น ขาใหญ่รามคำแหง รุมกระทืบ เพราะเข้าใจผิดว่าให้ของลับ งานนี้ตำรวจทำงานช้าไม่พอ พอร้องสื่อกลับวีนฉ่ำ !
วันที่ 8 พ.ค. 2567 อรุณกมล (ฝน) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2567 เวลา 01.43 น. ตนและแฟนหนุ่มได้พากันขับมอเตอร์ไซค์ออกไปหาของกิน ที่ ซอยรามคำแหง 39 ระหว่างทาง แฟนตนกำลังขับเลี้้ยวเข้าซอย ฝั่งคู่กรณีซึ่งกำลังจะออกซอย แฟนตนได้ขับรถฝ่าไฟแดงเข้าซอย ขับผ่านหน้าเขา พอเลี้ยวเสร็จฝั่งคู่กรณีก็บีบแตรใส่หลายครั้ง ด้วยการยอมรับผิดตนและแฟนจึงได้ยกมือทำท่าเหมือนขอโทษเขา ทว่าต่อมาฝั่งคคู่กรณีเขากลับขับรถตามมา
และเขาก็ได้ทำการหาเรื่อง กล่าวหาว่าแฟนตนไปให้ของลับเขา ตนพยายามที่จะปฏิเสธ และบอกกับเขาว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะ แฟนตนไม่ได้ไปให้ของลับกับเขา แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ไม่ยอมฟัง และได้เข้ามารุมทำร้ายแฟนตนทันที ตนพยายามจะอธิบายเท่าไหร่ เขาก็ไม่ฟัง และฝ่ายตรงข้ามก็ได้ตะโกนสวนมาว่า "ถ้ามึงไม่หยุด เดี๋ยวกูจะกระทืบมึงด้วย" และด่าหยาบคายใส่ตนด้วย รวมทั้งเขาอ้างว่าเป็นเจ้าถิ่นคุมซอยนี้ อยากสั่งสอนเด็กนอกถิ่น โดยตนเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นผู้ชายประมาณ 6 คน ผู้หญิง 1 คน
ทั้งนี้ที่เกิดเหตุกับ สน.หัวหมาก อยู่ห่างกันแค่ปประมาณ 2 กม. ซึ่งตอนเกิดเหตุตนได้โทรแจ้งตำรวจ แต่จนกลุ่มคู่กรณีออกไปแล้ว เขาก็ยังไม่มา ซึ่งพอตนโทรไปบอกตำรวจว่าพวกเขากลับไปหมดแล้ว เขากลับบอกว่า "ไปกันแล้วใช่ไหม งานเยอะนะไม่ได้ว่าง ถ้าไปแล้วก็ไปแจ้งความ" แล้วเขาก็ตัดสายทิ้ง นอกจากนั้น วันนี้(8 พ.ค. 67) ก็มีตำรวจโทรมาหาตน บอกว่า ตนไปร้องออกสื่อไปทำให้เขาเดือดร้อน เพราะถูกผู้บังคับบัญชาตำหนิ
ฟาก กิ๊ฟ รุ่นน้องของผู้ก่อเหตุ และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนไม่ได้เห็นว่าผู้เสียหายชูของลับจริงหรือไม่ แต่วันที่เกิดเหตุแฟนสาวผู้เสียหาย เป็นคนวิ่งมาขอความช่วยเหลือกับตน โดยฝั่งผู้ชายบอกกับตนว่า "เมื่อกี้ผมฝ่าไฟแดง เลยให้ของลับไป" แล้วฝั่งผู้หญิงก็แย้งว่าแค่ชูมือ ขณะเดียวกัน ฝั่งผู้ก่อเหตุเขาไม่ได้เป็นคนคุมซอย เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว นอกจากนี้ ฝั่งผู้ก่อเหตุเขาก็บอกกับตนว่าอยากคุยเจรจราหาทางออกกับผู้เสียหาย แต่ไม่สามารถติดต่อผู้เสียหายได้
ขณะที่ นิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ความเห็นว่า ความรุนแรงที่ผู้ก่อเหตุกระทำ มันไม่สมควรเกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่ว่าผู้เสียหายเขาจะชูมืออะไรก็ตาม ซึ่งจากเคสที่สายไหมต้องรอดเราได้รับเรื่องมา จะมีลักษณะนี้ค่อนข้างเยอะ โดยกลุ่มวัยรุ่นหากได้กื่มสุรา หรือเสพของมึนเมาเข้าไปจะทำให้เขากล้ามากขึ้น แต่ความรุนแรงมันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา หากวันนั้นเขามีอาวุธ คงเกิดความเสียหายมากกว่านี้ ดังนั้นต้องฝากถึงเยาวชนในเรื่องของอารมณ์ และการเสพของมึนเมา ต้องลด หรือรัฐบาลต้องมีมาตรการควบคุมป้องกันมากกว่านี้ สำหรับรูปคดี ตนได้แจ้งเรื่องไปยังผู้กำกับ สน.หัวหมากแล้ว ท่านได้รับเรื่องไว้แล้ว พร้อมกับตอนนี้ได้ติดตามผู้ก่อเหตุให้มารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว
ด้าน นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เข้าข่ายความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกาย ขณะเดียวกัน ตอนนี้ผู้กำกับสน.หัวหมาก ได้ติดตามผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องแบบนี้ต่อให้ผู้เสียหายเขาให้ของลับแต่อย่างใด คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกายคนอื่นเขา ทั้งนี้ หากผู้เสียหายกลัว ระแวงกลุ่มผู้ก่อเหตุ ตนจะช่วยประสานไปยังกระทรวงยุติธรรม ช่วยการคุ้มครองพยาน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. และทุกวันเสาร์ - วันอาทิตย์ พบกับ รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35