“พริตตี” นับร้อยสุดช้ำ ถูก “มีน ทรงเอพระราม 3” ลวงย่ำยี ฉกเงิน เบี้ยวค่าตัว !

2 พริตตีสาว เดือดร้อนหนัก ออกมาร้องถกไม่เถียง หลังถูก "มีน พระราม 3 " ปลอมเป็นโมเดลลิง ลวงจ้างเอ็นเตอร์เทน ก่อนจะฉกเงินเงียบหาย ซ้ำมีพริตตีเสียหายนับร้อย บางรายโชคร้ายถึงขั้นโดนข่มขืน !? 

 

 

            วันที่ 6  พ.ค. 2567 ทราย (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ มีน พระราม 3 ได้ปลอมตัวเป็นโมเดลลิงจัดหางาน ใช้ไลน์ติดต่อมาหาตน บอกว่า มีผู้ชายจะจ้างตนไปงานเอ็นเตอร์เทน พอตกลงกันเสร็จเรียบร้อย ลูกค้าซึ่งก็คือ มีน พระราม 3 ได้โทรมาหาตน คำแรกที่ได้คุยกัน เขาก็ชวนตนคุยเรื่องเงินเลย เขาถามตนว่าตนเตรียมเงินสดมาเท่าไหร่ โดย อ้างว่า เขาเดิมพันกับเพื่อนไว้ว่าเด็กเอ็นจะพกเงินมาเท่าไหร่ ใครทายถูกจะเป็นผู้ชนะ และได้เงิน 10,000 บาท และบอกว่าเงินก้อนนี้จะแบ่งตนด้วย 

 

            ซึ่งในตอนนั้นตนไม่ได้มีเงิน เขาก็พยายามให้ตนไปกดเงินสดเอาไว้ แต่ตนก็ไม่ได้สนใจเดินทางไปสถานที่นัดเจอลูกค้าเลย ที่เซ็นทรัลพระราม 9 พอไปถึงโมเดลลิงเขาก็ไลน์มาอีกครั้ง ดักคอไว้ก่อนเลยว่า ลูกค้าเขาจะขับมอเตอร์ไซค์มารับนะ และแต่งตัวจน ๆ ซึ่ง ตอนมีน พระราม 3 มาถึง จากนั้นเขาก็ให้ตนซ้อนมอเตอร์ไซค์ อ้างว่าจะพาไปปสถานที่จัดงาน ซึ่งนานมากกว่าจะถึง ตนก็ไม่รู้ว่าคือที่ไหน จากนั้น มีน ก็ได้ให้ตนโอนเงินให้รุ่นน้องของเขาทั้งหมดบัญชี เพื่อจะได้ให้รุ่นน้องเขาไปกดเป็นเงินสดมาให้ตนพักไว้ ซึ้งตอนนั้นตนมีเงินแค่ 1,000 บาท เลยโอนไปแค่นั้น จากนั้นก็เริ่มงานเอ็นเตอร์เทน

 

            พอจบงานตนก็นั่งมอเตอร์ไซค์ มีน พระราม 3 กลับมา แต่ระหว่างทาง มีน ได้ให้ตนลงไปซื้อน้ำที่ร้านสะดวกซื้อ แต่พอตนซื้อเสร็จออกมา เจ้าตัวกลับหายไปแล้ว ในตอนนั้นตนยังคิดว่าเขาคงแค่ไปจอดรถ แต่นานเข้าจึงไลน์หาโมเดลลิง ซึ่งตนก็ยังคิดว่าเป็นโมเดลลิงจริง จากนั้นโมเดลลิงได้ตอบกลับมาว่า นายมีน เขากำลังมารับ เขากลับไปเอารถเก๋งมารับตน เพราะไม่อยากให้ตนนั่งมอเตอร์ไซค์หัวฟู แต่จากวันนั้นจนวันนี้เขาก็ยังไม่ได้มารับเลย อีกทั้งตนได้เรียกแท็กซี่ และได้ถามเขาว่าที่ที่เขารับตน คือที่ไหน ซึ่งมันคือแถวดาวคะนอง พอจบเรื่องตนจึงได้เอาเรื่องราวไปโพสต์ลงกลุ่มเฟซบุ๊ก ถึงได้รู้ว่าเป็น นาย มีน พระราม 3 และมีคนเจอชะตาเดียวกับตนเยอะมาก 

 

 

            ฟาก จอย (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าต่อว่า ในกรณีของตน นายมีน พระราม 3 ก็ปลอมไลน์เป็นโมเดลลิง มาติดต่อตนโดยใช้รูปผู้หญิงเป็นโปรไฟล์ และเรียกตนว่าลูกสาว เอาลูกงานเอ็นเตอร์เทนมาให้ พร้อมกำชับว่าให้ดูแลลูกค้าคนนี้ให้ดี เพราะเขาเพิ่งได้เงินพนันมา 600,000 บาท และบอกกับตนอีกว่า เขาจะพาตนไปเล่นพนันก่อน และอยากให้ตนพกเงินสดไปให้ได้มากที่สุด ซึ่งตนก็มีอยู่ 10,000 บาท จึงพกไป ซึ่งตนไว้ใจเพราะงานนี้มีโมเดลลิงด้วย จากนั้นเขาก็ให้ตนไปรอที่ เทอมินอล 21 พระราม 3 

 

            ทว่าพอนาย มีน มารับ จากตอนแรกตนคิดว่าเขาจะมารถยนต์ แต่สภาพเขาคือแว๊นมอเตอร์ไซค์มารับเลย อ้างว่า ต้องมาเก็บเงินหนี้ลูกหนี้ จึงขับมอเตอร์ไซค์มา สะดวกกว่า สุดท้ายเขาพาตนไปที่ม่านรูด แถมยังมาขอให้ตนจ่ายค่าห้องให้อีกด้วย จากนั้นพอเข้าไปในห้องนั่งรออยู่สักพักหนึ่ง ตนก็ไปเข้าห้องน้ำ พอออกมาเขาก็อ้างว่าเมียเขาโทรตาม แล้วลุกลี้ลุกลนรีบออกไปเลย สักพักหนึ่งตนเริ่มเอะใจ เปิดกระเป๋าเงินดูก็พบว่าไม่เหลือสักบาทแล้ว ตนเจ็บใจมากเพราะเงินดังกล่าว ตนตั้งใจจะเอาไว้ซื้อนมให้ลูก ตนหาเงินมา 4-5 วัน มันเอาไปหมดเลย แถมตนยังเลี้ยงลูกคนเดียว ตนเหนื่อยมาก และพอตนโพสต์ประจาน มันกลับโอนเงินมาคืน 3,000 บาท และบอกให้เรื่องจบ 

 

 

            เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก จากที่ตนได้ดูหลักฐานจากในกลุ่ม เพราะนอกจาก 2 คนที่มาร้องกับรายการ ยังมีผู้เสียหายอีกกว่าเป็น 100 ราย บางรายโดนขโมยทรัพย์สิน บางรายโดนขโมยเงิน และที่หนักสุดคือ บางรายโดนล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งตนมองว่ามันเป็นภัยสังคมมาก ทั้งนี้ นาย มีน พระราม 3 ก่อเหตุมาแล้วกว่า 3 ปี แล้วมักก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ ตนจึงนึกถึงท่านผู้การจ๋อ และได้ประสานเรื่องไปถึงท่านแล้ว 

 

            อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่เป็นพริตตี อยากให้ออกมาแจ้งความ เพื่อเอาผิด มีน พระราม 3 ให้หนัก หรือถ้าไม่กล้าออกมาแจ้งความจริง ๆ ให้ติดต่อมายังเพจสายไหมต้องรอด เรามีทีมงานผู้หญิงที่จะช่วยประสานงานต่อให้ 

 

 

            ฟาก สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยว่า สำหรับนาย มีน พระราม 3 มีพฤติกรรมการหลอกลวงโดยใช้ไลน์เป็นหลัก ดังนั้นจะเป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 วรรคท้าย โทษไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท และเป็นยังมีความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท นอกจากนี้แล้วยังมีกากลักทรัพย์เวลากลางคืนอีก จะมีโทษจำคุก 1-5 ปี  และปรับตั้งแต่ 20,000 - 100,000 บาท ที่สำคัญเหยื่อบางรายถูกล่วงละเมิดทางเพศ ก็เข้าฐานความผิดตามมาตรา 276 โทษจำคุกตตั้งแต่ 4 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 80,000 - 400,000 บาท 

 

            ด้าน พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เผยว่า สำหรับเคสนี้ ตนได้ทราบเรื่องราวแล้ว ถือว่าเป็นภัยร้ายของผู้หญิงที่ทำงานพริตตีกลางคืนเลย ซึ่งตนได้ทำการจัดตั้งทีมเพื่อสืบสวนเรื่องนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้น้อง ๆ ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพื่อเอาเรื่องนาย มีน พระราม 3 ให้ถึงที่สุด และถ้าหากใครกลัว ให้ติดต่อมาที่เพจ "สืบนครบาล IDMB" ทางเราจะเก็บเรื่องราวไว้เป็นความลับ และเร่งรัดคดีให้ ยืนยันว่าจะทำเคสนี้เต็มที่สุดชีวิต รับปากต่อหน้าคุณทิน และน้องผู้เสียหาย