จับเพิ่มอีก 1 แก๊งอุ้มรีด 1 แสนบาท เจ้าตัวยันในแก๊งไม่มีใครเป็นตำรวจ | ถกไม่เท

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้เสียหายมาออกรายการ ถกไม่เถียง Weekend กรณีถูกชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างว่าเป็นตำรวจกองปราบ เข้าค้นบ้านพักย่านสายไหม แต่ไม่พบของผิดกฏหมาย จากนั้นได้พาผู้เสียหายขึ้นรถไปบังคับรีดเงินจำนวน 100,000 แต่ผู้เสียหายไม่มีให้ กลุ่มชายฉกรรจ์จึงค้นตัว เอาเงินในตัวไป 5,000 บาท จากนั้นนำผู้เสียหายไปปล่อยลงที่ซอยรามอินทรา 46 แล้วแยกย้ายหลบหนี วันที่มาออกรายการ ตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายได้แล้ว 1 คน วันนี้มีความคืบหน้าในคดีนี้

 

หลังจากออกรายการไปได้ 2 วัน ล่าสุดเมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม สามารถกดดันจนผู้ต้องหาอีกรายติดต่อขอมอบตัว เท่ากับว่าตอนนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย ยังเหลืออีก 2 ราย คาดว่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้

 

โดยรายแรกตำรวจจับกุม นายมานะ อายุ 58 ปี โดยจับกุมได้ย่านลาดพร้าว เมื่อเวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา ประมาณ 14.00 น. ผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับค้างเก่าของศาลจังหวัดนนทบุรี อีก 1 หมาย ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานฯ เบื้องต้นนายมานะให้การว่า ได้ร่วมกับพวกก่อเหตุจริง มีการเจรจาเรื่องเงินจริง แต่ไม่ได้มีการนำเงินของผู้เสียหายไป ส่วนยาเสพเสพติดที่ผู้เสียหายระบุว่าถูกยัดนั้น มี เค แฮปปี้ และไอซ์ ซึ่งไม่ทราบจำนวน ยืนยันว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของผู้เสียหายที่ค้นเจอในห้องพักชั้น 2 และหลังเกิดเหตุได้นำโรยทิ้งตามทางไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องการอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ตนเองยืนยันว่าไม่ได้พูด แต่ผู้เสียหายเป็นคนพูดว่า ตนมาจากกองปราบหรอ เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ปล่อยเลยตามเลย ไม่ได้ปฏิเสธ ยืนยันตนและผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดไม่ได้เป็นตำรวจกองปราบหรือรับราชการตำรวจแต่อย่างใด

 

ผู้ต้องหารายที่ 2 ที่จับได้ล่าสุดเมื่อคืนนี้ คือ นายวีรยุทธ อายุ 48 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม กดดันอย่างหนัก จึงติดต่อขอมอบตัว ผู้ต้องหารายนี้ได้มีหมายจับค้างเก่าจากศาลจังหวัดนนทบุรีเช่นกัน โดยตำรวจใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 4 ชั่วโมง เบื้องต้นนายวีรยุทธ ให้การยอมรับว่า ได้ไปบ้านผู้เสียหายจริง ซึ่งเพื่อนโทรตาม และเข้าไปทีหลัง เข้าไปทวงเงินไม่ได้เป็นการกรรโชกทรัพย์

 

ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายอ้างว่า กลุ่มตนมีการโทรหาผู้กองนั้น ตนยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นตำรวจ แต่กลุ่มเพื่อนชอบเรียกผู้กอง ส่วนสาเหตุไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ซึ่งได้ให้การกับตำรวจไว้หมดแล้ว ยืนยันวันนั้นพบยาในห้องผู้เสียหายจริง และที่ต้องพาออกมาข้างนอก เพราะได้ตกลงกันเรื่องเงินที่เขาเอาไป ซึ่งผู้เสียหายบอกจะพาออกมาเอาเงิน ตนก็ขับรถแยกกลับก่อน ส่วนเรื่องเงิน 5,000 ตนเองไม่รู้เรื่อง เงินที่บอกจะออกมาเอาก็ไม่ได้

 

ต่อมา นายวีรยุทธ ได้ยืนขอประกันตัวไปในวงเงิน 100,000 บาท ซึ่งภายหลังได้รับการประกันตัว ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางศรีเมือง นำหมายจับในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจนั้น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย มาแสดงพร้อมควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.บางศรีเมือง ต่อทันที

 

ส่วนแนวทางการสืบสวนของตำรวจ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี ทราบว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวมีการใช้รถยนต์เก๋ง โตโยต้า ยารีส สีขาว เข้ามาก่อเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า มีการนำป้ายทะเบียนรถยนต์คันอื่นมาสวม และยังมีรถยนต์เก๋งฮ้อนด้า ซีวิค และรถจักรยานยนต์ มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมก่อเหตุจึงทำการสวบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดจนสามารถออกหมายจับได้ยกแก๊ง รวม 4 คนแล้ว