เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีผู้บริหารหญิงขับรถหรู เมาแล้วขับ ใช้เท้าถีบหน้ารองผู้กำกับการตำรวจจราจร ในรถตำรวจ ถูกเผยแพร่อีกครั้งเมื่อคืนวานนี้ เหมือนจะเป็นการตอบโต้ที่ผู้บริหารหญิงรายนี้ ไปออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง แล้วอ้างว่าเธอไม่ได้ตั้งใจถีบ แต่เท้าไปโดนคู่กรณีแบบไม่ตั้งใจ
จากคลิปนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถาม พันตำรวจโท ดาราธร ขจรศิลป์ รองผู้กำกับการตำรวจจราจร คนที่ถูกถีบหน้าในคลิป ซึ่งรองผู้กำกับจราจรบอกว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิปตั้งแต่เกิดเหตุ รวมถึงคลิปล่าสุด เพราะต้องการนำคลิปเหล่านี้เป็นหลักฐานในชั้นศาล จึงมอบให้พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ไป และไม่อยากให้ค่ากับคนเมาแล้วขับ และพยายามพูดเพื่อเอาตัวรอดในรายการโทรทัศน์ จึงขอไม่ให้สัมภาษณ์เพื่อตอบโต้ผู้บริหารหญิงรายนี้ เพราะต่อไปผู้ต้องหารายอื่นจะเอาอย่าง แต่ก็พร้อมเล่าให้ฟังถึงมุมต่าง ๆ ที่ถูกกล่าวหาพาดพิง
พันตำรวจโท ดาราธร เล่าเหตุการณ์ในรถว่า พอผู้บริหารหญิงยกเท้าถีบ ก็ใช้มือจับขาลงเพื่อให้หยุด เป็นปฏิกิริยาโต้กลับของตำรวจอยู่แล้ว ไม่ให้ถีบต่อ ส่วนคลิปที่ถ่ายไว้ เป็นบอดีแคมของลูกน้อง ซึ่งตนบอกให้ลูกน้องหันกล้องมาบันทึกไว้ตลอด เนื่องจากผู้บริหารหญิงรายนี้ขู่ว่า ฉันจะเอาผิดพวกเธอ
ส่วนที่อดีตผู้บริหารหญิง อ้างว่า หลังเป่าแอลกอฮอล์เสร็จ ตำรวจชี้ให้เดินไปหาผู้ชาย 2 คน ที่ไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ และยืนอยู่ตรงรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ รองผู้กำกับการจราจรโต้ว่า จุดนั้นตนยืนอยู่หน้าด่าน มีตำรวจประมาณ 10 นาย แต่งเครื่องแบบทุกนาย ไม่มีนอกเครื่องแบบ และไม่มีรถจักรยานยนต์จอดอยู่
ซึ่งเหตุการณ์นั้น หลังตรวจพบแอลกอฮอล์เกิน ตำรวจก็เชิญให้ไปพบตำรวจที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่เกิน 10 เมตร เพื่ออธิบายให้รู้ขั้นตอน ข้อกฎหมาย และการถูกดำเนินคดี
และที่อดีตผู้บริหารหญิงอ้างว่า ตำรวจไม่ตอบว่ารถจักรยานยนต์คืออะไร ตรงจุดนี้ อดีตผู้บริหารหญิงถามมา 10 รอบ ตนตอบไป 3 รอบ ว่า รถจักรยานยนต์ที่ว่าคืออะไร และที่บอกว่าที่พูดในคลิป พยายามจะเคลียร์ข้อสงสัยเรื่องรถจักรยานยนต์ แต่จริง ๆ หากดูคลิปให้ดี จะเห็นว่าพฤติการณ์เขาพยายามจะเคลียร์เรื่องเมาขับ ไม่ใช่เรื่องรถจักรยานยนต์
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ผู้บริหารหญิงบอกว่าได้โทรศัพท์ขอโทษแล้ว แต่ยังเป็นข่าว รองผู้กำกับการจราจรตอบว่า โทรมาจริง วันที่ตนแถลงข่าวเสร็จ โดยโทรมาพูดว่า พี่เอง พี่คนในข่าว พี่ขอโทษนะ คุยสั้น ๆ แค่นี้ ซึ่งตนบอกไปว่าเรื่องส่วนตัวไม่มีอะไร ส่วนเรื่องคดีพี่ก็ว่าไป โดยยืนยันอีกครั้งว่า ตนไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิปทั้งหมดไปให้นักข่าว
ซึ่งในคลิประหว่างอยู่ในรถ ผู้บริหารหญิงโต้เถียงตำรวจ เรื่องเกณฑ์การตรวจวัดแอลกอฮอล์ของไทยกับต่างประเทศ โดยผู้บริหารหญิงบอกว่า ต่างประเทศ เขาเอาแค่ 50 ที่ไหน เหมือนพยายามจะโต้เถียงว่า ในต่างประเทศ ตั้งเกณฑ์ปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่าไทย แต่เมื่อตำรวจถามกลับมา ต่างประเทศเท่าไร ประเทศอะไรว่ามาเลย แต่ผู้บริหารหญิงซึ่งตอนแรกบอกว่ารู้ แต่ไม่ตอบ กลับบอกว่า พูดไปก็ไม่รู้เรื่อง
ล่าสุดเพจดัง Drama-addict ได้โพสต์เรื่องนี้ หาคำตอบมาให้ว่า เกณฑ์ตัดแอลกอฮอล์แต่ละประเทศเท่าไร
อังกฤษ ใช้ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
อเมริกา 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
เกาหลีใต้ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เหมือนไทย เช่นเดียวกับญี่ปุ่นและอิตาลี
สิงคโปร์ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ส่วน เวียดนาม 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ คือ ตรวจเจอก็ผิดแล้ว
และแต่ละประเทศก็จะมีบทลงโทษแตกต่างกันไป เช่น ปรับเงิน โทษอาญา จำคุก หากเป็นออสเตรเลียจะโหดหน่อย คือ ประจานลงหน้าหนังสือพิมพ์ ทางเพจ Drama-addict ยังแนบลิงก์งานวิจัย เปรียบเทียบคดีเมาแล้วขับของประเทศต่าง ๆ สำหรับของไทย แม้ตั้งเกณฑ์ตรวจแอลกอฮฮล์ที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะเห็นว่า ค่าปรับต่ำสุดคือ 5,000 บาท สูงสุดคือ 20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือน แต่ประเทศสิงคโปร์ ที่ตัดเกณฑ์ที่ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่โทษปรับต่ำสุด 25,000 บาท สูงสุดคือ 750,000 บาท แถมโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
ขอบคุณภาพจาก : Facebook ดาวแปดแฉก, Drama-addict
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35