เช้านี้ที่หมอชิต - มือปืนบุกจ่อยิงหัวเจ้าของค่ายมวย เสี่ยดำช่องจอม ดับคารถตู้ หลังนำนักมวยมาชกในงานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสวัดหนองเต็ง จังหวัดบุรีรัมย์ ภรรยาและลูกชายยืนยันผู้เสียชีวิตไม่เคยมีปัญหากับใคร ล่าสุด ตำรวจได้ข้อมูลผู้เสียชีวิตน่าจะรู้มีคนปองร้าย จึงให้ตำรวจนายหนึ่งมาคอยคุ้มกัน
ตำรวจ สภ.กระสัง เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ห่างจากเวทีมวย 100 เมตร ภายในวัดหนองเต็ง ตำบลหนองเต็ง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ หลังเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนบุกจ่อยิงระยะเผาขน นายเปลี่ยนวิถี ต้องถือดี หรือ เสี่ยดำ ช่องจอม อายุ 56 ปี เจ้าของค่ายมวยที่จังหวัดสุรินทร์ กระสุนเจาะท้ายทอยและศีรษะ 2 นัด เสียชีวิตคารถตู้ หลังนำมวยมาชก 2 คู่ ในงานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสวัดหนองเต็ง จังหวัดบุรีรัมย์ เหตุเกิดเวลา 04.00 น. ของวันที่ 22 เมษายน จากการตรวจสอบพบบริเวณกระจกหน้ารถ มีร่องรอยกระสุนกระทบใส่แตก 1 จุด คาดว่าน่าจะเป็กระสุนที่ยิงพลาด
ลูกชายเสี่ยดำ เล่านาทีพ่อถูกยิงว่า ประมาณ 04.00 น พ่อพาตนไปนอนพักที่รถตู้ โดยพ่อนอนที่เบาะนั่งข้างคนขับ ส่วนตนขึ้นไปนั่งในห้องโดยสาร ยังไม่ทันปิดประตู เจอคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสีเขียว สวมหมวก เดินมาแง้มประตูรถฝั่งที่พ่อนอน แล้วใช้ปืนจ่อยิงพ่อต่อหน้า 2 นัด ก่อนเดินไปยิงใส่หน้ารถ 1 นัด ตอนนั้นตนตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก กระทั่งมีคนวิ่งมาดูกัน ส่วนสาเหตุไม่ทราบ แต่ยืนยันพ่อไม่ได้มีเรื่องกับใครในงาน
ขณะที่ นางนิตยา ต้องถือดี อายุ 46 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า สามีไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ทำมาหากินธรรมดา ขายน้ำดื่มและให้บริการห้องน้ำในตลาดช่องจอม ธุรกิจไม่ได้ใหญ่โต
ด้าน นายนรา ปราบรัมย์ อายุ 47 ปี โปรโมเตอร์มวยที่จัดการแข่งขันชกมวย บอกว่า ผู้เสียชีวิต นำมวยมาชก 2 คู่ ชกตั้งแต่เวลา 22.00 น. การจัดการแข่งขันก็เดินไปตามปกติ ไม่ได้มีเหตุทะเลาะอะไร ตนยืนยันสาเหตุฆาตรกรรมไม่เกี่ยวกับวงการมวยแน่นอน ส่วนตัวรู้จักกับผู้เสียชีวิตมา 6-7 ปี ที่บ้านผู้เสียชีวิตเปิดเป็นค่ายมวย ลูกชายและลูกสาวเป็นนักมวยทั้งคู่ ส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ที่ด่านช่องจอมชาย จังหวัดสุรินทร์
พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่จะไม่ทิ้งทุกประเด็นรวมถึงวงการมวยด้วย กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ลงพื้นที่หาข้อมูลในเชิงลึก และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะคลี่คลายในไม่ช้า
มีรายงานข่าวว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะรู้ตัวว่าอาจถูกปองร้าย เพราะมีตำรวจยศร้อยเอก ตามมาคอยคุ้มกันแต่ตอนเกิดเหตุ ตำรวจที่คุ้มกันยืนอยู่ท้ายรถ จึงไม่เห็นคนร้ายที่แอบซุ่มอยู่หน้ารถ ซึ่งคนร้ายก่อเหตุไวมาก ใช้ปืนขนาด .38 มาก่อเหตุ และก่อนหนียังหันมายิงใส่รถตู้ของผู้เสียชีวิตอีก 1 นัด
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม