“บิ๊กโจ๊ก” ค้านการทำงาน “ป.ป.ช.” ยื่นเอาผิดซ้ำ “เศรษฐา” | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - บิ๊กโจ๊ก ปรากฏตัวต่อสื่อครั้งแรก หลังถูกให้ออกจากราชการ บุกเอาคืน ยื่นเรื่องถึง ป.ป.ช. กล่าวหา นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แย้มยังมีอีกหลายเรื่องที่จะกล่าวหานายกฯ อีกทั้งยื่นกล่าวหาหัวหน้าพนักงานสอบสวน คณะพนักงานสอบสวน ทั้งหมด ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีอำนาจ

 

เอกสารหลุด บิ๊กโจ๊ก ค้านการทำหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช. บางคน

 

หลังจากเมื่อวานนี้ มีเอกสารหลุด ถูกระบุว่าเป็นเอกสารที่ บิ๊กโจ๊ก พลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช. บางคน ชื่อย่อ ส. และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื้อหาโดยสรุปอ้างว่า ก่อนที่ นาย ส. จะได้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ได้ขอให้ บิ๊กโจ๊ก พาเข้าพบ นายพล ป. เพื่อให้การสนับสนุน จนได้รับเลือกเป็นกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อปี 2563 แต่ต่อมา นาย ส. ถูกร้องเรียนจากที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. ที่ บิ๊กโจ๊ก เคยพาไปแนะนำให้รู้จัก จึงให้ บิ๊กโจ๊ก ช่วยไปหยุดการร้องเรียนนั้น แต่ไม่สำเร็จ ทำให้โกรธแค้น พร้อมขู่ว่า พี่โจ๊ก อย่ามีเรื่องมาพึ่งผมบ้างก็แล้วกัน รวมทั้งคำขู่ต่อมาอีกประโยคว่า อย่าให้มีเรื่องกล่าวหาพี่มาถึงผมนะ ผมฟันไม่เลี้ยง

 

เลขาฯ ป.ป.ช. ยันเอกสาร บิ๊กโจ๊ก ไม่ได้หลุดจาก ป.ป.ช.

 

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ได้รับหนังสือมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีเรื่องคัดค้านเรื่องใดบ้าง และดูข้อกฎหมาย

 

ส่วนจะสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช. คนดังกล่าวหรือไม่ ต้องรับฟังเหตุผลทั้งสองฝ่าย และจะต้องถอนตัวออกจากการพิจารณาคดีของ พลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ หรือไม่ ต้องดูข้อเท็จจริงตามคำร้อง

 

ส่วนที่มีการระบุพยาน 2 คน ซึ่งรวมถึงชื่อของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อยู่ในเอกสารนั้น เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวว่า ต้องไปดูว่า พลเอกประวิตร เป็นพยานในเรื่องอะไร ตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่มีการไต่สวน

 

หลังได้รับหนังสือร้องเรียนจาก พลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ ยังไม่ได้พูดคุยกับคณะกรรมการกรรม ป.ป.ช. รายดังกล่าว ส่วนกรณีเอกสารที่หลุดออกมานั้น เลขาฯ ป.ป.ช. ระบุว่า ตัวเขาเอาไปให้ผู้สื่อข่าวเองหรือเปล่า ไม่ใช่ ป.ป.ช. แน่ ๆ ผมไม่รู้นะอันนี้

 

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีคณะพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ทำคดีเว็บพนัน BNK Master ส่งสำนวนคดีที่มีการกล่าวหา พลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ มาให้ ป.ป.ช. พิจารณาเมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายน นายนิวัติไชย กล่าวว่า ต้องไปพิจารณาดูในสำนวน เพราะการกระทำมีหลายกรรม ต้องไปดูว่าเรื่องนี้เป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเป็นเรื่องเกี่ยวกับความผิดต่อหน้าที่ หรือเป็นเรื่องการทุจริตหรือไม่ หรือมีประเด็นเรื่องการเรียกรับเงินหรือไม่ จึงต้องขอเวลาพิจารณาก่อน ส่วนรายละเอียดในสำนวนมีข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินนั้น ต้องรับไว้ดำเนินการเอง หรือส่งสำนวนกลับไปให้ตำรวจดำเนินการนั้น ก็คงต้องดูอีกทีหนึ่ง และขอดูก่อนว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. หรือไม่

 

บิ๊กโจ๊ก ยื่น ป.ป.ช. เอาผิดนายกฯ-คณะพนักงานสอบสวน

 

ส่วน บิ๊กโจ๊ก วันนี้ เดินทางไปยื่นเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษที่ ป.ป.ช. โดยหลังจากยื่นเอกสารเสร็จ บิ๊กโจ๊ก ให้สัมภาษณ์ พร้อมกับกางชาร์ตอธิบายรายละเอียดประกอบ

 

บิ๊กโจ๊ก เปิดเผยว่า ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. 3 เรื่อง คือ 1. กล่าวหานายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 2. ร้องทุกข์การสอบสวนเป็นไปโดยมิชอบ ไม่มีอำนาจ และ 3. กล่าวหาหัวหน้าพนักงานสอบสวน คณะพนักงานสอบสวนกรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

 

โดยในส่วนการกล่าวหานายกฯ นั้น มีเรื่องเก่าที่นายกฯ เคยแต่งตั้ง บิ๊กต่อ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องนี้ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เคยยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ไต่สวนเอาผิดไว้แล้ว ตนมายื่นซ้ำอีกครั้ง อีกเรื่องคือกรณีนายกฯ ส่งตัวกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งที่ยังสอบสวนไม่เสร็จ จนนำมาสู่การถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยอีก 3-4 วัน จะกล่าวหานายกฯ อีก

 

ในส่วนของ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (บิ๊กต่าย) อีก 2-3 วัน จะมากล่าวหา พร้อมกับยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบด้วย

 

ส่วนที่ร้องทุกข์การสอบสวนเป็นไปโดยมิชอบ และกล่าวหาหัวหน้าพนักงานสอบสวน คณะพนักงานสอบสวนกรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น บิ๊กโจ๊ก อธิบายประกอบชาร์ตที่ทำมาด้วย เพื่อให้เห็นว่า พนักงานสอบสวนของตำรวจ ไม่มีอำนาจทำคดี ตั้งแต่คดีลูกน้อง 8 คน ที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวพันกับเว็บพนันมินนี่ มาจนถึงคดีเว็บพนัน BNK Master ซึ่งพนักงานสอบสวนทำได้แค่เป็นคนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น แล้วต้องส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน

 

อีกทั้งในคดีมินนี่ และคดี BNK Master พนักงานสอบสวนเห็นเส้นเงินของลูกน้องตน คือ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ไปหมดแล้ว แต่กลับทยอยแยกสำนวนทำ แบ่งเป็น 2 คดี เพื่อจะเก็บสำนวนคดีไว้ทำเอง ไม่ยอมส่งให้ ป.ป.ช. ไปพร้อมกัน ทั้งที่ถ้าเป็นการทำผิดมาตรา 157 ก็ต้องส่งให้ ป.ป.ช.

 

และเมื่อคดีแรกเว็บพนันมินนี่ ป.ป.ช. รับคดีไว้ทำเองเมื่อ 2 ธันวาคม พนักงานสอบสวน ก็ตั้งคดีใหม่ที่ สน.เตาปูน ทันที ในวันที่ 3 ธันวาคม เพื่อเอาผิดตนให้ได้ในคดีฟอกเงินเว็บพนัน BNK Master โดยอาศัยพยานหลักฐานจากคดีเดิม โดยการแจ้งข้อหาแค่ฟอกเงิน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องส่ง ป.ป.ช. แต่กำลังเข้าใจผิด เพราะคดีอะไรก็ตามที่มาจากคดีเดิมจะแบ่งแยกคดีไม่ได้ ต้องส่ง ป.ป.ช.

 

บิ๊กโจ๊ก กล่าวด้วยว่า เมื่อตนถูกย้ายไปช่วยราชการสำนักนายกฯ และถูกตั้งกรรมการสอบสวนภายใน 60 วัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้น หลังตนถูกออกหมายจับ และไปมอบตัว พนักงานสอบสวนไม่ส่งสำนวนไป ป.ป.ช. รอจนมีคำสั่งให้ตนออกจากราชการ วันที่ 18 เมษายน พอวันที่ 19 เมษายน พนักงานสอบสวนจึงส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. เป็นการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน แบ่งงานกันทำ พนักงานสอบสวนของตำรวจไม่มีอำนาจทำคดีนี้ แต่เก็บสำนวนคดีไว้นาน 4 เดือน เกิน 30 วัน ตามกฎหมาย ป.ป.ช. ดังนั้น พยานหลักฐานที่ได้เป็นพยานหลักฐานโดยมิชอบ

 

บิ๊กโจ๊ก ยังอธิบายถึงคดีฟอกเงินด้วยว่า ถ้าความผิดมูลค่าสูงตั้งแต่ 300 ล้านบาท ขึ้นไป คดีจะเป็นอำนาจของ DSI แต่ DSI เคยทำหนังสือถาม สน.เตาปูน กลับบอกว่า คดีนี้ไม่เกิน 300 ล้านบาท ทั้งที่ตอนลงบันทึกประจำวันรับคดี ระบุไว้ว่ามีเงินหมุนเวียน 400 ล้านบาท แต่เป็นการเก็บคดีไว้เอง ไม่ยอมส่งให้ ดีเอสไอ เพื่อเอาผิดตนให้ได้

 

วันนอร์ แนะ บิ๊กโจ๊ก ยื่นศาลฎีกาสอบกรรมการ ป.ป.ช.

 

ในเรื่องเอกสารหลุดของ บิ๊กโจ๊ก นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ตามประมวลจริยธรรม และการตรวจสอบกรรมการ ป.ป.ช. หากกรรมการ ป.ป.ช. กระทำความผิดเอง ผู้ร้องสามารถร้องไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้โดยตรงด้วยตนเอง และศาลฎีกาฯ ก็จะตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมาตรวจสอบเรื่องร้องเรียนโดยตรง

 

ในส่วนของรัฐสภา จะมีการตรวจสอบกระบวนการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. คนดังกล่าวย้อนหลังด้วยหรือไม่นั้น เนื่องจากในเอกสารของ บิ๊กโจ๊ก มีการอ้างถึงการวิ่งเต้นของกรรมการ ป.ป.ช. คนดังกล่าว เพื่อให้ได้รับการคัดสรรด้วยนั้นว่ายังไม่มีการตรวจสอบ แต่ในกระบวนการมีคณะกรรมการสรรหา 7 คน ทำหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว และเมื่อตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จสิ้น ก็ต้องส่งให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบด้วยอีกขั้นตอนหนึ่ง