ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้ปืน.38 จ่อยิงหัว ดำช่องจอม เสี่ยเจ้าของค่ายมวย จังหวัดสุรินทร์ เสียชีวิต ขณะไปนอนพักอยู่บนรถตู้ คาดผู้ตายรู้ตัวว่าถูกจะปองร้าย เพราะผู้ตายมีตำรวจมาคอยคุ้มกันด้วย ตอนนี้ตำรวจเร่งหาสาเหตุ คาดว่าน่าจะจับคนร้ายได้เร็วนี้
เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงอยู่ในรถตู้บริเวณการจัดงานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสวัดหนองเต็ง ตำบลหนองเต็ง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์
ที่เกิดเหตุพบรถตู้ยี่ห้อฮุนได สีเทา เป็นรถมาจากประเทศกัมพูชา ภายในรถฝั่งคนขับ จอดห่างจากเวทีมวยประมาณ 100 เมตร พบศพชายทราบชื่อต่อมา นายเปลี่ยนวิถี ต้องถือดี หรือเสี่ยดำ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 13 ตำบลโชคนาสาม อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เป็นเจ้าของค่ายมวยอยู่ที่ จังหวัดสุรินทร์ ถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบขนาดบริเวณท้ายทอยและศีรษะจำนวน 2 นัด เสียชีวิตในลักษณะเอนเบาะนอน
บริเวณกระจกหน้ารถมีร่องรอยของกระสุนกระทบใส่แตก 1 จุด คาดว่าเป็นกระสุนที่ยิงพลาดไปโดนกระจก ตรวจสอบภายในรถไม่พบสิ่งผิดปกติ ส่วนเวทีมวยที่มีการจัดแข่งขันตั้งแต่ค่ำ รวมถึงมหอรสพอื่น ๆ ที่ทางวัดจัดขึ้น ได้เลิกไปหมดแล้ว
สอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนจอดรถอยู่ติดกับรถผู้ตาย เวลาประมาณ 02.00 น. ตนกลับเข้ามานอนพักอยู่ในรถ และเวลาประมาณ 04.00 น.ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัดจึงสะดุ้งตื่นมา พบมีคนกำลังแตกตื่นกัน แต่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงสอบถามเพื่อนที่เห็นช่วงคนร้ายมายิง ทราบว่า คนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม สวมหมวก เดินเข้ามาที่รถของผู้ตาย แล้วเปิดประตูรถก่อนจะกระหน่ำยิง 3 นัดซ้อน
ด้าน นายนรา ปราบรัมย์ อายุ 47 ปี โปรโมเตอร์มวยที่จัดการแข่งขันภายในงาน เล่าว่า ผู้เสียชีวิต นำมวยมาชก 2 คู่ ชกตั้งแต่เวลา 22.00 น. การจัดการแข่งขันก็เดินไปตามปกติ ไม่มีเรื่องกันระหว่างการแข่งขันชกมวย และยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับวงการมวยอย่างแน่นอน ส่วนตัวรู้จักกับผู้ตายเมื่อประมาณ 6-7 ปี ที่บ้านเปิดเป็นค่ายมวย ลูกชายและลูกสาวของผู้ตาย เป็นนักมวยทั้ง 2 คน ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ที่ด่านช่องจอมชายแดนไทยประเทศกัมพูชา ฝั่งจังหวัดสุรินทร์ เหตุการณ์ครั้งนี้ยอมว่าไม่ทราบถึงสาเหตุเพราะงานดำเนินไปด้วยดีตลอดทั้งคืน
ล่าสุด ลูกชายเสี่ยดำ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนพานักมวย 2 คนมาชกที่ อำเภอกระสัง ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 04.00 น. พ่อพาตนจะไปนอนพักที่รถตู้ พ่อเดินนำหน้ามา ส่วนตนเดินตามหลังพ่อ เมื่อมาถึงที่รถ พ่อได้เปิดประตูหน้าด้านซ้ายขึ้นไปเอนเบาะนอน ส่วนตนเลือนประตูหลังขึ้นฝั่งเดียวกับพ่อ พอตนขึ้นไปนั่งในรถ ยังไม่ทันได้ปิดประตู ทันใดนั้นได้มีคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อแขนยาว สีเขียว สวมหมวก เดินมาแง้มประตูรถด้านหน้าซ้ายที่พ่อนอนอยู่ แล้วใช้ปืนจ่อยิงพ่อต่อหน้าตน 2 นัด แล้วเดินไปทางหน้ารถ แล้วยิงใส่หน้ารถมาอีก 1 นัด ตอนนั้นตนตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก กระทั่งมีคนวิ่งมาดูกัน ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบแต่ไม่ได้มีเรื่องกับใครในงาน
ทางด้าน นางนิตยา ต้องถือดี อายุ 46 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า สามีไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ทำมาหากินธรรมดา ขายน้ำดื่มในตลาดช่องจอม ทำห้องน้ำให้บริการในตลาดช่องจอม และเป็นผู้จัดการดูแลให้กับเจ้านายในตลาดช่องจอม ไม่ได้มีธุรกิจใหญ่โต ที่สำคัญสามีเป็นคนที่รักของทุกคน ส่วนรถตู้ของประเทศกัมพูชาที่สามีขับมา มีเพื่อนเอามาจำนำไว้
ด้าน พลตำรวจตรี รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่จะไม่ทิ้งทุกประเด็นรวมถึงวงการมวยด้วย ตอนนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ลงพื้นที่หาข้อมูลในเชิงลึก และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะคลี่คลายในไม่ช้า
มีรายงานข่าวว่า ผู้ตายน่าจะรู้ตัวแล้วว่าจะถูกปองร้าย เพราะผู้ตามมีตำรวจยศร้อยตำรวจเอกมาคอยคุ้มกันด้วย แต่ตอนเกิดเหตุ ตำรวจที่คุ้มกันได้ยืนอยู่บริเวณท้ายรถ จึงไม่เห็นคนร้าย เพราะคนร้ายแอบซุ่มอยู่หน้ารถ คนร้ายก่อเหตุไวมาก ก่อนหนียังหันมายิงใส่รถอีก 1 นัด คนร้ายใช้อาวุธปืน.38 มาก่อนเหตุ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35