logo เช้านี้ที่หมอชิต

รวบหนุ่มอินเดียโหด กระหน่ำแทงกิ๊กชาวไทย 31 แผล ดับคาโรงแรม | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต : เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจตามล่าหนุ่มอินเดีย กระหน่ำแทงกิ๊กสาว อายุ 51 ปี ดับคาโรงแรมย่านวุฒากาศ ก่อนหลบหนีไป ล่าสุดมีรายงานว่าจ ข่าว,ช่อง7สี,ช่อง7HD,กด35,ข่าวช่อง7,CH7HD,รายการ,ดูย้อนหลัง,คลิปย้อนหลัง,CH7HDNEWS,ข่าวการเมือง,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวบันเทิง,ข่าวโซเชียล,ข่าวออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวภูมิภาค,ข่าวด่วน,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวสด,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ch7 news,เช้านี้ที่หมอชิต,ข่าวเช้า,ข่าวเช้าช่อง 7,เช้านี้ที่หมอชิตวันนี้,เช้านี้ที่หมอชิต ล่าสุด,เช้านี้ที่หมอชิต ช่อง7,TERO Digital

16,644 ครั้ง
|
17 เม.ย. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจตามล่าหนุ่มอินเดีย กระหน่ำแทงกิ๊กสาว อายุ 51 ปี ดับคาโรงแรมย่านวุฒากาศ ก่อนหลบหนีไป ล่าสุดมีรายงานว่าจับได้แล้วที่นครปฐม หลังพบว่าเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศทางจังหวัดกาญจนบุรี
 
เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 เม.ย.) มีคนพบศพ พบศพ นางสาวสุกัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในห้องของโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยวุฒากาศ 14 เขตธนบุรี กรุงเทพฯ สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง กางเกงยีน มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ลำตัวทั้งหน้า หลัง รวม 31 แผล เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง พบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต เปื้อนเลือดตกอยู่บนพื้น
 
พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำทีมตำรวจเข้าไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรจากโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งระหว่างที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยังมีเจ้าหนี้โทรฯ เข้ามาทวงหนี้จากผู้ตายอีกด้วย พบว่าภายในห้องข้าวของกระจายเกลื่อน เลือดกระจายเปื้อนกำแพงไปทั่วห้อง ยาวไปถึงในห้องน้ำและห้องแต่งตัว บนโต๊ะแต่งหน้ายังพบหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีน้ำเงินของคนร้ายวางอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบเบื้องต้นทรัพย์สินผู้ตายยังอยู่ครบ
 
สอบถามพนักงานต้อนรับของโรงแรม ให้การว่า ผู้ตายเข้ามาเปิดห้องพักตั้งแต่วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมผู้ชายชาวอินเดีย โดยผู้ตายจะมาที่โรงแรมในช่วงเช้าของทุกวัน แล้วจะกลับไปในช่วงค่ำ โดยชายชาวอินเดียใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-เทา ทะเบียน 1กว 623 นครปฐม
 
ซึ่งก่อนเที่ยงเมื่อวานนี้ ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงในห้องที่เกิดเหตุ จึงโทรศัพท์ไปหาผู้เช่า ปรากฏว่าฝ่ายชายเป็นคนรับแล้ววางสายถึง 2 รอบ สักพักเสียงทะเลาะหายไป จึงคิดว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว กระทั่งบ่ายโมงเศษ ชายชาวอินเดียคนดังกล่าวเดินลงมา ทำทีเล่นโทรศัพท์ แล้วเดินออกไปหน้าปากซอยอย่างใจเย็น
 
ส่วนน้องสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า ปกติอยู่บ้านเดียวกันกับพี่สาว เมื่อเช้าพี่สาวตนก็พาแม่ไปฟอกไต ไปกับพี่เลี้ยงอีกคน ประมาณ 08.30 น. พอส่งแม่เข้าห้องฟอกไตก็ออกมาธุระ ไม่ได้บอกว่าจะไปไหน บอกแค่ว่าเดี๋ยวบ่ายโมงกลับมา ตอน 15.00 น. มารู้อีกทีว่าพี่สาวเสียชีวิตแล้ว ตนไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับชายชาวอินเดียคนนี้เลย เพราะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน
 
ส่วนลูกชายของผู้เสียชีวิต อายุ 20 ปี เล่าว่า ตนและที่บ้านไม่มีใครรู้เรื่องแม่เลย แม่ปิดกั้นเรื่องนี้มาตลอด แม่ทำงานเป็นแม่บ้าน เช้าก็ออกไปทำงาน กลับมาก็ปิดโทรศัพท์ ปกติออกไป 05.00 น. บ้าง 06.00 น. บ้าง เย็นก็กลับเข้ามา 18.00 น. หรือ 19.00 น. บ้าง แม่ก็ยังอยู่กับพ่อที่บ้านด้วยกัน กับผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นทางชู้สาว ก่อนหน้านี้ตนเคยเห็นรูปผู้ชายคนนี้ในเฟสบุ๊กของแม่แบบสนิทสนมกันมาก พ่อก็เห็นแต่พอถามแม่บอกว่าโดนแฮ็กเฟส ไปแจ้งความจับแล้ว และชายคนนี้ถูกส่งกลับประเทศไปแล้ว ตนคิดว่าน่าจะคบกันนานแล้ว แต่แม่ปิดบังมาตลอด
 
เจ้าหน้าที่ทราบชื่อ นายยาเดฟ อายุ 32 ปี เป็นชาวอินเดีย เคยถูกจับกุมข้อหาหลบหนีเข้าเมือง แล้วถูกผลักดันให้ออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา แล้วหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เช่ารถจักรยานยนต์ที่อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ขี่มาพักอยู่กับ นางสาวสุกัญญา ที่แอบคบหากันในห้องที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุคนร้ายเดินไปขึ้นจักรยานยนต์รับจ้างหน้าปากซอยวุฒากาศ 14 ว่าจ้างให้ไปขึ้นรถตู้ที่วินข้างห้างพาต้า ปิ่นเกล้า ระบุปลายทางไปอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
 
ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้แล้วที่จังหวัดนครปฐม พบว่ามีอาการบาดเจ็บจากของมีคม ยังไม่ทราบว่าเกิดจากการต่อสู้ขณะสังหารผู้เสียชีวิตหรือไม่ เจ้าหน้าที่คุมตัวนำส่งโรงพยาบาล และจะสอบสวนสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
 
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง