สาวขับรถชนวัวดับ พิรุธชัด “ผญบ.” เป็นเจ้าของ แต่ประกันมาถึงปุ๊บ วัวไร้เจ้าของปั๊บ !

สาวสุดซวย ขับรถชนวัว รถพังยับ ชาวบ้านบอกกันเสียงเดียว "วัวของผู้ใหญ่บ้าน" แต่พอประกันมา ทุกคนเงียบ กลายเป็นวัวไร้เจ้าของ แถมผู้ใหญ่ ปัด ไม่ใช่เจ้าของวัว !?

 

 

            วันที่ 15 เม.ย. 2567 ดารา เบี้ยกลาง (ดา) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนได้ขับรถรถยนต์ชนวัวที่วิ่งตัดหน้ากลางถนน รถเสียหายพังยับ ต้องซ่อมในราคากว่า 2 แสน ส่วนวัวก็เสียชีวิต ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นวัวของผู้ใหญ่บ้าน แต่พอประกันมาถึง กลายเป็นวัวไร้เจ้าของ ไม่มีใครมารับผิดชอบ

 

            คุณดา เล่าต่อว่า วันที่เกิดเหตุวันที่ 27 มี.ค. 2567 ตนกำลังขับรถจาก จ.นครราชสีมา ไป จ.สระบุรี ระหว่างทางตนได้ขับรถบนถนน 2 เลนสวนกัน ซึ่งได้เหลือบไปเห็นไกล ๆ แล้วว่ามีคนเลี้ยงวัว ต้อนวัว 1 ตัวอยุ่ข้างหน้า ตนจึงได้ทำการชะลอมาเรื่อย ๆ ความเร็วอยู่ที่ 60-80 กม./ชม. ทว่าวัวกลับวิ่งข้ามถนนมากระทันหัน ทำให้ตนเบรกไม่ทัน ชนวัวเข้าเต็ม ๆ รถพังเสียหายยับเยินจนถุงลมนิรภัยทำงาน ส่วนวัวก็เสียชีวิต 

 

 

            หลังจากชนเสร็จแล้ว คนต้อนวัว เขาก็เดินมาถามตนว่าเป็นอะไรมากไหม แต่ตนก็จำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร เพราะหลังเกิดเหตุเขาก็หายไปเลย ต่อมาไม่นานก็มีเจ้าหน้าผู้หญิงของ อบต. เขามาแจ้งกับตนว่า "ดีนะคะที่ชนวัวของผู้ใหญ่บ้าน เขาดูแลเราดี" และ อบต. คนนี้ยังบอกอีกว่าเขาจะช่วยตามเรื่องกับผู้ใหญ่บ้านให้ พอได้ยินแบบนั้นทำให้ตนโล่งใจ เพราะจะมีคนมารับผิดชอบ นอกจากนั้นชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์เขาก็บอกเหมือนกันว่า วัวที่เราชนเป็นวัวสวย เป็นวัวพันธุ์ของผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งคอกอยู่ติดกับจุดเกิดเหตุเลย แต่พอประกันรถของตนมาถึงที่เกิดเหตุ มาถามหาเจ้าของวัวกลับไม่มีใครแสดงตนเป็นเจ้าของวัว 

 

            ซึ่งมันน่าแปลก เพราะก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ประกันจะมา ตนได้เอาเอกสารประกันออกมาอ่านเพื่อดูว่าประกันของตนคุ้มครองอะไรบ้าง ซึ่งก็ไม่ได้คุ้มครองการเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ ขณะเดียวกัน ก็มีชาวบ้านในละแวกนั้นที่ตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใครเพราะมันชุลมุน เขามาอ่านเอกสารของตนด้วย และเอาไปคุยกันซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกัน นอกจากนั้นหลังจากเกิดเหตุประมาณ 10 นาที ก็มีรถเข้ามาขอซื้อซากวัวกับตนถึงที่เกิดเหตุเลย เพราะวัวมันไม่มีเจ้าของ ตนเลยให้เขาไปคุยกับตำรวจ และทราบมาว่าเขาจ่ายให้ตำรวจในราคา 3,000 บาท เป็นเงินของกลาง แต่ทีมงานรายการถกไม่เถียงไปสืบมาว่าเขาจ่ายไปในราคา 10,000 บาท นอกจากนั้น อบต. หญิงที่คุยกับตนวันที่เกิดเหตุ ได้ติดต่อตนกลับมาว่า "พี่ช่วยหนูได้เท่านี้นะ" และบอกกับตนว่า ให้บอกกับประกันว่าเห็นเขารีดนมวัวอยู่ ทั้งที่ตนเห็นคนต้อนวัวข้ามฝั่งมา และยังบอกอีกว่า "พี่ช่วยหนูได้เท่านี้นะ เพราะพี่ต้องดูแลพวกเขา"

 

            สำหรับตอนนี้ ตนเดือดร้อนหนักมาก เพราะรถพังไม่สามารถใช้งานได้ ต้องจอดไว้ที่อู่ ตอนนี้รอแค่คู่กรณีมาชดใช้ อู่ประเมินราคาค่าซ่อมมาในราคา 239,644 บาท ขณะเดียวกัน ตำรวจก็ได้ติดต่อมาว่าหลังสงกรานต์จะติดต่อให้มาเคลียร์กับผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งตำรวจก็ยังไม่ปักใจว่าเป็นวัวของผู้ใหญ่บ้าน 

 

 

            ฟาก รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า คดีแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย ซึ่งตามกฎหมายแล้วริมถนนหรือบนถนนไม่ใช่สถานที่เลี้ยงวัว พรบ.จราจรทางบกมีโทษปรับ 500 บาท และถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น เจ้าของสัตว์นั้น ๆ ต้องซ่อมรถให้คู่กรณี เพราะถือว่าประมาทเลินเล่อ หรือถ้าคู่กรณีตาย เจ้าของสัตว์ต้องติดคุกด้วย อย่างไรก็ตาม เวลาเกิดเหตุอะไรแล้ววัวไม่ตาย ประกันจะทำเรื่องเคลมให้ เจ้าของจะโผล่มาทันที แต่พอวัวเป็นฝ่ายผิด ประกันไม่เคลมให้ เขาจะฟ้องกลับ กลายเป็นวัวไม่มีเจ้าของทันที ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ คดีนี้ ตำรวจต้องหาเจ้าของวัว หรือคนต้อนวัวให้เจอเสียก่อน 

 

            ด้าน ภิรมย์ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ยืนยันว่าวัวที่ถูกชนไม่ใช่วัวของตน ซึ่งวัวของตนก็มีเลี้ยงอยู่แถวที่เกิดเหตุเหมือนกัน ใครไปใครมาเขาก็จะคิดว่าเป็นวัวของตนไปเสียหมด ส่วนวัวตัวที่เกิดเหตุนั้น มาจากทางทิศเหนือ เพราะแถวนั้นมีเลี้ยงอยู่หลายฝูง แต่ตนก็ไม่แน่ใจว่าเป็นของใคร ซึ่งชาวบ้านชอบเอามาเลี้ยงใกล้คอกของตน เพราะมันเป็นทุ่งนา อย่างไรก็ตาม ตนจะช่วยตามหาอีกแรง