ออกถกไม่เถียง 1 วัน ! “สมพงศ์” คนเก็บไม้ รับสารภาพแล้ว | ถกไม่เท

จากกรณี เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 14.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานมีคนร้ายใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหินซ้อน ในขณะปฎิบัติหน้าที่ โดยจากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า เมื่อคืน (วันที่ 9 เม.ย. 67) เวลาประมาณ 21.00 น. ได้มีคนร้ายจำนวน 4 ราย ลักลอบเข้ามาที่โรงงานเอทานอล ในพื้นที่ หมู่ 13 บ้านหนองเหียง ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

 

 

ซึ่งใช้รถกระบะเป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ โดยแอบเข้ามาทางด้านหลังของโรงงาน และลักลอบตัดสายไฟ หม้อไฟ ภายในโรงงานดังกล่าว โดยโรงงานนี้ได้หยุดกิจการไปแล้ว แต่มีการจ้าง รปภ. ในการเฝ้าสิ่งของต่าง ๆ ภายในโรงงาน ในขณะที่คนร้ายกำลังลงมือขโมยทรัพย์สินย์อยู่นั้นทาง รปภ. ของโรงงานได้พบเห็นเข้า คนร้ายจึงหยิบปืนขึ้นมายิง ทำให้ทาง รปภ. วิ่งหนีออกมาจากพื้นที่ และรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหินซ้อน เมื่อตำรวจมายังที่เกิดเหตุ คนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ 2 นัด และหลบหนีไป

 

 

จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหินซ้อน ได้ระดมกำลังเข้าไปยังโรงงานดังกล่าว แต่พบเพียงแค่สิ่งของที่ถูกขโมยออกมากองไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงคาดว่าคนร้ายจะต้องย้อนกลับมาเอาสิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการก่อเหตุ จึงทำการแอบเฝ้าติดตามอยู่ในพื้นที่โรงงาน และเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. คนร้ายกลุ่มดังกล่าวได้ย้อนกลับมายังโรงงานเพื่อมาเอาสิ่งของที่ได้ทำการขโมยไว้เมื่อคืน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ 1 ในคนร้ายได้ควักปืนออกมายิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยมาตั้งหลัก และยิงต่อสู้กัน 1 ในคนร้ายถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจตกลงมาจากท้ายรถกระบะ ส่วนคนร้ายที่เหลือได้ทำการยิงเปิดทางจนสามารถหลบหนีไปได้ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

 

 

จนเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 นายสมพงศ์ ปิ่นแก้ว อายุ 40 ปี 1 ในผู้ก่อเหตุ ได้เข้าไปร้องยังเพจ สายไหมต้องรอด โดยมีนายเอกภพ เป็นผู้รับเรื่อง และดูแลในเบื้องต้น โดยนายสมพงศ์ได้เข้าไปเพื่อขอความช่วยเหลือ และอ้างว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ในคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิสามัญผิดคนซึ่งตน และพี่ชายตน (ผู้เสียชีวิต) ไม่ได้กระทำเหตุลักขโมยทรัพย์สินย์ของโรงงานตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวอ้าง ทำให้พี่ชายของตนเสียชีวิตจากการถูกวิสามัญ ซึ่งตนก็ไม่มีอาวุธปืนเพียงแค่ไปปัสสาวะ ข้างทางเท่านั้น โดยนายเอกภพ ก็ได้ทำการรับรองดังกล่าวไว้ และดำเนินการติดตามคดี

 

 

วันนี้ (13 เมษายน 2567) เวลาประมาณ 13.30 น. คณะทีมสายไหมต้องรอด นำโดยนายเอกภพ ได้นำตัว นายสมพงศ์ หรือ (ต้อย) มายังพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราโดยมีโปรแกรมว่าจะนำไปอัญเชิญวิญญาณผู้เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุ แต่เมื่อขับรถมาใกล้ถึงบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น นายเอกภพ ได้รับคลิปวงจรปิดในที่เกิดเหตุจากผู้สื่อข่าวโดย ในคลิปเห็นรถกระบะของนายสมพงศ์ (วงจรปิดคลิปที่ 1 วันที่ 6 เม.ย. 67 บรรทุกท่อส่งน้ำของโรงงานท้ายรถ) และ (คลิปวงจรปิดที่ 2 วันที่ 9 เม.ย. 67 มีของบรรทุกท้ายรถ) และ (คลิปที่ 3  เป็นคลิปจากโรงงานที่ท่อมีการถูกขโมยไป) จากนั้นเมื่อนายเอกภพ เห็นคลิปดังกล่าว จึงได้วนรถกลับไปยังโรงพักทันที โดยยกเลิกการอัญเชิญวิญญาณของผู้เสียชีวิต ซึ่งได้รับการรับสารภาพจากนายสมพงศ์ ว่าเป็นรถตน และตนได้ไปลักทรัพย์จริง 

 

 

เมื่อเดินทางมายัง สภ.เขาหินซ้อน นายเอกภพ ได้นำ นายสมพงศ์ เข้าไปหาพนักงานสอบสวน และบอกให้นายสมพงศ์พูดความจริงทั้งหมดที่ได้กระทำมา พร้อมทั้งผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าทำไมไม่พูดความจริงแต่แรก นายสมพงศ์กล่าวว่า ตนตั้งสติไม่ได้ยังสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งในเบื้องต้น นายสมพงศ์ ได้ยอมรับว่าตนได้ไปในที่เกิดเหตุจริงลักทรัพย์จริง แต่ตนไม่ได้เป็นคนลงมือยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่มีอาวุธปืน อาวุธปืนที่ต่อสู้เจ้าพนักงานนั้นไม่ใช่ของตน 

 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหินซ้อน จะได้ทำการสอบสวนหาผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนีไป อีก 2 ราย (ตามภาพวงจรปิดสุดท้าย ขี่จักรยานยนต์ ไป 2 คน) ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ไว้ได้มาก สำหรับเรื่องของการวิสามัญนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะได้รวมรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

รับชมคลิปรายการถกไม่เถียงย้อนหลังได้ที่ : https://youtu.be/ctCXVC4uMiQ?si=zlDOcXdCBlYdV-Q3

 

 

หนุ่มร้อง พี่ชายยืนฉี่ ถูก “ตร. วิสามัญผิดตัว” เจ้าตัวหวั่นถูกจับตาย เหตุถูกโบ้ยลักสายไฟ