หนุ่มร้อง ! พี่ชายถูกตำรวจยิงเสียชีวิต เชื่อวิสามัญผิดตัว เหตุยืนปัสสาวะในบริเวณที่เคยเกิดเหตุลักขโมยสายไฟ ด้านตำรวจยืนยัน มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าวิสามัญคนร้ายตัวจริง
วันที่ 12 เม.ย. 67 สมพงศ์ ปิ่นแก้ว (ต้อย) ผู้ที่ถูกตำรวจกล่าวหาว่าเป็นคนร้าย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ในวันที่เกิดเหตุ 10 เม.ย. 67 ตนเข้าไปในโรงงานร้าง ซึ่งไม่กี่วันก่อนหน้ามีโจรเข้ามาขโมยสายไฟ ยืนยันว่าตนไม่ใช่กลุ่มหัวขโมยดังกล่าว เป็นเพียงผู้ทำอาชีพเก็บฟืน เข้าไปเพื่อเก็บไม้ไปทำฟืนพร้อมกับพี่ชาย
ระหว่างทางได้จอดรถเพื่อปัสสาวะ จากนั้นได้ยินเสียงปืนไล่หลังมาซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มีเสียงของใครเลย จึงพยายามขับรถหนีแล้วตะโกนถามไปว่า "ยิงพวกผมทำไม" แต่อีกฝ่ายยังยิงไม่หยุด กว่าจะติดเครื่องได้ตนเห็นพี่ชายถูกยิงจนกระอักเลือดแล้วล้มลง ตัดสินใจขับรถหนีเพราะยังถูกยิงไม่หยุด ตนไม่กล้าไปแจ้งความเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย จึงไปร้องขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด คุณปรีชา ญาติของผู้ที่ถูกกล่าวหา เล่าว่า หลังจากเกิดเรื่อง ตนพยายามเข้าไปในที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้เข้าไปในพื้นที่
คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าต่อว่า ครอบครัวของผู้เสียหายกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากตำรวจแจ้งว่าวิสามัญพี่ชายคุณต้อยเพราะเห็นว่าเป็นคนร้ายที่เข้ามาขโมยสายไฟ คุณต้อยจึงกังวลว่าตัวเองที่รอดชีวิตมา จะถูกตำรวจมาตามวิสามัญอีก และตำรวจอ้างว่าทั้งสองฝ่ายมีการยิงต่อสู้กัน จึงได้พาคุณต้อยไปตรวจคราบเขม่าดินปืนเพื่อพิสูจน์ความจริง เรื่องนี้มีข้อสังเกตคือก่อนหน้าวันเกิดเหตุมีการปะทะกันหนึ่งครั้ง แล้ววันต่อมาโจรที่ไหนจะกล้ากลับมาเอาของกลางอีก
นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า การวิสามัญของตำรวจจะต้องมีการสืบหาความจริง ทั้งการสืบสวนและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ว่ามีการยิงตอบโต้กันจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องความปลอดภัยคุณต้อยสามารถขอคุ้มครองพยานได้ หากพิสูจน์ว่าคุณต้อยไม่มีความผิด ก็สามารถขอเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ และจะต้องตรวจสอบว่าการทำงานของตำรวจ มีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่
พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ (ผู้การแต้ม) อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ความเห็นว่า ตำรวจที่ทำการวิสามัญปกติแล้วจะถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากนั้นต้องทำการชันสูตรพลิกศพ และเก็บหลักฐานต่าง ๆ การพาคุณต้อยไปตรวจเขม่าดินปืนถือว่าทำถูกต้องแล้ว เมื่อคุณต้อยมีข้อขัดแย้งกับตำรวจ เรื่องนี้จะต้องไปทำการสืบสวนหลังเกิดเหตุเพิ่มเติม
เหตุของการวิสามัญจะต้องอ้างเหตุป้องกันตัว แต่จากคำบอกเล่าของคุณต้อยที่บอกว่าไม่ได้ยิงตอบโต้ ก็จะต้องสืบว่าเป็นความจริงหรือไม่ ส่วนการยิงโดยไม่พูดก่อนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ ปกติแล้วตำรวจจะต้องมีการพูดคุยเพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นคนร้าย พร้อมแนะนำให้คุณต้อยไปมอบตัวและต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม
พ.ต.อ. พศิน รุจิวัชรธนา ผกก.สภ.เขาหินซ้อน ชี้แจงว่าตำรวจมีหลักฐานในการวิสามัญคนร้าย ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน มีการยิงตอบโต้กับคนร้าย และได้พบหลักฐานเป็นเครื่องมือและของที่ถูกขโมย พร้อมยืนยันว่า รปภ.ในที่เกิดเหตุสามารถชี้ตัวหนึ่งในสองคนนี้ได้ เมื่อถึงวันเกิดเหตุตำรวจคาดว่าว่าคนร้ายจะกลับมาเอาของ เห็นรถรุ่นเดียวกับคันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุประจำ ตำรวจคาดว่าคนร้ายจะมีอาวุธปืนพร้อมแสดงตัวของตรวจค้น แต่อีกฝ่ายเริ่มเปิดฉากยิงก่อน จึงเกิดการวิสามัญขึ้น จากหลักฐานทั้งหมดของตำรวจทำให้มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าวิสามัญไม่ผิดตัว และหลังจากนี้จะออกหมายจับคุณต้อยต่อไป
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. และทุกวันเสาร์ - วันอาทิตย์ พบกับ รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35