เช้านี้ที่หมอชิต - กลายเป็นเรื่องดังระดับชาติ กรณีเพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว เปิดคลิปสามีนักการเมืองหญิง ชื่อย่อ ป. ช็อก เพราะภรรยาแอบมีสัมพันธ์สวาทกับพระมหารูปหนึ่ง จับได้คาห้องนอนในลักษณะเปลือยกาย ล่าสุดสามีเปิดใจ ก่อนและหลังนาทีช็อก ถึงตอนนี้แม้แต่คำขอโทษยังไม่ได้รับ
เปิดใจผัวนักการเมืองหญิง เชื่อเมียถูกพระมหาหลอก
เมื่อบ่ายวานนี้ (11 เม.ย.) สามีของนักการเมืองหญิงรายนี้ เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ตนเองเพิ่งระแคะระคายถึงความสัมพันธ์ของภรรยา และพระมหาหนุ่มรูปนี้ มาแค่ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ที่ผ่านมาตนและฝ่ายหญิงก็ไปทำบุญด้วยกันมาตลอด แต่จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มาทำงานที่กรุงเทพฯ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งก็ติดต่อกันพูดคุยกันตลอด แต่มีคนมาบอกว่า คนรักของตนไปที่วัดอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน บางครั้งก็ไปพูดคุยกันในรถ แต่ฝ่ายหญิงไม่ค่อยบอกอะไรตนมาก และโดยปกติภรรยาของตนกับพระมหารูปนี้ จะโทรไปคุยบ่อยครั้ง แต่ตนเองก็เข้าใจ เพราะคิดว่าอาจจะต้องการคำปรึกษาหรือที่พึ่งทางใจ แต่พระมหารูปนี้ ก็ยังเคยมาที่บ้านหลายครั้ง ทั้งมาสวดมนต์บ้าง มาทำพิธีบ้างจนบางครั้งดึกดื่น เลยจัดห้องไว้สำหรับพระมหา ซึ่งก็เป็นห้องว่างที่บ้าน
สำหรับกรณีที่รับพระมหารูปนี้มาเป็นบุตรบุญธรรม เนื่องจากภรรยาเล่าให้ฟังว่า พ่อแม่ของพระมหาแยกทางกัน ทำให้ท่านต้องอยู่คนเดียว ตนเองเลยเสนอให้รับพระมหามาเป็นบุตรบุญธรรม แต่ภรรยาปฏิเสธ บอกให้ตนรับไปคนเดียว เนื่องจากเขามีลูกติดอยู่แล้ว จึงไปบอกรับเป็นลูกบุญธรรมกันที่หน้าวัดพระธาตุดอยสะเก็ด
หลังเกิดเหตุตนก็ยังไม่ได้คุย และยังไม่ได้รับคำขอโทษจากฝ่ายหญิง รวมถึงพระมหา อีกทั้งยังได้ยินมาว่าฝ่ายหญิงยังมาตำหนิตนเองให้คนอื่นฟังอีกด้วย ส่วนพระมหาถือว่าขาดจากการเป็นลูกบุญธรรมโดยปริยาย จากนี้คงต้องปรึกษาทนายว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไรได้บ้าง
สามีบอกว่า ภรรยามีความเชื่อในเรื่องหมอดูมากๆ แต่ส่วนจะถูกพระหลอกให้เชื่อในเรื่องอดีตชาติหรือไม่นั้น ตนเองก็พูดได้ไม่เต็มปาก แต่ภรรยาไปเชื่อในสิ่งที่พระมหารูปนี้พูด ค่อยๆ ใส่ความเชื่อ และข้อมูลให้ภรรยามาตลอด และก่อนที่ตนเจอภรรยา เขาไปทอดกฐิน แล้วมี ครูบาอาจารย์ทักว่าจะมีพระที่มีอภิญญามาช่วยกอบกู้ให้ชีวิตดีขึ้น 1 ในนั้นก็มีพระรูปนี้ด้วย ตนเองก็ไม่รู้ว่าไปตามหากันจนเจอได้อย่างไร หลังเกิดเหตุความรักและห่วงใยที่เคยมีให้ก็ลดน้อยลง เชื่อว่าไม่มีใครรับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แฉอีก คลิปเสียงนักการเมืองหญิงคุยพระมหา โวยความลับรั่ว
ต่อมา เพจดังอย่าง อีซ้อขยี้ข่าว ออกมาโพสต์แฉเพิ่มเติม ทั้งกรณีที่นักการเมืองหญิงวิดีโอคอลหาพระมหา จากในห้องนอน และต่อมา ก็เปิดเผยคลิปเสียง ที่อ้างว่าเป็นของพระมหา และนักการเมืองหญิงชื่อย่อ ป. ที่โทรคุยกับโยมอุปัฏฐาก หลังมีข่าวว่าพระมหา ยอมรับกับโยมอุปัฏฐากทำให้นักการเมืองสาวไม่พอใจที่ความลับรั่วไหลเป็นข่าวดัง โดยในคลิปจะมีบุคคล 3 คน คือนักการเมืองหญิง พระมหา และโยมอุปัฏฐาก
เนื้อหาใจความในคลิป คร่าว ๆ คือนักการเมืองหญิงไล่ถามทางโยมอุปัฏฐากว่า เอาหลักฐานอะไรว่าฉันกับหลวงพี่ได้กัน ไปพูดต่อในฐานะอะไร ส่วนหลวงพี่ก็อารมณ์ขึ้น โวยโยมอุปัฏฐากบอกว่าไม่ได้พูดว่าได้กัน เอาเรื่องนี้ไปพูดต่อกันเพื่ออะไร ซึ่งน้ำเสียงของฝ่ายนักการเมืองหญิง ป. ไม่พอใจอย่างมาก
ผอ.สำนักพุทธ แจง พระมหาหนุ่ม ลาสิกขาตั้งแต่ มี.ค.
ทางด้าน นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า จากการตรวจสอบพระรูปดังกล่าว ลาสิกขาไปตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมแล้ว โดยเรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่เพิ่งมาเป็นข่าว
ซึ่งเมื่อลาสิกขาแล้ว ทางสำนักพุทธดำเนินการไม่ได้จึงขึ้นอยู่กับผู้เสียหายว่าจะดำเนินคดีหรือไม่
แต่น่าสังเกตว่า กรณีที่ตรวจสอบว่าพระรูปดังกล่าวลาสิกขาไปแล้วตั้งแต่ 22 มีนาคมแต่เสียงในคลิปที่เพิ่งปล่อยมา และข่าวนี้เพิ่งเป็นข่าวดังเมื่อ 10 เมษายน แต่ในบทสนทนา ทางนักการเมืองหญิงยังเรียกพระรูปดังกล่าวว่า หลวงพี่ การสนทนาจึงน่าจะเกิดขึ้นในขณะที่พระรูปนี้ยังไม่ลาสิกขา หรือไม่
ปชป.ตั้งกก.สอบ นักการเมืองหญิง จ่อขับพ้นพรรค
ส่วนกรณีที่มีการเปิดเผยว่า นักการเมืองหญิงรายนี้ ชื่อเล่น ป. เป็นนักการเมืองสังกัดพรรคสีฟ้า ซึ่งก็คือพรรคประชาธิปัตย์ ทางด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแถลงเมื่อวานนี้ ว่าพรรคได้รับทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 เมษายน พรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามเก็บข้อมูลในทันทีก่อนได้รายงานให้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคทราบเนื่องจากเห็นว่าบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของพี่น้องประชาชน ซึ่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ได้มีคำสั่งในทันทีให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริง เรื่องดังกล่าวเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บุคคลที่อ้างดังกล่าวเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองใด ๆ กับพรรค อีกทั้งไม่ได้มีตำแหน่งใด ๆ ในพรรค โดยคณะกรรมการจะตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบว่าสมาชิกพรรคคนดังกล่าวมีการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค ก็จะมีโทษถึงขั้นพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรค
ขอบคุณภาพจาก : Facebook อีซ้อขยี้ข่าว
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35